สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

Jesse Livermore's Methods


Jesse Livermore's Methods การเลือกหุ้น, หนทางสู่ความสำเร็จ, การตีความข่าว, ตลาด จาก Jesse Livermore's Methods of Trading in Stocks http://www.supertradersystem.com/library/JESSE-LIVERMORE-METHODS.pdf . เป็นบทสัมภาษณ์ที่ให้กับ Richard D. Wyckoff หลังจากที่ล้มละลายครั้งแรกแล้วกลับมาทำเงินได้อีกครั้งและสามารถใช้หนี้ได้หมดในเวลาไม่นาน (ถ้าใครยังไม่ได้ได้อ่านประวัติของเขาก็ให้ไปดูสรุปได้ที่ fb.com/zyoit/posts/738785559582036:0 ) ซึ่งตอนนั้นผู้คนฮือฮามาก ผมจะคัดเอาเฉพาะเนื้อหาบางส่วนที่สนใจและพอแปลได้เข้าใจนะ
#เลี่ยงหุ้นราคาถูกๆ ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดของนักลงทุนมือใหม่ก็คือการซื้อหุ้นที่ถูกซื้อขายในราคาถูกๆ เพราะความจริงก็คือราคาไม่ได้บอกมูลค่าที่แท้จริงเสมอไป ควรดูอย่างอื่นด้วย เช่นการจ่ายปันผล ความสามารถในการทำกำไร ฯลฯ
#หาธุรกิจที่แข็งแกร่ง - ในการเลือกหุ้น, นักลงทุนควรดูว่าอุตสาหกรรมไหนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแรง ธุรกิจไหนที่อ่อนแอกว่า อ่อนแอที่สุด ฯลฯ - หลีกเลี่ยงอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ - นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่เคยแยกว่าหุ้นตัวไหนแข็งแรงตัวไหนอ่อนแอ แถมแยกไม่เป็นด้วย ทำให้พลาดโอกาสงามๆไปบ่อยครั้ง จึงควรเลี่ยงอุตสาหกรรมที่อ่อนแอและหุ้นที่ราคาต่ำมากๆ เพราะมันบ่งบอกว่ามีพื้นฐานที่ไม่มั่นคง - ให้เกาะกระแสอุตสาหกรรมที่แข็งแรงไว้ พวกที่มีอนาคตสดใสและเติบโตได้อีก
#หุ้นมีฤดูกาลและแฟชั่นของมัน - นักลงทุนควรเข้าใจว่าหุ้นหรือธุรกิจนั้นล้วนมีฤดูกาลและแฟชั่นของมัน เช่น ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับหุ้นรถยนต์และยาง ซึ่งราคาจะวิ่งดีในช่วงนั้นแล้วจากนั้นก็จะร่วงเพราะจบช่วงเวลาที่ดีไปแล้ว
#หนทางสู่ความสำเร็จ - การประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นมีวิธีการเดียวเท่านั้น - คือ การหาข้อมูลอย่างหนักก่อนลงทุน โดยเฉพาะทางด้านพื้นฐานของกิจการ ประวัติ และสถานการณ์ของเศรษฐกิจในขณะนั้น . - สิ่งที่ทำให้ลิเวอร์มอร์ประสบความสำเร็จก็คือ "ความรู้+ความอดทน" น้อยคนนักที่ประสบความสำเร็จในตลาดได้โดยปราศจากความอดทน คนส่วนใหญ่อยากรวยเร็วๆ ผลคือไปไล่ซื้อหุ้นที่ยอดดอยกัน ในระยะยาวแล้ว, ความอดทนจำเป็นเหนือกว่่าสิ่งอื่นใด ความรู้ก็จำเป็น หาข้อมูลให้มากก่อนซื้อหุ้น อย่าหวั่นไหวหากราคาไม่ไปไหน มันจะวิ่งเมื่อถึงเวลา,โดยเฉพาะในช่วงตลาดขาขึ้น อย่าลืมเลือกหุ้นแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมที่แข็งแรง และให้ซื้อเมื่อคุณเห็นว่ามันกำลังจะวิ่งขึ้นเท่านั้น
#วิธีการหาข้อมูลจากข่าว นอกจากการที่เขานอนไวและตื่นเช้า ลิเวอร์มอร์ใช้เวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมงก่อนอาหารเช้าเพื่ออ่านหนังสือพิมพ์ โดยเน้นไปที่การเจาะหาความจริงจากข่าวนั้นๆ หาข้อมูลที่น่าจะมีผลต่อตลาด, ธนาคาร, การค้าต่างประเทศ, การเงิน, ผลิตผลการเกษตร, รายงานของบริษัท และสถิติการซื้อขาย
#วิธีการตีความข่าว หลังจากที่อ่านข่าวตอนเช้า, เขาจะได้ข้อมูลทางพื้นฐาน แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาตัดสินใจซื้อเลย แต่จะดูเทป(หรือในปัจจุบันก็คือติ๊กเกอร์รวมถึงกราฟ) ข่าวจากเทปจะบอกให้เขารู้ถึงความเคลื่อนไหวและพัฒนาการล่าสุดของมันที่ถูกสะท้อนจากทุกส่วนของโลก เพราะตลาดจะเป็นตัวสะท้อนความเห็นของผู้เล่นทุกคนซึ่งบางคนอาจมีพลังมากกว่าคนอื่น ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนอารมณ์ตลาดให้คนอื่นๆตัดสินใจซื้อหรือขายตามได้ ลิเวอร์มอร์ชอบอ่านความนัยเพื่อค้นหาว่าทำไม "พวกเขา" ถึงได้พยายามทำสิ่งนั้น การตีความข่าวของเขานั้น, ทำได้สองทาง ๑) เพื่อตัดสินว่าคนส่วนใหญ่/หรือรายใหญ่คิดจะขายเพื่อกดทั้งตลาดหรือเพื่อทุบหุ้นแค่บางตัว จากนั้น ๒) เขาจะดูติ๊กเกอร์เพื่อหาหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากข่าวนั้น เพื่อดูว่ามันมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อหรือขายในหุ้นบางตัว การตีความข่าวของเขาอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างจากการแสดงออกของตลาด แต่เขาก็รู้ว่าการพัฒนาการนั้นมีความสำคัญเพียงพอ, มันจะส่งผลต่อเทปในอีกไม่ช้า
ตลาดต้องการ "#การทำความเข้าใจ" ลิเวอร์มอร์บอกว่า "ทุกคนคิดว่าความสำเร็จของเขานั้นขึ้นอยู่กับโอกาสที่อาจจะมาจากข้างนอกตลาด ซึ่งเป็นทัศนคติที่ผิดตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว ปัญหาใหญ่สุดของใครก็ตามที่ซื้อหุ้นก็คือเขามองว่าตลาดหุ้นเป็นบ่อนการพนัน ควรมีใครสักคนเข้าใจว่าการลงทุนหุ้นนั้นต้องการ “การศึกษาเพื่อทำความเข้าใจและเตรียมตัว” ซึ่งไม่ต่างจากการเรียนกฎหมายหรือแพทย์เลย คนมากมายบอกว่าที่ผมกำไรหุ้นเป็นเพราะความโชคดี ทั้งที่ความจริงแล้ว, ผมใช้เวลาตลอด15 ปีเพื่อเรียนรู้มันอย่างใกล้ชิด จะว่าผมอุทิศชีวิตให้กับมัน, อีกทั้งยังลงมือทำให้ดีที่สุดอีกด้วย

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks