สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

ประโยคทองเกี่ยวกับความเสี่ยง ในหนังสือ "คัดหุ้นชั้นยอด ด้วยระบบชั้นเยี่ยม"

ทีมที่เอาแต่บุกอย่างเดียวโดยไม่มีการป้องกัน มีโอกาสที่จะชนะน้อยมาก
อันที่จริงแล้ว บ่อยครั้งที่การป้องกันอย่างแข็งแกร่ง
สามารถที่จะขับเคลื่อนให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้เลย
วิลเลี่ยม โอนีล

ในตลาดหุ้น คุณไม่มีทางที่จะชนะในเกมการลงทุน
นอกเสียจากว่าคุณจะมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง
เพื่อปกป้องตัวคุณจากการขาดทุนครั้งใหญ่
วิลเลี่ยม โอนีล

ไม่ว่าคุณจะฉลาดแค่ไหน
มีไอคิวที่สูงเท่าไหร่ มีการศึกษาสูงเพียงใด
มีข้อมูลที่ดีแค่ไหน หรือมีการวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือขนาดไหนก็ตาม
คุณก็ไม่มีทางที่จะเป็นฝ่ายถูกทุกครั้ง และตลอดเวลา
อันที่จริงแล้ว
คุณน่าจะเป็นฝ่ายถูกน้อยกว่าครึ่งของทั้งหมดด้วยซ้ำ
วิลเลี่ยม โอนีล

กฏข้อแรกของนักลงทุนรายย่อยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ก็คือ
ตัดการขาดทุนให้เร็วเสมอ
จำกัดการสูญเสียในทุกๆครั้ง
การจะทำแบบนี้ได้ต้องอาศัยวินัยและความกล้าหาญอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
วิลเลี่ยม โอนีล

การขาดทุนให้น้อยและทำกำไรให้มากคือจอกศักดิ์สิทธิ์แห่งการลงทุน
มาร์ค แมนเดล

ผมชอบที่จะทำตามอัตราส่วน 3 ต่อ 1
ระหว่างการขายเพื่อทำกำไรและการขายตัดขาดทุน
คือถ้าคุณทำกำไรที่ 20% ถึง 25% ก็ให้ตัดขาดทุนที่ 7 % หรือ 8 %
วิลเลี่ยม โอนีล

ความลับทั้งหมดของชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้น
ไม่ใช่การเป็นฝ่ายที่ถูกทุกครั้ง
แต่เป็นการขาดทุนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุกครั้งที่คุณผิด
วิลเลี่ยม โอนีล

มันเป็นหน้าที่ของคุณ
ที่จะต้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาด
และอย่าพยายามทำให้ตลาดไม่อยู่ในทิศทางเดียวกับคุณ
วิลเลี่ยม โอนีล

คุณจะสามารถบอกได้อย่างไรว่าคุณอาจจะผิดไปแล้ว
มันเป็นเรื่องง่ายๆก็คือตอนที่ราคาหุ้นมันตกลงไปต่ำกว่าราคาที่คุณซื้อมัน
วิลเลี่ยม โอนีล

ผู้คนคิดกันไปว่าการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น
คุณจะต้องมีโชคและก็จะต้องเป็นฝ่ายที่ถูกเกือบจะในทุกครั้ง
มันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก
คนที่ประสบความสำเร็จก็ทำความผิดพลาดมากมาย
และความสำเร็จของพวกเขามาจากการทำงานหนัก ไม่ใช่จากโชคดี
พวกเขาก็แค่พยายามหนักกว่าและบ่อยครั้งกว่าคนโดยเฉลี่ยทั่วไป
มันไม่มีความสำเร็จที่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน
ความสำเร็จนั้นต้องใช้เวลา
วิลเลี่ยม โอนีล

ในการที่จะมีหุ้น 1 หรือ 2 ตัวที่จะทำเงินจำนวนมากให้กับคุณ
คุณจำเป็นจะต้องมองหาและซื้อหุ้นมา 10 ตัว
วิลเลี่ยม โอนีล

เพื่อที่จะปกป้องเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบาก
ผมคิดว่าตัวเลขการขาดทุน 7% หรือ 8% ควรจะเป็นจุดจำกัดที่มากที่สุด
ค่าเฉลี่ยของการขาดทุนทั้งหมดคุณควรจะน้อยกว่านั้น
บางทีอาจจะเป็น 5% หรือ 6%
ถ้าคุณทำตามวินัยอย่างเคร่งครัดและตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
วิลเลี่ยม โอนีล

มันไม่มีหุ้นตัวใดที่ปลอดภัยและแน่นอน
ทุกตัวสามารถที่จะตกลงไปได้ในทุกเวลา
และคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันจะตกลงไปได้มากขนาดไหน
วิลเลี่ยม โอนีล

การขาดทุน 50% ทุกครั้งจะเริ่มต้นมาจากการขาดทุน 10% หรือ 20% ก่อน
วิลเลี่ยม โอนีล

จำเอาไว้ว่าถ้าคุณปล่อยให้หุ้นตกลงไป 50%
คุณจะต้องทำกำไรให้ได้ 100% กับหุ้นตัวถัดไป
เพียงเพื่อที่จะกลับมาเท่าทุน
และมันบ่อยแค่ไหนกันที่คุณซื้อหุ้นแล้วมันขึ้นไป 1 เท่าตัว?
วิลเลี่ยม โอนีล

ลืมอีโก้ของคุณ
กล้ำกลืนความภาคภูมิใจของคุณลงไป
หยุดพยายามที่จะโต้เถียงกับตลาด
อย่าใช้อารมณ์ไปยึดติดกับพวกตัวใดที่กำลังทำให้คุณเสียเงินอยู่
วิลเลี่ยม โอนีล

ผมขายหุ้นในตอนที่มันยังวิ่งขึ้นไป
และนั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ผมสามารถรักษาความมั่งคั่งของผมเอาไว้ได้
หลายครั้งที่ผมอาจจะทำกำไรได้มากขึ้นถ้ายังถือหุ้นเอาไว้ต่อ
แต่ผมก็จะต้องติดอยู่กับหุ้นขาลงในตอนที่ราคาหุ้นมันร่วงลงมาด้วย
เบอร์นาร์ด บารุค

เมื่อราคาได้ขึ้นมาถึงบริเวณที่เท่ากับราคาเป้าหมาย
หรือมีราคาที่สูงเกินมูลค่าแล้ว
ควรที่จะลดปริมาณการถือหุ้นลงมาเรื่อยๆในขณะที่หุ้นกำลังวิ่งขึ้นไป
เจอรัลด์ เอ็ม โล๊บ

เพื่อการประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในตลาดหุ้น
ควรจะต้องมีกฎและแผนการของกำไรและการขาดทุนที่ชัดเจน
วิลเลี่ยม โอนีล

คุณสามารถที่จะเรียนรู้การลงทุนอย่างชาญฉลาดได้
ถ้าคุณเต็มใจที่จะศึกษาจากความผิดพลาดทั้งหมดของคุณ
เรียนรู้จักพวกมันและเขียนกฎใหม่ที่แก้ไขขึ้นมาด้วยตัวเอง
วิลเลี่ยม โอนีล

คุณไม่สามารถที่จะกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้นได้
จนกว่าคุณจะเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ขายที่เก่ง
เช่นเดียวกับผู้ซื้อที่เก่ง
วิลเลี่ยม โอนีล

ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 98% ของนักลงทุนทั้งหมดทำก็คือ
ไม่เคยที่จะใช้เวลาไปเพื่อการพยายามเรียนรู้ว่า
พวกเขาทำความผิดพลาดไปที่ตรงจุดใดในการซื้อและการขายหุ้นของพวกเขา
และอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องหยุดทำ
หรือต้องเริ่มทำเพื่อที่จะประสบความสำเร็จให้มากขึ้นกว่าเดิม
วิลเลี่ยม โอนีล

ความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จ
และคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในแวดวงใดๆก็คือ
คนที่ประสบความสำเร็จจะทำในสิ่งที่คนอื่นไม่อยากจะทำ
วิลเลี่ยม โอนีล

หนังสือมีขายตามร้านซีเอ็ด นายอินทร์ และออนไลน์นะครับ
แนะนำให้หามาอ่านโดยพลัน
โบราณเขาบอกว่า "คนที่อ่านสามก๊ก ๓ จบ คบไม่ได้"
แต่ผมบอกเลยว่า ถ้าหากท่านอ่าน "คัดหุ้นชั้นยอด ด้วยระบบชั้นเยี่ยม" เกิน ๓ จบ
ท่านมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้
ฟันธง !!!

ปล.เรื่องของการทำความเข้าใจความเสี่ยง และการปรับทัศนคติเกี่ยวกับความเสี่ยง
ผมเขียนแบบจัดเต็มในหนังสือ "ความรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท" แล้วนะครับ
หามาอ่านได้

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks