เคล็ดลึก(เชิงปฏิบัติ) ตัวนี้จะสวิงเทรดสั้น หรือรันเทรนด์ ดีนะ?

Image
เคล็ดลึก Let’s profit run: ทนรวยอย่างไร? ถือสั้น-ยาวแค่ไหน? ให้ได้กำไรคุ้มที่สุด https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM2NDk4MTt9 จุดตัดสินใจ – จะเป็น Swing หรือ Position ต้องรู้ตั้งแต่แรก“คนที่ไม่รู้ว่ากำลังเล่นเกมอะไร…มักจะเปลี่ยนกติกากลางทาง แล้วจบด้วยการแพ้แบบงงๆ” ก่อนเข้าเทรดทุกครั้ง ให้คุณถามตัวเองว่า...ฉันจะ เก็บรอบสั้น หรือ หวังเก็บรอบใหญ่?ฉันพร้อมจะ ขายไว หรือ ยอมทนการย่อได้เป็นเดือน?ฉันมอง กำไร 3R แล้วจบ หรือ หวัง 10–20R?ฉันจะดู กราฟ Daily หรือ Weekly? คำถามเหล่านี้คือ “เข็มทิศ”ที่จะพาคุณเข้าสู่เกมที่คุณ “เลือกแล้ว” ไม่ใช่ปล่อยให้มันลากคุณไป ตัวอย่างของความผิดพลาดที่เกิดจาก “ไม่ตัดสินใจให้ชัด” ตั้งใจจะ Swing แต่พอหุ้นขึ้นแรง → เสียดาย ไม่ขาย→ หุ้นย่อ → ขาดทุน → จบแบบเจ็บใจ บอกว่าจะ Position แต่ดูกราฟ 5 นาที → หุ้นขยับนิดเดียว → เครียด → ขาย → พอเวลาผ่านไป → หุ้นวิ่งต่อ → พลาดเทรนด์ใหญ่ ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจาก “ความผิดพลาดของกราฟ” แต่มาจากการ “ไม่มีจุดยืน” ว่าจะเทรดแบบไหนตั้งแต่แรก วิธี...

หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด ที่อยากแนะนำจริงๆ

หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด

ในมุมมองของผมนะ หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด เป็นอะไรที่นักเทรดควรอ่านมากที่สุด
คือควรอ่านก่อนหนังสือเทคนิคการเทรดด้วยซ้ำไป

แต่ในโลกความจริง มันเป็นไปไม่ได้ ที่เราจะอ่าน หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด ก่อน
เพราะอะไร?
เพราะว่ามันเข้าใจยากไงครับ

หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด เป็นเหมือนอะไรที่ "ปรัชญาน่าดู" เกินไป
ต้องปีนกระไดอ่าน แปลไทยเป็นไทยหลายตลบ ถึงจะเข้าใจ



ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยตั้งใจอ่านหนังสือประเภทนี้มาหลายรอบ
ปรากฎว่าล่มกลางทางโดยตลอด
อ่านได้ไม่กี่หน้าก็พับ เอาไปเก็บไว้ในชั้น ทิ้งไว้อย่างนั้น
เพราะมันทำความเข้าใจยาก

ทำไมเข้าใจยาก?
ผมว่านะ มันเป็นตัวหนังสือเสียส่วนใหญ่ไง
อีกอย่างประเด็นของมัน เป็นอะไรที่ "วิทยานิพนธ์" เอามากๆ
นึกออกมั้ย? ใช้ภาษาระดับสูง ไทยคำอังกฤษคำ
ถ้าแปลมาจากภาษาอังกฤษ ก็เชื่อได้เลยว่า แปลแบบคำต่อคำ



เคารพต้นฉบับมาก
แต่ไม่เป็นมิตรต่อผู้อ่านน่ะสิ

คนอ่านไม่รู้เรื่อง
แม้แต่ผมเองที่อ่านหนังสือ แทบจะกินหนังสือแทนข้าว
ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด พยายามจะสื่อเลย

ทำไมผมไม่เข้าใจ?
ผมว่านะ หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด ทั่วไป มักจะยกตัวอย่างที่ไกลตัว
โดยเฉพาะเรื่องของจิตวิทยาที่มาจากห้องแลป
สุ่มคนจำนวนหนึ่งไปทดสอบ แล้วเอาผลมาเขียน

แบบนี้มันไม่เข้าถึงคนอ่านหรอก ท่านว่ามั้ย
มันไกลตัวเกินไป ทำให้อินยากมาก



ยกตัวอย่างหนังสือ "Trading in the zone"
ชาวโลกว่าดีนักดีหนา แต่พอแปลมาเป็นไทย
นักอ่านส่วนใหญ่บ่นกันพึม ว่าอ่านยาก แปลเป็นไทยหลายรอบ กว่าจะเข้าใจ
บางคนถึงกับบ่นคนแปล
ซึ่งผมเข้าใจนะ ว่าเขาคงอึดอัดใจเหมือนกันแหละ
เพราะต้นฉบับก็ ปรัชญาน่าดู ไม่น้อยเลย

อีกเล่ม The Daily Trading Coach : ปรับความคิดสู่เทรดเดอร์มืออาชีพ
นี่ก็หนาจัด ผมพยายามหยิบมาอ่านหลายรอบแล้วครับ
ถือได้ไม่เกิน 10 นาทีหรอก ต้องวาง
เพราะท้อใจครับ อ่านแล้วไม่ไปไหน

หนังสือ จิตวิทยาการลงทุน ก็ไม่ต่างกันครับ
นี่เป็นการเอาประเด็นที่เกิดจากการทดลองมาเขียน
เอาแนวคิด ทฤษฎี เชิงจิตวิทยามาเขียนครับ
ซึ่งผมยอมรับว่าอ่านไม่จบเช่นกัน
เพราะไม่รู้จะเอาไปใช้ยังไง ไกลตัวเกินไป



อย่ากระนั้นเลย
ผมเอง ที่เป็นนักเขียน และนักเทรด จึงอยากเอาบ้าง
อยากทลายกำแพงความยากของ หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด
ด้วยการเขียนมันออกมาให้ท่านอ่านสักชุด

โดยสไตล์การเขียนของผมนั้น เป็นแบบ "เม่าเขียนให้เม่าอ่าน" ครับ
ก็เอาประสบการณ์จริงของตัวเองมาเขียนนี่แหละ
ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่นักเทรดส่วนใหญ่เจอ
รับรองว่าท่านอ่านแล้วต้องอุทานว่า "เหมือนกูเลย"
"เอาเรื่องของกูไปเขียนหรือเปล่า" แบบนี้เลยครับ

รับรองว่า หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด ของผม ทำมาให้ท่านอ่าน
ไม่ได้เอาไปวางไว้บนหิ้งแน่นอนครับ



ตอนนี้มีออกมา ๑ เล่มแล้วครับ
ว่าด้วยการขาดทุน
ชื่อ "ความรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท"
หน้าตาแบบนี้ครับ



รับรองว่านี่เป็น หนังสือ จิตวิทยา การ เทรด ที่อ่านง่ายที่สุดเท่าที่คุณเคยอ่านทีเดียว

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap หุ้น & ทฤษฎี Gap หุ้น

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ