ZYO BLOG

Amkor $AMKR – ผู้นำเซมิคอนดักเตอร์ด้านแพ็กเกจจิ้งที่คนยังมองข้าม ที่มา  https://x.com/Venu_7_/status/1992400939148517732?s=20 Ticker: $AMKR ราคาปัจจุบัน: $32 มาร์เก็ตแคป: $7.9B 1) Amkor ทำอะไร? และ “กำแพงการแข่งขัน” ของเขาคืออะไร? สิ่งที่ Amkor ทำ รับชิปที่เพิ่งผลิตเสร็จจาก TSMC หรือ Samsung จากนั้นนำมา “แพ็กเกจ จัดทดสอบ และตรวจสอบความพร้อม” ให้มั่นใจว่ามันใช้งานได้จริงในมือถือ รถยนต์ เซิร์ฟเวอร์ ไปจนถึงฮาร์ดแวร์ AI พูดง่าย ๆ คือ “ขั้นตอนสุดท้ายก่อนส่งชิปให้ลูกค้า” จุดแข็งที่ทำให้แทนที่ได้ยาก เปลี่ยนผู้ผลิตแพ็กเกจจิ้งยากมาก: เพราะชิปถูกออกแบบให้เข้ากับแพ็กเกจของ Amkor เมื่อจะย้ายไปเจ้าอื่นต้องเสี่ยงและเสียเงินมหาศาล ขนาดโรงงานระดับโลก: OSAT รายเล็กไม่มีทางสู้ด้านสเกลการผลิต เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรมยานยนต์: ผ่านมาตรฐานคุณภาพที่โหดที่สุด เทคโนโลยีล้ำหน้า: รองรับแพ็กเกจจิ้งยุคใหม่ที่ยากและซับซ้อน ซึ่งคู่แข่งบางรายทำไม่ได้ Amkor อยู่ในกลุ่ม Tier-1 OSAT — คือระดับสูงสุดของบริษัทที่รับประกอบและทดสอบชิปให้แบรนด์ใหญ่ ๆ ทั่วโลก ทั้งสมาร์ตโฟน รถยนต์ เซิร์ฟเวอร์ และระบบ AI 2) พื้นฐานธุรกิจ (Fu...

20 หุ้น Small-Cap ความเสี่ยงสูง–ผลตอบแทนสูงที่ควรจับตา หุ้นกลุ่ม Small-Cap คือพื้นที่ที่ “นวัตกรรม” กับ “ความเสี่ยง” มาบรรจบกัน บางตัวอาจเติบโตแบบก้าวกระโดด — แต่ก็ผันผวนหนักเช่นกัน $ASST – ผู้เล่นในโลกคริปโตและดิจิทัลแอสเซท มีทุนสำรองเป็น Bitcoin จำนวนมาก พร้อมโครงการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังขยายตัว $CAN – บริษัทขุดบิตคอยน์ที่มีทั้งประวัติการขุดเองและผลิตเครื่องขุด พร้อมถือครอง Bitcoin จำนวนมาก ทำให้ราคาคริปโตมีผลโดยตรง $BITF – บริษัทขุดบิตคอยน์ที่มีรายได้เสริมจากดาต้าเซ็นเตอร์ บริการโฮสติ้งและให้เช่าพื้นที่ ทำให้มีโอกาสเติบโตมากกว่าการขุดอย่างเดียว $RR – บริษัทหุ่นยนต์ดาวรุ่งที่ได้อานิสงส์จากกระแส Automation และ AI หากได้สัญญารายใหญ่มีโอกาสโตแรง แต่กลุ่มหุ่นยนต์ Small-Cap มีความเสี่ยงสูงโดยธรรมชาติ $DVLT – ผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และดาต้า แม้ดีมานด์เพิ่มขึ้น แต่ต้องแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ในวงการคลาวด์และ AI $MVST – ผู้ผลิตแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานสำหรับ EV มีโอกาสเติบโตตามกระแสยานยนต์ไฟฟ้า แต่ต้องรับมือการแข่งขันและการขยายกำลังผลิต $DGXX – บริษัทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังง...

การวิเคราะห์หุ้น IREN (Iris Energy Limited) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด NASDAQ (สหรัฐฯ) รหัส IREN โดยโพสต์นี้โฟกัสที่เหตุผลที่หุ้นตัวนี้พุ่งขึ้นถึง 1300% ตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 (จากราคาประมาณ 12 ดอลลาร์ ขึ้นไปสูงสุดราว 66 ดอลลาร์) พร้อมกราฟจาก TradingView ที่มีคำอธิบายละเอียด ผมจะอธิบายแบบละเอียดแต่เข้าใจง่าย โดยแบ่งเป็นส่วน ๆ เหมือนในกราฟ เพื่อให้คุณนำไปใช้เทรดหรือวิเคราะห์ได้สบาย ๆ ไม่ต้องงงกับศัพท์เทคนิคภาษาอังกฤษมากนัก  ที่มา  https://x.com/TannersTrades/status/1980694550701289610?s=20 1. ภาพรวมธุรกิจของ IREN และเหตุผลหลักที่หุ้นขึ้นแรง (จากเนื้อหาโพสต์หลัก)IREN เป็นบริษัทที่เดิมทีทำธุรกิจขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) แต่ได้เปลี่ยนทิศทางไปเน้น ศูนย์ข้อมูล (Datacenter) สำหรับ AI และการประมวลผลคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเทรนด์ร้อนแรงในปี 2025 เพราะความต้องการ GPU (หน่วยประมวลผลกราฟิก) จากบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ เช่น NVIDIA (NVDA) เพิ่มขึ้นมหาศาลเหตุผลหลักที่หุ้นขึ้น 1300% จากเดือนเมษายน (ตามที่ @TannersTrades บอก): - เริ่มมีกำไร (Turned profitable): จากขาดทุนกลายเป็นกำไรชัดเจนในไตรมาส...

5 วิธีที่ “โรงงานซูเปอร์ AI” ของ Microsoft ขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทาน AI แปลจาก https://x.com/FuturumEquities/status/1990440398049972295 1. ฐานรากทั้งหมดคือ Nvidia ($NVDA) การขยายอาณาจักร AI ของ Microsoft เดินหน้าได้เร็วแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่า Nvidia ส่งมอบ GPU ได้เร็วเพียงใด และทีมของ Microsoft สามารถนำ GPU เหล่านั้นไปต่อเป็นคลัสเตอร์ใช้งานได้เร็วแค่ไหน 2. ผู้เล่นกลุ่ม Neocloud เช่น $NBIS, $IREN และ $CRWV คือด่านต้นน้ำ Microsoft ไม่สามารถหาที่ดิน ไฟฟ้า และกำลังระบบไฟฟ้าได้เร็วเท่ากับเส้นทางพัฒนารุ่นโมเดลที่วางไว้ จึงต้องพึ่งบริษัทที่ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้มานานหลายปีแล้ว 3. บริษัทด้านเครือข่ายอย่าง $ANET, $CSCO, $AVGO และ $MRVL ถูกดึงเข้ามาเสริมทัพ เพราะทุกครั้งที่มี GPU รุ่นใหม่ปริมาณมหาศาล ความต้องการแบนด์วิดท์ก็พุ่งขึ้นทั้งระบบ ส่งผลให้โครงสร้างเครือข่ายต้องอัปเกรดตาม 4. กลุ่มผู้ให้บริการเชื่อมต่อความเร็วสูง เช่น $ALAB และ $CRDO สำคัญมาก การประมวลผลแบบ Hyperscale Inference ต้องอาศัยระบบออปติกที่มีความหน่วงต่ำ เพื่อให้กองทัพ GPU ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่สะดุด 5. ผู้จัดหาพลัง...

ในปี 2025 ที่เทคโนโลยี AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) ได้กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์การลงทุนที่ร้อนแรงที่สุด โพสต์จาก @HyperTechInvest https://x.com/HyperTechInvest/status/1990585588718653633?s=20 บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) ซึ่งเป็นเธรดที่รวบรวมรายชื่อหุ้น 14 ตัวพร้อมโครงการหลักที่อาจนำไปสู่ดีลกับ hyperscalers (บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ เช่น Microsoft, Google, Amazon) ได้เน้นย้ำถึงโอกาสนี้ โพสต์นี้ไม่ใช่แค่รายชื่อหุ้น แต่สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมขุด Bitcoin ไปสู่การคำนวณประสิทธิภาพสูง (HPC) สำหรับ AI ซึ่งต้องการพลังงานมหาศาล บทความนี้จะขยายความหมายจากโพสต์ดังกล่าว โดยอธิบายถึงบริบทตลาด รายละเอียดหุ้นแต่ละตัว และปัจจัยที่ทำให้ภาคนี้ดึงดูดนักลงทุน ทำไมศูนย์ข้อมูลถึงเป็นเทรนด์แห่งปี? โลกไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับความต้องการพลังงานของ AI อย่างที่ Satya Nadella CEO ของ Microsoft เคยกล่าวไว้ว่า บริษัทขาดศักยภาพในการขยายตัวเนื่องจากข้อจำกัดด้านพลังงาน ศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่แตกต่างจากแบบดั้งเดิม (เช่น Equinix หรือ Digital Realty) เพราะไม่ใช่สินค้าที่แทนกันได้ง่าย แต่ต้องมีโ...

Memory–Centric AI: เมื่อ “หน่วยความจำ” กลายเป็นคอขวดใหม่ของโลก AI สรุปจาก  https://x.com/wey_how12640/status/1990249851788136559?s=20 ก่อนหน้านี้ทุกคนพูดถึง GPU แต่ตอนนี้…สิ่งที่ขาดไม่แพ้กันคือ หน่วยความจำระดับสูง (HBM / NAND) และนี่คือเหตุผลที่ทำให้หุ้นอย่าง $SNDK และ $MU เริ่มโดดเด่นขึ้นมา แม้จะอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกับคู่แข่ง แต่ “พฤติกรรมราคา” กลับให้ภาพที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ 🧭 มุมมองรวม: Cyclical หรือ Structural? ในรอบที่ผ่านมา ราคาของบริษัทกลุ่มหน่วยความจำขึ้น—แต่คำถามสำคัญคือ นี่คือ “รอบวัฏจักร” ที่ขึ้นตามปกติ? หรือนี่คือ “โครงสร้างใหม่” ของอุตสาหกรรมที่ถูกเปลี่ยนโดย AI? หรืออาจเป็น “Super Cycle” ที่แรงกว่าที่เคย? หรือเป็น “Super Bubble” ที่นักเทรดต้องระวัง? คำตอบไม่มีใครรู้ล่วงหน้า แต่…ราคาคือสิ่งที่สะท้อนความจริงที่สุดในเวลานั้น และตอนนี้ ราคา $SNDK และ $MU ยืนเหนือ 10SMA ได้ ในขณะที่หุ้นกลุ่มเดียวกันหลายตัวอ่อนแรงกว่าอย่างชัดเจน 1️⃣ $SNDK – การเล่นกับอนาคตของ NAND + HBF ✔ จุดเด่นด้านราคา ยืนเหนือ 10SMA ความแข็งแกร่งเชิง Relative Strength เหนือหุ้นเพื่อนบ้านในอุตสาหกรรม...

แปลจาก https://x.com/EventuallyWLTHY/status/1989823901325766921?t=h8TIfZ_kgfDpbzvTj8wzuw&s=19 ผมคงไม่ใช่คนเดียวที่ยังตื่นเต้นกับรายงานกำไรของ $ONDS ไม่กี่เดือนก่อน $ONDS คาดการณ์รายได้รวมปี 2025 ไว้ที่ประมาณ 25 ล้านดอลลาร์ แต่ตอนนี้พวกเขาปรับเพิ่มเป็น 36 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 44% ภายในเวลาไม่กี่เดือน เฉพาะ OAS อย่างเดียวทำรายได้ 10 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 63% จากไตรมาสก่อนหน้า ลองมองให้เห็นภาพ—OAS เพียงหน่วยเดียว ทำรายได้เกือบครึ่งของเป้ารายได้ทั้งปี 2025 ภายในไตรมาสเดียว ตอนนี้ $ONDS คาดการณ์รายได้รวมปี 2026 ไว้ที่ 110 ล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้เพียง 78 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ผู้บริหารยังคาดว่า การเข้าซื้อกิจการตั้งแต่เดือนสิงหาคม จะสร้างรายได้ 65–75 ล้านดอลลาร์ในปี 2026 พูดอีกอย่างคือ แค่ธุรกิจที่ซื้อเพิ่มหลังเดือนสิงหาคม ก็แทบจะทำรายได้เท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ทั้งหมดสำหรับปี 2026 แล้ว นี่แหละคือ “การเร่งตัวจริง” ในเชิงธุรกิจ นี่คือสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่สำคัญ $ONDS ยังอยู่แค่ช่วงเริ่มต้นของการสร้างสิ่งที่อาจกลายเป็นชื่อใหญ่ที่สุด ในธุรกิจ “โด...

นิสัยการเทรดที่ช่วยเพิ่มโอกาสทำผลตอบแทนได้ดี – ทบทวนเทรดทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะไม้ที่ขาดทุน – เขียนบันทึกอารมณ์และรูปแบบที่เทรดหลังจบแต่ละวัน – อยู่ในสถานะเงินสด 100% เมื่อสภาพตลาดไม่เอื้อ – ศึกษาเพียงหนึ่งรูปแบบให้ชำนาญจนทำได้อัตโนมัติ – ดูราคา ดูพฤติกรรมตลาด แทนการฟังความเห็นคนอื่น – ตัดขาดทุนให้ไว แม้มันจะเจ็บก็ตาม – เก็บกำไรตอนที่ยังรู้สึกว่า “เหมือนเร็วไป” – นอนให้ได้ 8 ชั่วโมงขึ้นไปก่อนวันเทรด – ไม่เล่นโซเชียลมีเดียระหว่างตลาดเปิด – วางแผนการเทรดตั้งแต่คืนก่อนหน้า – กำหนดขนาดไม้ด้วยข้อมูล ไม่ใช่ความมั่นใจล้วน ๆ – อ่านทบทวนบันทึกการเทรดของตัวเองทุกสุดสัปดาห์

Alternate to Relative Strength Analysis — ฉบับแปลและเล่าเรื่องเข้าใจง่ายสำหรับนักเทรด แปลจาก  https://x.com/TannersTrades/status/1989117914021253218 เวลาที่กลุ่มหุ้นเติบโตหรือหุ้นธีมที่ผมเทรดอยู่เริ่มย่อตัว ผมมักถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วกลับมาโฟกัสกับการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ เพื่อมองหาว่ากระแสโมเมนตัมรอบถัดไปอาจเกิดขึ้นตรงไหน ในช่วงที่ตลาดยังไม่นิ่งและทุกอย่างดูคลุมเครือ แนวทางนี้ประกอบด้วยตัวชี้วัด 3 ส่วนสำคัญ: 1. ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงจุดสูงสุด (YTD Return to Highs) 2. เปอร์เซ็นต์การปรับตัวลงจากจุดสูงสุด (% Off Highs) 3. คะแนน Risk Adjusted Leadership Performance Heuristic หรือ RALPH เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมได้จัดทำภาพประกอบแสดงขั้นตอนทั้งหมดของการวิเคราะห์นี้ --- 1) เริ่มจากการดู % ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงจุดสูงสุด ข้อมูลชุดแรกช่วยให้เห็นว่าแต่ละตัวทำผลงานได้ดีแค่ไหนในช่วงปีที่ผ่านมา 2) จากนั้นดู % การย่อตัวจากจุดสูงสุด ทันทีที่ดูข้อมูลนี้ เราจะเห็น “การจัดลำดับใหม่” ของหุ้นแต่ละตัว ผมมักมองหาหุ้นที่ วิ่งแรงมาก แต่ย่อตัวกลับมาเพียงเล็กน้อย — หุ้นแบบนี้สะท้อนความแข็งแกร่งที่...

ทำไมสินทรัพย์กลุ่ม “สินค้าโภคภัณฑ์” (Commodities) เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง แพลทินัม พาลาเดียม และลิเทียม ถึงพุ่งแรงในช่วงนี้ (พฤศจิกายน 2025) สรุปจาก https://x.com/Clement_Ang17/status/1988834009317798188?s=20 แถม Watchlist: Silver Mining : https://th.tradingview.com/watchlists/195320523/ Top US Minerals Plays: https://th.tradingview.com/watchlists/204336970/ Lithium: https://th.tradingview.com/watchlists/203529917/ Copper: https://th.tradingview.com/watchlists/209482485/ 💡 สรุปภาพรวม แรงขับเคลื่อนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์รอบนี้ไม่ได้มาจากเหตุผลเดียว แต่เกิดจาก “หลายปัจจัยผสมกัน” ทั้งเรื่องเศรษฐกิจมหภาค (Macro), เงินเฟ้อ, ความไม่มั่นคงทางการเมือง, และวัฏจักรเศรษฐกิจที่กำลังเข้าสู่ช่วงปลายรอบขาขึ้นของหุ้น 🔑 ปัจจัยหลักที่ผลักดันราคา 1. การอ่อนค่าของเงินและนโยบายการเงิน (Monetary Debasement) หลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่ม BRICS (จีน รัสเซีย อินเดีย ตุรกี) กำลังซื้อทองคำเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินดอลลาร์และหนี้สหรัฐที่สูงลิ่ว (เกิน 125% ของ GDP) นักลงทุนมองว่า “ทอง” และ “เงิน” เป็นสินท...

แม้กลยุทธ์ยอดเยี่ยม ก็แพ้ถ้าคุณยังเป็นเทรดเดอร์หน้าใหม่ เรื่องสั้น ๆ ที่ต้องเข้าใจตั้งแต่ตอนต้น: กลยุทธ์ที่มีความได้เปรียบทางสถิติจำเป็นต้องใช้เวลาและจำนวนครั้งมากพอ เพื่อให้ความได้เปรียบนั้นแสดงผล — ถ้าคุณยังคิดเป็นเกมชนะ-แพ้แบบรายเทรด และละทิ้งระบบตอนเจอชุดขาดทุน คุณจะไม่เคยเห็นความได้เปรียบนั้นเกิดขึ้น มีระบบหนึ่งที่ชนะโดยเฉลี่ย 60% และความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเท่ากัน (1:1) คนแรก: เริ่มใช้ระบบ เจอชุดขาดทุนสั้น ๆ สงสัย แล้วเลิกใช้ — ผลใน 10 เทรดคือชนะ 2 ครั้ง (20%) → เลิก → พอร์ตก็จบด้วยผลแย่ คนที่สอง: เจอผลเดียวกันในช่วงแรก ชนะ 2 จาก 10 เหมือนกัน แต่เขาไม่เลิก เขาเทรดต่อ ในชุดถัดไปได้ผลดีขึ้น บ้างแย่ลง แต่เมื่อเทรดจำนวนมากขึ้น ผลรวมค่อย ๆ เข้าใกล้ 60% → สุดท้ายมีกำไรตามที่ระบบควรให้ ข้อแตกต่างไม่ได้อยู่ที่ระบบ แต่คือความอดทนและความเข้าใจเรื่องความน่าจะเป็น ทำไมมือใหม่มักพังแม้มีกลยุทธ์ดี ๑) มองผลลัพธ์แบบรายเทรดเป็น “ชนะ/แพ้” แทนมองเป็นตัวอย่างสุ่มจากการทดลองจำนวนมาก ๒) หยุดหรือปรับเข้มเกินไปตอนเจอชุดขาดทุน — จึงยุติระบบเมื่อมันอยู่ที่ “จุดต่ำสุด” ก่อนจะฟื้น ๓) ตัวอย่างที่ใช้ตัดสิน (samp...

สนับสนุนโดย  คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา ติดต่อสมัครที่:   https://m.me/zyoit ทำไมการขายบางส่วนที่ 2R ถึงสำคัญ การขาย ⅓ ของพอร์ตเมื่อราคาไปถึง 2R จะได้กำไร +0.67R ถ้าภายหลังราคากลับลงมาโดนจุดตัดขาดทุนเดิม ส่วนที่เหลืออีก ⅔ จะขาดทุน –0.67R → สรุปแล้ว แทบจะไม่ขาดทุน (ใกล้เคียง breakeven) วิธีนี้ช่วย ลดความเสี่ยง, ลดความเครียด และทำให้สามารถถือข้ามแรงเหวี่ยงระยะสั้นได้ เพื่อไปลุ้นกำไรจากแนวโน้มใหญ่หลายเดือน --- วินัยและระบบอัตโนมัติ การตั้งเป้าหมายเป็น “R” ช่วยให้สามารถตั้ง คำสั่งล่วงหน้ากับโบรกเกอร์ (Limit Order/OCO) ได้ เช่น ขาย ⅓ ที่ 2R ขายอีก ⅓ ที่ 5R วิธีนี้ทำให้กระบวนการขายเป็นระบบที่ชัดเจนและ ไม่ต้องตัดสินใจซ้ำๆ เวลาตลาดเคลื่อนไหว --- หมายเหตุการเข้าออก (Execution Notes) ตัดสินใจเรื่อง Stop/โครงสร้างตลาด ตอนสิ้นวัน เว้นแต่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น Gap ใหญ่เกินเป้าหมาย หรือหลุดแนวโครงสร้างชัดเจน ถ้าราคาเปิดกระโดดผ่าน 2R หรือ 5R ก็ขายที่ราคาที่ทำได้ดีที่สุด และถือว่าการเทรดนั้น ลดความเสี่ยงแล้ว จากนั้นย้าย Stop ไปตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 สัปดาห์ (10-WMA) สรุป: ใช้ระบบขายบ...

  นักขุดบิทคอยน์ (BTC Miners) ที่เคยถูกมองข้ามจากนักลงทุนมาหลายปี ตอนนี้กำลังเปลี่ยนธุรกิจไปสู่ High-Performance Computing (HPC) ซึ่งหมายถึงการนำศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่มาใช้ในงานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง เช่น AI, Cloud, Data Center 🔦 ผู้โพสต์เชื่อว่านี่คือ โอกาสการลงทุนที่ยังไม่ถูกประเมินค่าอย่างเหมาะสม (undervalued sector) 🤔 เขายกตัวอย่างหุ้นที่อยู่ในกลุ่มนี้ เช่น $IREN $CIFR $GLXY $HIVE $BITF $WYFI $BTBT $RIOT $BTDR 📊 ในกราฟ: 1. กราฟซ้าย (Potential Capacity MW) = ศักยภาพกำลังการผลิต (หน่วยเมกะวัตต์) ของแต่ละบริษัท 🤔 บางบริษัทมีกำลังสูงมาก (เช่น CIFR, IREN, BTDR) 2. กราฟขวา (Market Cap per MW) = มูลค่าตลาด (Market Capitalization) ต่อ 1 MW 🤫 บางบริษัทแม้มีกำลังสูง แต่ราคาตลาดยังต่ำเมื่อเทียบกับศักยภาพ → แสดงถึงการ undervalued 🔑 ใจความสำคัญ 1️⃣ นักลงทุนเคยมองข้ามหุ้นกลุ่มนักขุดบิทคอยน์ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังปรับตัวสู่ธุรกิจ HPC 2️⃣ ศักยภาพสูง แต่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนมูลค่า → โอกาสการลงทุน 3️⃣ ผู้โพสต์ต้องการกระตุ้นให้คนหันมามองหุ้นกลุ่มนี้ว่าอาจจะเป็น sector ที่น่...

ภาพนี้เป็นกราฟแท่งแบบ stacked bar ที่แสดงการคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าของ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่รองรับ AI ทั่วโลกในช่วงปี 2016 – 2034 โดยอ้างอิงจาก BloombergNEF --- สิ่งที่กราฟสื่อ 1️⃣ ความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้นมาก จากปี 2016 ถึง 2024 ความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังคงระดับปานกลาง 🧐หลังปี 2024 เป็นต้นไป กราฟชี้ให้เห็นว่า การใช้ไฟฟ้าจะพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง 💪ภายในปี 2034 จะมีการใช้ไฟฟ้ามากกว่า 1,500 เทราวัตต์-ชั่วโมง (TWh) ต่อปี ซึ่งมากกว่าปัจจุบันหลายเท่า 2️⃣ ศูนย์ข้อมูลในสหรัฐอเมริกา (US) และจีน (China) เป็นผู้บริโภคไฟฟ้าหลัก 🧐แท่งสีน้ำเงิน (US) และสีแดง (China) ครองสัดส่วนใหญ่ที่สุดของกราฟ 🧐รองลงมาคือยุโรป (สีเขียวฟ้า) 3️⃣ ภูมิภาคอื่น ๆ กำลังเติบโตตามมา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้, อินเดีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia), ลาตินอเมริกา และประเทศอื่น ๆ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้จะไม่ใหญ่เท่าสหรัฐและจีน แต่แนวโน้มก็ขยายตัวชัดเจน --- 🤩ความหมายเชิงลึก ✅AI กำลังผลักดันความต้องการพลังงานโลก: การเทรนโมเดล AI ขนาดใหญ่ และการให้บริการ AI แก่ผู้ใช้หลายพันล้านคน ต้องใช้...

Picard Medical, Inc. (NYSE American: PMI) เป็นบริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์ในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี 2021 มีสำนักงานใหญ่ที่ Tucson, Arizona บริษัทเป็นผู้ถือหุ้น 100% ใน SynCardia Systems, LLC ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและผลิต SynCardia Total Artificial Heart (TAH) หรือหัวใจเทียมทั้งหมดที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA (U.S. Food and Drug Administration) สำหรับใช้ในผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวขั้นรุนแรง เพื่อเป็นสะพานรอการปลูกถ่ายหัวใจจริง บริษัทดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และตลาดนานาชาติ โดยมีรายได้หลักจากการขายอุปกรณ์ทางการแพทย์นี้ ข้อมูลทางการเงินและสถานะหุ้น (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กันยายน 2025)ราคาหุ้นปัจจุบัน: ประมาณ $7.50 - $7.60 (ปิดตลาดล่าสุดที่ $7.50 ลดลง 0.40% จากวันก่อนหน้า) ช่วง 52 สัปดาห์: $4.19 - $7.75  IPO ล่าสุด: บริษัทเข้าตลาดหุ้น (IPO) เมื่อต้นเดือนกันยายน 2025 ออกหุ้น 4,250,000 หุ้นที่ราคา $4.00 ต่อหุ้น รวบรวมเงินได้ $17 ล้าน (รวม over-allotment $19.55 ล้าน) มูลค่าตลาด (Market Cap) ประมาณ $371.75 - $517.1 ล้าน  ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025: รายได้ $2.131 ล้าน (เพิ่มจาก $694,000 ในปีก...

  🎯 สรุปประเด็น:  IREN ได้เปรียบเพราะ “ล็อกพลังงานไว้ล่วงหน้า” ที่มา https://x.com/jiahanjimliu/status/1969266707719209208 📌 ธีมหลัก: ต่อให้ไฮเปอร์สเคลอร์ (Microsoft/AWS/Google/Meta ฯลฯ) ลงมือหาพลังงานและสร้างดาต้าเซ็นเตอร์เอง ก็ยังไม่พอต่อความต้องการ AI ระยะใกล้—จึง “ต้องพึ่ง” ผู้ให้บริการที่มีไฟฟ้าพร้อมและอินเตอร์คอนเน็กต์แน่นอนอยู่แล้วอย่าง IREN การมี pipeline ไฟฟ้า 2–3+ GW ภายในปี 2026–2027 คือข้อได้เปรียบเชิงเวลา (time-to-power) ที่หายากมาก สนับสนุนโดย  คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา ติดต่อสมัครที่:   https://m.me/zyoit ลำดับเหตุผล  1. ของขาดจริง ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวยหรู 🧐 ผู้เขียนประเมินว่า ปี 2028 ขาดไฟ ~36 GW ในสหรัฐ 🇨🇳 จีนสร้างกำลังผลิตใหม่ได้เร็วมาก (แผนปี 2025 มหาศาล) แต่ไฟฟ้าจากลม/โซลาร์มี “capacity factor” ต่ำ จึงให้โหลดต่อเนื่องได้จริงเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และทั้งหมดนี้ถูกวางแผนล่วงหน้าหลายปี—ไม่ได้แก้ขาดไฟ AI แบบฉับพลัน 🇱🇷 สหรัฐสร้างโครงสร้างพื้นฐานช้ากว่าจีนมาก จึงยิ่งไม่ใช่ปัญหา 1–2 ปีจะจบ 2. ไฮเปอร์สเคลอร์ก็วิ่งหาไฟ—but เวลาคือคอขวด 🔦 ไฟสำหร...

Swing Trading คืออะไร? ดูจากหุ้นนิวเคลียร์นี้ก็เห็นข้อดีชัดเจน แปลจาก https://www.investors.com/research/swing-trading/swing-trading-nuclear-stocks-nlr/ Swing Trading คือการเทรดที่อาศัยการเคลื่อนไหวระยะสั้นของหุ้น เมื่อราคาขึ้นแรง เราจะขายทำกำไรออกมาก่อนเพื่อ “ล็อกกำไร” และช่วยปกป้องพอร์ตจากการขาดทุนหนัก จุดสำคัญคือการขายเมื่อราคายังแข็งแรงอยู่ และบางครั้งก็สามารถกลับเข้ามาเทรดหุ้นหรือ ETF ตัวเดิมอีกรอบได้ เหมือนกับที่เราทำกับ VanEck Uranium and Nuclear ETF (NLR) ซึ่งเป็นตัวอย่างชัดเจนที่ทำให้พอร์ตมีพลังเพิ่มขึ้นโดยไม่เสี่ยงพัง หุ้นนิวเคลียร์พุ่งแรงในช่วงฤดูร้อน ด้วยกระแสความต้องการพลังงานจาก AI, รถยนต์ไฟฟ้า และอื่น ๆ ทำให้กลุ่มนิวเคลียร์ถูกจับตามองมาก หลังจาก NLR พุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดเดือนเมษายน ก็เกิดการย่อตัวลงมาในช่วงซัมเมอร์ และนั่นคือโอกาสที่ดีของ Swing Trading เมื่อราคาดีดตัวจากเส้นค่าเฉลี่ย 21 วัน (จุด 1) เราจึงเข้าซื้อเต็มพอร์ต (10%) นี่ไม่ใช่การ “ซื้อของถูก” แต่เป็นการซื้อหุ้นที่อยู่ในขาขึ้นอยู่แล้ว และใช้การดีดกลับเป็นสัญญาณว่าการพักตัวอาจจบ การกลับตัวขึ้น (Upside reversal) แ...

Quantum Computing คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ ปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ที่เราใช้ทำงานอยู่เป็น Classical Computer ใช้ระบบเลขฐานสอง (0 และ 1) ในการประมวลผล แต่ Quantum Computer ใช้สิ่งที่เรียกว่า Qubit ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 พร้อมกันในเวลาเดียวกัน (เรียกว่า superposition) และยังสามารถเชื่อมโยงกันแบบ entanglement ทำให้การประมวลผลมีพลังมหาศาลกว่าคอมพิวเตอร์ปกติหลายล้านเท่าในงานบางประเภท เช่น:  👍 การค้นหายาใหม่ 👍 การพัฒนา AI ขั้นสูง 👍 การคำนวณการเงินที่ซับซ้อน 👍 การออกแบบวัสดุใหม่ เพราะเหตุนี้ หลายคนมองว่า Quantum Computing อาจกลายเป็น “คลื่นลูกใหม่” ของเทคโนโลยี ที่สร้างมูลค่ามหาศาลระดับ trillion-dollar ได้เหมือนที่อินเทอร์เน็ตหรือ AI เคยทำมาแล้ว หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Quantum Computing (ที่ไม่ใช่ Big Tech) มีหลายบริษัทเล็กๆ ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีนี้อยู่ เรามาดูทีละตัว: 🎯 $IONQ – IonQ (Trapped-ion leader) เทคโนโลยี: ใช้การดักจับไอออน เพื่อสร้าง qubits ที่มีความเสถียรสูง จุดแข็ง: มีความแม่นยำในการคำนวณดีกว่าเทคโนโลยีอื่น ความเสี่ยง: สเกลให้ใหญ่ได้ยาก ต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อน 🎯 $RGT...

🎯 SailPoint (SAIL) : IPO Stock Of The Week Investor's Business Daily (IBD) เป็นสำนักพิมพ์ด้านการลงทุนที่เน้นการวิเคราะห์หุ้นผ่านระบบ CAN SLIM โดยมักแนะนำหุ้น IPO ที่มีศักยภาพสูงในคอลัมน์ "IPO Stock of the Week" สำหรับ SailPoint (SAIL) ซึ่งเป็นผู้นำด้าน AI ในอุตสาหกรรม Identity Security (การจัดการและรักษาความปลอดภัยตัวตนทางดิจิทัล) 👍 IBD แนะนำหุ้นตัวนี้เพราะตรงตามเกณฑ์หลักหลายประการ โดยเฉพาะการเติบโตของกำไรสูงถึง 138% (จากข้อมูลทางการเงินล่าสุดในไตรมาสที่ผ่านมา) และตำแหน่งผู้นำในตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วจากความต้องการด้าน cybersecurity ที่เพิ่มขึ้นในยุค AI 🤔🤔เหตุผลหลักที่ IBD แนะนำ (อิงจากระบบ CAN SLIM) IBD ใช้เกณฑ์ CAN SLIM เพื่อคัดหุ้น ซึ่ง SailPoint ตรงตามหลายข้อ โดยเฉพาะ: 📌C (Current Quarterly Earnings Growth): กำไรต่อหุ้น (EPS) เติบโต 138% ในไตรมาสล่าสุด (Q2/2025) สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดมาก สะท้อนจากรายได้ ARR (Annual Recurring Revenue) ที่ $813 ล้าน และเติบโต 30% YoY ทำให้เป็น "growth at scale with profitability" ที่นักลงทุนชื่นชอบ 📌A (Annual Earni...

$PRSO เป็นหุ้นของบริษัท Peraso Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์แบบ fabless (ไม่ผลิตชิปเอง) ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีคลื่นมิลลิเมตร (mmWave) สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายความเร็วสูง เช่น Fixed Wireless Access (FWA), 5G, การสื่อสารทางทหาร, วิดีโอสตรีมมิงไร้สาย และ AR/VR นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์หน่วยความจำสำหรับคลาวด์และศูนย์ข้อมูล บริษัทมีฐานลูกค้าทั่วโลก โดยขายผ่านตัวแทนในอเมริกาเหนือ ฮ่องกง ไต้หวัน และตลาดอื่นๆ ด้วยมูลค่าตลาด (Market Cap) เพียง 6.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ 18 ก.ย. 2025) หุ้นตัวนี้จึงเป็นหุ้นขนาดเล็ก (micro-cap) ที่มีความผันผวนสูง แต่ก็มีศักยภาพในการเติบโตในตลาดเทคโนโลยีไร้สายที่กำลังขยายตัว สถานะปัจจุบัน (ณ 19 ก.ย. 2025) - ราคาหุ้นล่าสุด: ปิดที่ 1.11 ดอลลาร์สหรัฐ (ลดลง 3.48% จากวันก่อน) ช่วง 52 สัปดาห์: ต่ำสุด 0.52 ดอลลาร์ สูงสุด 2.34 ดอลลาร์ - ผลประกอบการล่าสุด: รายได้ไตรมาส 1 ปี 2025 = 3.8 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งปี 2024 = 14.2 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จาก mmWave โต 45% จากไตรมาสก่อนและกว่า 200% จากปีก่อน แต่ขาดทุนต่อหุ้น (EPS) -1.21 ดอลลาร์ (TTM) - ตัวชี้วัดสำคัญ: PE Ratio...

สนับสนุนโดย  คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา ติดต่อสมัครที่:   https://m.me/zyoit ขยายความจาก  https://x.com/ConnorJBates_/status/1968410867239899466 เวลาที่ตลาดกำลังร้อนแรง หุ้นที่จะกลายเป็น "ดาวเด่น" มักจะมีคุณสมบัติที่คล้าย ๆ กัน ผมขอเรียกว่า Super Stock Criteria 1. กราฟฐานใหญ่ หรือโมเมนตัมแรงต่อเนื่อง หุ้นที่ดีมักสร้างฐานราคายาว ๆ ในกราฟรายวัน/รายสัปดาห์ หรือถ้าเป็นช่วงโมเมนตัมแรง ก็จะวิ่งต่อเนื่องขึ้นไปได้เรื่อย ๆ 2. ธีมที่แข็งแรง ไม่ใช่แค่หุ้นตัวเดียว แต่ทั้งกลุ่ม/เซกเตอร์กำลังมาแรงพร้อม ๆ กัน เช่น หุ้นพลังงาน หุ้นเทคโนโลยี หรือหุ้น AI ที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน 3. ตัวเร่ง (Catalyst) ต้องมีเหตุผลที่ทำให้หุ้น "ลุกขึ้นวิ่ง" เช่น ข่าวประชาสัมพันธ์, กำไรดีกว่าคาด, การจับมือกับพาร์ทเนอร์ใหม่ ฯลฯ 4. สิ่งใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น อาจเป็นธีมใหม่, สินค้าใหม่, หรือการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในอุตสาหกรรมที่ดึงดูดนักลงทุน เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า หรือการปฏิวัติด้วย AI 5. พิสูจน์มาแล้วว่า "วิ่งได้จริง" ดูประวัติย้อนหลังว่า หุ้นตัวนี้เคยทำเทรนด์แรง ๆ หลายสัปดาห์ติดมาแล้วหร...

กำไรก้อนใหญ่ไม่ได้มาจาก “จุดเข้า” อย่างเดียว แต่มาจาก “การจัดการ” หลังจากเข้าไปแล้วต่างหาก  แปลจาก  https://x.com/BlogJulianKomar/status/1967566327830192513 นี่คือกระบวนการที่ผมใช้ในการ Scale Out  1. Partial Profits (ขายบางส่วน): เมื่อหุ้นวิ่งได้กำไร +10% ผมจะทยอยขายออก 10–20% โดยเฉพาะหุ้นโมเมนตัม มันช่วยล็อกกำไร และลดความกดดันทางอารมณ์ 2. Cushion Effect (สร้างกันชน): เมื่อราคาวิ่งไป +20% ผมจะขยับจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ขึ้นมาไว้ที่จุดคุ้มทุน เพื่อปกป้องเงินต้น โดยไม่ต้องขายเร็วเกินไป 3. Trailing with EMAs (ตามรอยเส้นค่าเฉลี่ย): ถ้าราคายืนเหนือ EMA8 และ EMA21 ได้นานเกิน 7 สัปดาห์ ผมจะไล่ตามด้วย EMA8 เพราะโครงสร้างราคาเป็นตัวบอก ไม่ใช่อารมณ์ 4. Parabolic Moves (การขึ้นแบบพาราโบลา): ถ้าราคาขึ้นพุ่งแรงแบบ “แทงทะลุฟ้า” ผมจะทยอยขายใส่แรงซื้อทันที เพราะจุดสูงสุดชัดเจนก็ตอน “มองย้อนกลับไป” และพาราโบลาไม่เคยยั่งยืน 5. Earnings Protection (ปกป้องก่อนงบ): ถ้าเข้าใกล้วันประกาศงบ แต่ยังไม่มีกำไรเป็นกันชน ผมจะเลือก “ลด” หรือ “ออก” เพราะการถือข้ามงบโดยไม่ป้องกัน ไม่ใช่กลยุทธ์ แต่มันคื...

หัวใจสำคัญของบทความบทความนี้อธิบายวิธีการหาหุ้น “ผู้นำตัวใหม่” ในตลาด โดยใช้ Relative Strength (RS) At New Highs ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของราคาหุ้นเมื่อเทียบกับดัชนี S&P 500 หากเส้น RS ทำจุดสูงสุดใหม่ แสดงถึงการมีพลังของหุ้นนั้น ๆ และเป็นสัญญาณบวกว่ามีโอกาสกลายเป็นหุ้นนำตลาด --- ตัวอย่างจาก Astera Labs (ALAB) หุ้น ALAB พุ่งขึ้น 117% ภายใน 5 สัปดาห์ (ก.ค. – ส.ค. 2025) หลังจากนั้นพักฐาน (sideways) ประมาณ 19% วันที่ 8 ก.ย. 2025 หุ้นเบรกเอาท์ขึ้นจากฐาน “High Tight Flag” พร้อมปริมาณซื้อขายมาก ซึ่งบ่งชี้ถึง การเข้าซื้อของสถาบันใหญ่ --- รูปแบบกราฟที่สำคัญ: High Tight Flag เกิดขึ้นเมื่อหุ้นพุ่งขึ้น 100%–120% ภายใน 4–8 สัปดาห์ จากนั้นพักตัวลง 10%–25% ใน 3–5 สัปดาห์ จุดซื้อที่เหมาะสมคือการเบรกเอาท์ขึ้นไปจากฐานเดิม --- หุ้นอื่นที่น่าจับตา (RS New Highs) Alphabet (GOOGL) → ราคาพุ่งหลังข่าวดีจากคดีการผูกขาด AppLovin (APP) → บรรลุเป้ากำไร 20%–25% จากรูปแบบ Cup-base Robinhood (HOOD) → ทำจุดสูงสุดใหม่ แต่สุดท้ายปิดต่ำกว่า --- สาระสำคัญสำหรับนักลงทุนมือใหม่ 1. ใช้ เส้น RS line เป็นตัวชี้วัดห...

สรุป: dbAccess IAA Cars Conference 2025 จาก https://x.com/kingaj408/status/1965573629036691869 $QS Fireside Chat กับ Deutsche Bank, Munich, Germany 🔋🇩🇪 QuantumScape ($QS) กำลังขยายความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ (OEMs) โดยใช้โมเดลธุรกิจที่ให้ OEMs เป็นผู้จ่ายเงินในช่วงพัฒนาร่วม คล้ายกับรูปแบบความร่วมมือกับ Volkswagen (VW) และเตรียมเปิดตัว QSE-5 ในรถยนต์ขนาดใหญ่ภายในปี 2026 โดยไม่ใช้ Ducati เป็น launch vehicle อีกต่อไป นอกจากนี้ QS จะไม่พึ่งพาตลาดทุนเพื่อระดมเงินเพิ่ม แต่จะเน้นสร้างรายได้จาก customer payments เป็นหลัก --- Key Highlights 1. Technology & Demonstrations แสดงเทคโนโลยี Solid-State Battery (SSB) สำเร็จในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ทำงานร่วมกับ Audi เพื่อสร้าง battery pack และ Ducati สำหรับ superbike SSB คันแรก พัฒนาจาก coin cells → scooters → motorcycles → larger vehicles (launch vehicle จะประกาศปี 2025, คาดเปิดตัวปี 2026) QSE-5 cell มีประสิทธิภาพสูงกว่า lithium-ion มุ่งเป้ารถ high-end ก่อนขยายไปสู่ตลาด mass-market --- 2. Volkswagen Partnership VW เป็นทั้งผู้ลงทุนหลักและพันธม...

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยในโลกการเทรด 3.1 ต้องมีจำนวนเทรด X ครั้งเพื่อพิสูจน์กลยุทธ์ ❌ ผิด → จำนวนครั้งไม่ได้ตายตัว สิ่งสำคัญคือ p-value หรือ “โอกาสที่ผลกำไรเกิดจากความบังเอิญ” กลยุทธ์บางแบบใช้แค่ 100 เทรดก็วัดได้ แต่บางแบบต่อให้ 1,000 เทรดก็ยังไม่พอ คีย์สำคัญคือ คุณภาพของ edge (ความได้เปรียบ) มากกว่าจำนวนครั้ง 3.2 เทรดน้อยๆ จะดีกว่า ❌ ผิด → การเทรดคือ “เกมของความน่าจะเป็น” ถ้าเทรดน้อยเกินไป คุณต้องใช้ขนาดสัญญาที่ใหญ่ขึ้นเพื่อทำกำไร → เสี่ยงสูงขึ้น เหมือนการโยนเหรียญ: ยิ่งโยนมากยิ่งเข้าใกล้ความน่าจะเป็นจริง 3.3 Expectancy = Win rate × Risk/Reward ❌ ผิด → การคำนวณนี้ลืมปัจจัยสำคัญคือ ขนาดการลงทุน (Position sizing) ถึงกลยุทธ์ดี แต่ถ้าขนาดการลงทุนไม่เหมาะสม ก็ยังเจ๊งได้ ปรากฏการณ์ Volatility drag ทำให้ผลตอบแทนจริงลดลงเสมอ การใช้ Kelly criterion ช่วยหาขนาดการลงทุนที่เหมาะสมที่สุด 3.4 โฟกัสแค่กลยุทธ์เดียว ❌ ผิด → ตลาดเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กลยุทธ์ที่เคยใช้ได้ผลอาจล้มเหลวในอนาคต การกระจายกลยุทธ์ช่วยลดความเสี่ยงและทำให้พอร์ตมีเสถียรภาพมากขึ้น 3.5 การตั้ง Stop Loss = ปลอดภัย 100% ❌ ผิด → Stop loss ไ...

  หุ้น $BMNR คือสัญลักษณ์การซื้อขายของบริษัท BitMine Immersion Technologies, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NYSE American (AMEX) ในสหรัฐอเมริกา บริษัทนี้เชี่ยวชาญด้านการขุดคริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency mining) โดยเฉพาะ Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) ในระดับอุตสาหกรรม โดยใช้เทคโนโลยีการแช่แบบ immersion cooling เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขุด ลดต้นทุนพลังงาน และจัดการความร้อนได้ดีขึ้น บริษัทก่อตั้งเพื่อพัฒนาและดำเนินการศูนย์ข้อมูล (data centers) สำหรับการขุดดิจิทัลแอสเซ็ท รวมถึงให้บริการโฮสติ้งเซิร์ฟเวอร์ขุดให้กับบุคคลที่สาม ณ วันที่ 10 กันยายน 2025 ราคาหุ้น $BMNR อยู่ที่ประมาณ 44.44 USD (ข้อมูลล่าสุดจากตลาด after-hours) โดยในช่วงปีที่ผ่านมา หุ้นตัวนี้มีความผันผวนสูงมาก เพิ่มขึ้นกว่า 839% ในเดือนล่าสุด แต่ลดลง 18.67% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าตลาด (market cap) อยู่ที่ราว 1.66 พันล้าน USD บริษัทมีพนักงานประมาณ 7 คน และมีผู้ถือหุ้นสถาบัน (institutional owners) ราว 15 ราย ที่ถือหุ้นรวมกว่า 269,346 หุ้น ธุรกิจหลักเชื่อมโยงกับตลาดคริปโต ทำให้ราคาหุ้นผันผวนตามราคา BTC/ETH ...