สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

นี่คือเส้นทางที่จะร่ำรวยได้เร็วที่สุด (แต่ก็เป็นเส้นทางที่โหด-ผ่านยากเช่นกัน)


นี่คือเส้นทางที่จะร่ำรวยได้เร็วที่สุด (แต่ก็เป็นเส้นทางที่โหด-ผ่านยากเช่นกัน)

นี่เป็นเส้นทางที่เร็วที่สุดในการเป็นเศรษฐี 

แต่ก็เป็นเส้นทางที่ยากที่สุดเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินกล่าว

เส้นทางสู่ความร่ำรวย ๔ เส้นทาง

๑ เส้นทางนักประหยัด-นักลงทุนระยะยาว

๒ เส้นทางผู้บริหารสูงของบริษัทใหญ่

๓ เส้นทางของคนเก่ง แพทย์ ทนายความ

๔ เส้นทางนักล่าฝัน: การเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง การเป็นนักแสดง นักดนตรี หรือนักเขียนหนังสือขายดีที่ประสบความสำเร็จ คนช่างฝันรักในสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อหาเลี้ยงชีพ และความหลงใหลของพวกเขาจะกลายเป็นเงินก้อนโตเข้าบัญชีของพวกขา

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า “เส้นทางนักฝัน” คือ คือเส้นทางสู่ความมั่งคั่งที่เร็วและคุ้มค่าที่สุด — และยังเป็นเส้นทางที่รับประกันเงินได้มากที่สุดอีกด้วย ลองดูรายชื่อ Forbes 400 ประจำปีนี้ ดูให้ดีครับ มหาเศรษฐี 7 ใน 10 คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตั้งแต่ Jeff Bezos, Bill Gates, Mark Zuckerberg และ Michael Bloomberg ล้วนเป็น “นักล่าฝัน” ที่ร่ำรวยจากการเริ่มต้นบริษัทของตัวเอง


อย่างไรก็ตาม เส้นทางนักล่าฝันยังเป็นเส้นทางที่ยากที่สุด เสี่ยงที่สุด และเครียดที่สุดอีกด้วย “ที่แย่ที่สุด มันเหมือนกับการเดินผ่านนรกทุกวัน” นักล่าฝันคนหนึ่งบอก “มันเต็มไปด้วยอุปสรรค การผิดหวัง ความผิดพลาด ความผิดหวัง การถูกปฏิเสธ และการดิ้นรนทางการเงิน”


ทำไมเส้นทางของนักล่าฝัน ถึงได้ยาก-โหด-หิน?

๑ ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน: นักฝันทำงานที่ไหนก็ได้ตั้งแต่ 65 ถึง 75 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก่อนที่จะบรรลุความฝันในที่สุด

๒ วิถีชีวิตที่ตึงเครียด: จนกว่า "ความฝัน" จะเริ่มผลิดอกออกผล ระหว่างทางมักจะทำให้เกิดความเครียดทางการเงินจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู

๓ ความเสี่ยงสูง: โดยธรรมชาติแล้วคนช่างฝันเป็นนักพนัน พวกเขาเต็มใจที่จะทุ่มทุกอย่างที่ตัวเองมี ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ เงินออมของพวกเขา นอกจากนี้ยังไม่มีการรับประกันความสำเร็จอย่างแน่นอน ในความเป็นจริง มากกว่าครึ่งของนักฝันต้องเจอความล้มเหลวหลายครั้ง และความล้มเหลวมักจะนำไปสู่การล้มละลายได้ในที่สุด

๔ การถอดใจ: เนื่องจากนักล่าฝันมีเป้าหมายที่ทะเยอทะยานสูง ซึ่งหลายๆ เป้าหมายอาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุ จึงมักจะมีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องออกมาแนะนำว่าให้เลิกฝันเสียเถอะมันเป็นไปได้ยากเกินความสามารถ และพยายามบอกให้พวกเขาเดินไปตามเส้นทางอื่น นักล่าฝันยังได้ยินคำว่า "อย่าเลย" “คุณทำไม่ได้หรอก” บ่อยมาก มีหลายครั้งที่พวกเขาคิดที่จะยอมแพ้โดยสิ้นเชิงเมื่อเจอการสะดุด/อุปสรรคครั้งใหญ่

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks