แนะนำฟรีอีบุ๊ก "สโตอิกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลับ"

Image
  (อ่านฟรี) e-book : สโตอิกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย https://mebmarket.com/?action=book_details&book_id=327348 สโตอิกช่วยนักศึกษาได้อย่างไรบ้าง สโตอิกเป็นปรัชญาที่ช่วยให้เรารับมือกับความกดดัน ความเครียด และการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักศึกษาต้องเจออยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การสอบ หรือการปรับตัวกับชีวิตในมหาวิทยาลัย ผมอยากอธิบายว่าทำไมสโตอิกถึงเป็นแนวคิดที่สามารถช่วยคุณได้ครับ หลักสำคัญของสโตอิกคือ การแยกแยะสิ่งที่เราควบคุมได้กับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้  การฝึกให้เข้าใจเรื่องนี้จะช่วยลดความเครียดได้มาก ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณกังวลเกี่ยวกับการสอบ สิ่งที่คุณควบคุมได้คือการเตรียมตัวให้ดี อ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน แต่ผลการสอบหรือความคิดเห็นของอาจารย์ เป็นสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ การโฟกัสเฉพาะสิ่งที่คุณทำได้จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกเครียดกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการควบคุมครับ นอกจากนี้ สโตอิกยังสอนเรื่อง การควบคุมอารมณ์  และ การมองโลกอย่างเป็นกลาง  ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อคุณเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหรือสถานการณ์ที่ท้าทาย เช่น หากคุณเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ผลสอบไม่เป็นไปตา

เมื่อ SET ลงหนัก หุ้นนำตลาดก็หาง่ายขึ้น

 เมื่อ SET ลงหนัก หุ้นนำตลาดก็หาง่ายขึ้น


สองวันที่ผ่านมา set ลงแรงเพราะดัชนีทั่วโลกแดงกันถ้วนหน้า

นักลงทุนส่วนใหญ่กลัวกันมาก พากันแย่งกันขายหุ้นออก โดยเฉพาะช่วง ato ลงแรงเป็นพิเศษ เพราะแย่งกันตั้งขายกันหนาแน่น เมื่อความต้องการขายมีมากกว่าซื้ออย่างมโหฬาร ราคาจึงเปิด gap ลงกันทั้งกระดาน ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ของความ oversold ที่มือใหม่ควรจำไว้ว่าความกลัวทรงมันเป็นแบบนี้นี่เอง

.

แต่ในท่ามกลางความกลัวของคนกลุ่มใหญ่ที่ปกคลุมตลาด ผมรู้สึกถึงความปีติของคนกลุ่มเล็กๆ จากการขนเงินก้อนใหญ่มาซื้อหุ้นชั้นดีที่เขาเชื่อว่ามันน่าจะมีดีกว่านี้อีกในเวลาอันไกล้นี้

 .

การที่หุ้นตัวใดก็ตามสามารถยืนได้ในระดับที่ดีกว่า set และหุ้นตัวอื่นๆส่วนมากได้ นับว่าหุ้นตัวนั้นเป็น "หุ้นนำตลาด" ครับ

.

ผู้นำ มักจะมีบุคลิกพิเศษเหนือกว่าผู้ตาม ก็คือ "พร้อมที่จะออกตัวไปข้างหน้า" เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ถ้าคุณสามารถหาพวกมันเจอ ก็จะมีโอกาสได้กำไรไวกว่าซื้อหุ้นตามตลาด

.

วิธีการหาหุ้นนำตลาดแบบง่ายๆ ก็คือรอตอนที่ set ลงแรงๆนี่แหละครับ

โดยให้ท่านสแกนหาหุ้นที่เป็นขาขึ้นด้วยสูตรนี้

ราคา >= ema20

โดยที่ ema20 > ema50

ซึ่ง ema50 > ema100

และ ema100 > ema200

.

ทำไมต้องเป็น ema20?

ผมมองว่ามันเป็นเส้นค่าเฉลี่ยสุดท้ายที่บอกว่าหุ้นตัวนั้นยังมีโมเมนตัมที่แข็งแรงครับ



เมื่อได้รายชื่อหุ้นออกมาแล้วก็คัดเอาเฉพาะตัวที่เป็นขาขึ้นแข็งแรงออกมาครับ

ดูยังไงว่าแข็งแรง?

๑) ความชันของเส้นค่าเฉลี่ย ยิ่งชันยิ่งแข็งแรง

๒) องศาของเส้นค่าเฉลี่ย เฉียงขึ้นในระดับพอดี 45 องศา ขึ้นไป 

๓) ราคาย่ำฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย เปิดต่ำกว่าเส้นได้ แต่ควรถูกไล่ซื้อให้ไปปิดบนเส้นหรือเหนือกว่าจะดีมาก

.

จุดซื้อที่น่าสนใจ

๑) รอให้ set หยุดลงก่อน และแสดงออกว่าอยากเด้งขึ้นมากกว่าลง

๒) เมื่อ set มีอารมณ์ดีขึ้น คนในตลาดอีกกลุ่มที่รอจังหวะแบบนี้ เขาจะเริ่มไล่ราคาขึ้นไปครับ ตอนนี้แหละที่มันจะดีดแรง เพราะราคาถูกอั้นเอาไว้ วอลุ่มการซื้อขายก็จะเพิ่มขึ้นตามมาด้วย ตอนนี้แหละที่น่าซื้อแล้ว เพราะไม่ต้องรอนาน หากมันสร้างฐานก่อนหน้านี้ไว้ก็ยิ่งดี จะได้มีจุดซื้อตอนที่ราคา breakout




(แนะนำหนังสือหุ้นของ Zyo ที่ไม่มีขายตามท้องตลาด)


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Setup เงินล้านของ Kristjan Kullamägi

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo