คุณเก็บกำไรได้แค่ไหนในตลาดกระทิง?

Image
คุณเก็บกำไรได้มากแค่ไหนในตลาดกระทิง? (+ สัญญาณขาย CANSLIM ที่ Matt ชอบที่สุด)** สรุปจาก https://x.com/wey_how12640/status/1996888413967126976 เรื่องนี้เริ่มจากคำถามง่าย ๆ แต่เจ็บลึกของเทรดเดอร์ส่วนใหญ่—ตกลงแล้วเราควรเก็บกำไรได้แค่ไหนก่อนที่พอร์ตจะดรอว์ดาวน์จนใจสั่น? คุณเล่าว่าคุณเป็นสาย “Trader 1” แบบเต็มตัว—รอบกำไร 150% แล้วตามด้วยรอบดรอว์ดาวน์ -40% เป็นวัฏจักรคุ้นเคย และโชคดีคือ ด้านซื้อคุณแข็งแกร่งมาก คุณกล้าขยับเร็ว กล้าบวกน้ำหนัก กล้าคอนเซนเทรตพอร์ต จังหวะไฟเขียวก็ลุยสุดกำลัง นี่คือข้อได้เปรียบที่คนทั่วไปไม่มี แต่ปัญหาที่ทำให้สะดุดซ้ำ ๆ อยู่ที่ ด้านขาย โดยเฉพาะตอนตลาดเริ่มสั่น ความผันผวนกดพอร์ตลงแรง และความเชื่อว่า “เทรนด์ยังอยู่ ฉันไม่อยากขายแบบ selling Into strength” กลายเป็นดาบสองคม เหตุการณ์เดือนพฤศจิกายน 2025 ก็เป็นบทเรียนสำคัญ—ดรอว์ดาวน์ระดับเปลี่ยนชีวิต แม้จะเป็นผลจากสไตล์ส่วนตัว แต่คุณก็เริ่มเห็นว่าถ้าปรับขายบางส่วนได้เหมาะสม เกมอาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง --- แนวคิดแก้ไข: เริ่มจากขายบางส่วนก่อน คุณมองตรงประเด็นมาก—แก่นของการแก้ปัญหาคือการ “ขายบางส่วน” คำถามคือ เมื่อไหร่...

เมื่อ SET ลงหนัก หุ้นนำตลาดก็หาง่ายขึ้น

 เมื่อ SET ลงหนัก หุ้นนำตลาดก็หาง่ายขึ้น


สองวันที่ผ่านมา set ลงแรงเพราะดัชนีทั่วโลกแดงกันถ้วนหน้า

นักลงทุนส่วนใหญ่กลัวกันมาก พากันแย่งกันขายหุ้นออก โดยเฉพาะช่วง ato ลงแรงเป็นพิเศษ เพราะแย่งกันตั้งขายกันหนาแน่น เมื่อความต้องการขายมีมากกว่าซื้ออย่างมโหฬาร ราคาจึงเปิด gap ลงกันทั้งกระดาน ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ของความ oversold ที่มือใหม่ควรจำไว้ว่าความกลัวทรงมันเป็นแบบนี้นี่เอง

.

แต่ในท่ามกลางความกลัวของคนกลุ่มใหญ่ที่ปกคลุมตลาด ผมรู้สึกถึงความปีติของคนกลุ่มเล็กๆ จากการขนเงินก้อนใหญ่มาซื้อหุ้นชั้นดีที่เขาเชื่อว่ามันน่าจะมีดีกว่านี้อีกในเวลาอันไกล้นี้

 .

การที่หุ้นตัวใดก็ตามสามารถยืนได้ในระดับที่ดีกว่า set และหุ้นตัวอื่นๆส่วนมากได้ นับว่าหุ้นตัวนั้นเป็น "หุ้นนำตลาด" ครับ

.

ผู้นำ มักจะมีบุคลิกพิเศษเหนือกว่าผู้ตาม ก็คือ "พร้อมที่จะออกตัวไปข้างหน้า" เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ถ้าคุณสามารถหาพวกมันเจอ ก็จะมีโอกาสได้กำไรไวกว่าซื้อหุ้นตามตลาด

.

วิธีการหาหุ้นนำตลาดแบบง่ายๆ ก็คือรอตอนที่ set ลงแรงๆนี่แหละครับ

โดยให้ท่านสแกนหาหุ้นที่เป็นขาขึ้นด้วยสูตรนี้

ราคา >= ema20

โดยที่ ema20 > ema50

ซึ่ง ema50 > ema100

และ ema100 > ema200

.

ทำไมต้องเป็น ema20?

ผมมองว่ามันเป็นเส้นค่าเฉลี่ยสุดท้ายที่บอกว่าหุ้นตัวนั้นยังมีโมเมนตัมที่แข็งแรงครับ



เมื่อได้รายชื่อหุ้นออกมาแล้วก็คัดเอาเฉพาะตัวที่เป็นขาขึ้นแข็งแรงออกมาครับ

ดูยังไงว่าแข็งแรง?

๑) ความชันของเส้นค่าเฉลี่ย ยิ่งชันยิ่งแข็งแรง

๒) องศาของเส้นค่าเฉลี่ย เฉียงขึ้นในระดับพอดี 45 องศา ขึ้นไป 

๓) ราคาย่ำฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย เปิดต่ำกว่าเส้นได้ แต่ควรถูกไล่ซื้อให้ไปปิดบนเส้นหรือเหนือกว่าจะดีมาก

.

จุดซื้อที่น่าสนใจ

๑) รอให้ set หยุดลงก่อน และแสดงออกว่าอยากเด้งขึ้นมากกว่าลง

๒) เมื่อ set มีอารมณ์ดีขึ้น คนในตลาดอีกกลุ่มที่รอจังหวะแบบนี้ เขาจะเริ่มไล่ราคาขึ้นไปครับ ตอนนี้แหละที่มันจะดีดแรง เพราะราคาถูกอั้นเอาไว้ วอลุ่มการซื้อขายก็จะเพิ่มขึ้นตามมาด้วย ตอนนี้แหละที่น่าซื้อแล้ว เพราะไม่ต้องรอนาน หากมันสร้างฐานก่อนหน้านี้ไว้ก็ยิ่งดี จะได้มีจุดซื้อตอนที่ราคา breakout




(แนะนำหนังสือหุ้นของ Zyo ที่ไม่มีขายตามท้องตลาด)


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Grok? $IREN หุ้นอเมริกาตัวนี้ ถูกเชียร์เกินเหตุหรือเปล่า?