เศรษฐศาสตร์ของราคา Neocloud GPU: NBIS IREN CRWV

Image
เศรษฐศาสตร์ของราคา Neocloud GPU แปลจาก https://x.com/aleabitoreddit/status/1995084174223651180 เมื่อทำให้โครงสร้างต้นทุนและค่าเสื่อมราคาเทียบเท่ากันระหว่างสามผู้เล่นหลัก ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร? เรากำลังดูผู้ให้บริการคลาวด์ GPU ที่มาแรงที่สุด 3 ราย Nebius (NBIS) CoreWeave (CRWV) IREN (IREN) เพื่อความยุติธรรม งานวิจัยใช้ GPU รุ่นเดียวกัน (H100) และ normalized cost เหมือนกันทั้งหมด เช่น – จำนวน 400 GPUs ต่อ 1 MW – ค่าเสื่อมราคา 4 ปี – utilization 85% ผลที่ได้คือ “อัตรากำไรขั้นต้น” จากการให้บริการ GPU แบบ datacenter-scale --- ตัวเลขอัตรากำไรขั้นต้น (Normalized Margin) 1) IREN – Bare-Metal H100 → 35.8% รายได้: ประมาณ $2.50–2.75 ต่อ GPU-hr → รายได้ต่อ MW/ปี = $7.80M ต้นทุน: $5.01M GPU D&A: $3.50M Power: $0.22M ค่าเสื่อม Data Center: $0.47M Networking: $0.25M Middleware ของบุคคลที่สาม: $0.20M กำไรขั้นต้น: $2.79M/MW → 35.8% --- 2) Nebius – Full-Stack H100 → 38.1% รายได้: $3.00–3.50 ต่อ GPU-hr → $9.75M/MW-year ต้นทุน: $6.04M GPU D&A: $3.50M Power (ฟินแลนด์): $0.37M Colo (เช่าตู้ 60%): $...

เมื่อ SET ลงหนัก หุ้นนำตลาดก็หาง่ายขึ้น

 เมื่อ SET ลงหนัก หุ้นนำตลาดก็หาง่ายขึ้น


สองวันที่ผ่านมา set ลงแรงเพราะดัชนีทั่วโลกแดงกันถ้วนหน้า

นักลงทุนส่วนใหญ่กลัวกันมาก พากันแย่งกันขายหุ้นออก โดยเฉพาะช่วง ato ลงแรงเป็นพิเศษ เพราะแย่งกันตั้งขายกันหนาแน่น เมื่อความต้องการขายมีมากกว่าซื้ออย่างมโหฬาร ราคาจึงเปิด gap ลงกันทั้งกระดาน ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ของความ oversold ที่มือใหม่ควรจำไว้ว่าความกลัวทรงมันเป็นแบบนี้นี่เอง

.

แต่ในท่ามกลางความกลัวของคนกลุ่มใหญ่ที่ปกคลุมตลาด ผมรู้สึกถึงความปีติของคนกลุ่มเล็กๆ จากการขนเงินก้อนใหญ่มาซื้อหุ้นชั้นดีที่เขาเชื่อว่ามันน่าจะมีดีกว่านี้อีกในเวลาอันไกล้นี้

 .

การที่หุ้นตัวใดก็ตามสามารถยืนได้ในระดับที่ดีกว่า set และหุ้นตัวอื่นๆส่วนมากได้ นับว่าหุ้นตัวนั้นเป็น "หุ้นนำตลาด" ครับ

.

ผู้นำ มักจะมีบุคลิกพิเศษเหนือกว่าผู้ตาม ก็คือ "พร้อมที่จะออกตัวไปข้างหน้า" เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ถ้าคุณสามารถหาพวกมันเจอ ก็จะมีโอกาสได้กำไรไวกว่าซื้อหุ้นตามตลาด

.

วิธีการหาหุ้นนำตลาดแบบง่ายๆ ก็คือรอตอนที่ set ลงแรงๆนี่แหละครับ

โดยให้ท่านสแกนหาหุ้นที่เป็นขาขึ้นด้วยสูตรนี้

ราคา >= ema20

โดยที่ ema20 > ema50

ซึ่ง ema50 > ema100

และ ema100 > ema200

.

ทำไมต้องเป็น ema20?

ผมมองว่ามันเป็นเส้นค่าเฉลี่ยสุดท้ายที่บอกว่าหุ้นตัวนั้นยังมีโมเมนตัมที่แข็งแรงครับ



เมื่อได้รายชื่อหุ้นออกมาแล้วก็คัดเอาเฉพาะตัวที่เป็นขาขึ้นแข็งแรงออกมาครับ

ดูยังไงว่าแข็งแรง?

๑) ความชันของเส้นค่าเฉลี่ย ยิ่งชันยิ่งแข็งแรง

๒) องศาของเส้นค่าเฉลี่ย เฉียงขึ้นในระดับพอดี 45 องศา ขึ้นไป 

๓) ราคาย่ำฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย เปิดต่ำกว่าเส้นได้ แต่ควรถูกไล่ซื้อให้ไปปิดบนเส้นหรือเหนือกว่าจะดีมาก

.

จุดซื้อที่น่าสนใจ

๑) รอให้ set หยุดลงก่อน และแสดงออกว่าอยากเด้งขึ้นมากกว่าลง

๒) เมื่อ set มีอารมณ์ดีขึ้น คนในตลาดอีกกลุ่มที่รอจังหวะแบบนี้ เขาจะเริ่มไล่ราคาขึ้นไปครับ ตอนนี้แหละที่มันจะดีดแรง เพราะราคาถูกอั้นเอาไว้ วอลุ่มการซื้อขายก็จะเพิ่มขึ้นตามมาด้วย ตอนนี้แหละที่น่าซื้อแล้ว เพราะไม่ต้องรอนาน หากมันสร้างฐานก่อนหน้านี้ไว้ก็ยิ่งดี จะได้มีจุดซื้อตอนที่ราคา breakout




(แนะนำหนังสือหุ้นของ Zyo ที่ไม่มีขายตามท้องตลาด)


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

เส้น EMA ที่เทรดเดอร์เทพนิยมใช้

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น