สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

วินัยนักเทรด : คุณคือศัตรูตัวร้ายที่สุดของตัวคุณเอง

 คุณคือศัตรูตัวร้ายที่สุดของตัวคุณเอง

(บางส่วนที่ตัดออกมาจากร่างหนังสือ "วินัยนักเทรด"


อะไรคือศัตรูตัวร้ายธรรมชาติของความเป็นมนุษย์

ธรรมชาติแบบไหนเป็นธรรมชาติของนักพนัน

การคิดแบบนักพนันคือการทำร้ายตัวเองสำหรับเกมการเทรด

มนุษย์ไม่ได้เหมาะกับเกมการเก็งกำไร

เราไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเล่นเกมส์เก็งกำไร

แต่เราถูกสร้างมาเพื่อที่จะเล่นเกมหนี เกมการป้องกันตัวเองในระยะสั้น

มนุษย์เราไม่ได้ทำอะไรโดยที่ไม่มีสาเหตุหรอกมันต้องมีแรงจูงใจให้ลงมือทำถ้าเราสาวสืบค้นไปจนเจอต้นต่อได้ก็จะช่วยให้เข้าใจและสามารถปรับปรุงแก้ไขให้ทำสิ่งใหม่ได้ง่ายขึ้น



ความอยากรวยง่ายๆเร็วๆไวๆตรงนี้เองที่ทำให้พวกเราต้องสะดุดขาตัวเองอะไรคือต้นตอที่แท้จริงของความอยากรวยเร็วๆๆไวๆมันเกิดจากธรรมชาติมนุษย์มันเป็นมุมมองของนักพนัน


งานเรื่องวินัยต้องเน้นย้ำว่าความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากตัวคุณแต่มันเกิดจากธรรมชาติมนุษย์ในตัวคุณ

ตลาดไม่ได้ทำร้ายคุณแต่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ทำร้ายตัวคุณเองการตัดสินใจในแต่ละครั้งของคุณทำร้ายตัวคุณเอง

ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องระวังไม่ใช่ตลาดแต่เป็นการระหว่างตัวคุณเอง

คุณคือศัตรูตัวร้ายที่สุดของตัวคุณเอง


ทำไมต้องมีวินัยทุกคนบอกได้หมดแหละครับว่าคุณต้องมีวินัยแต่ปัญหาที่ผมเจอเองคือเราไม่รู้เหตุผลอย่างแท้จริงว่าทำไมต้องมีวินัยทำไมต้องตัดขาดทุนทำไมต้องบริหารเงินทุน

ทำไมเราถึงไม่รู้ว่ามันมีความสําคัญ

ก็เพราะว่าเราไม่เข้าใจยังไงล่ะครับเราไม่สามารถที่จะเชื่อมจุดได้

อุปมาเหมือนกับรายการตอบคำถามทางทีวีถ้าผู้ตั้งคำถามยกประโยคคำถามขึ้นมาสักอย่างหนึ่งที่ผู้ตอบไม่รู้จักเขาจะตีความไปในทางที่เขาพอจำความได้หรือไม่สิ่งแวดล้อมที่เขารู้จักซึ่งมันกลายเป็นคนละเรื่องกันเลยกับสิ่งที่ผู้ถามต้องการเกษตรเหมือนปริศนาฟ้าแลบเด็กอย่างนั้นเลยครับ

ในการเทรดก็ไม่ต่างกันนะครับวินัยเป็นสิ่งที่ใครๆก็พูดถึงแต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจแล้วก็ทำตามได้เพราะว่าพวกเขาไม่เข้าใจ

ผมเองให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากไม่ใช่ว่าผมอยากจะสอนคุณหรอกนะครับเพียงแต่ว่าผมก็รู้ตัวเองว่ายังขาดวินัยอยู่พอสมควร

การเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาก็ทำเพื่อให้ตัวเองได้เรียนรู้แล้วก็เอามาย่อยให้กับผู้อ่านได้เข้าใจมากขึ้นด้วยเช่นกัน





นักลงทุนมักมีความดื้ออยู่ในตัวอย่างแข็งแรง

เรามักจะไม่ชอบให้ใครมาวิพากษ์วิจารณ์

เราไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าเราทำผิด

โดยเฉพาะการขาดทุนห้ามให้มีใครมาตอกย้ำเด็ดขาดว่าเราพลาดเราจะสวนกันทีด้วยอีโก้ของเราเอง

ผมไม่ชอบคนที่มาบอกว่าสิ่งที่ผมทำนั้นผิดเพราะอีโก้ของผมบอกว่าฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่


ซึ่งจริงๆแล้วผมเองก็ไม่แน่ใจว่าผมรู้ตัวเองอยู่หรือเปล่า

แต่ถึงกระนั้นผมก็สังเกตได้จากมุมมองของผมเองที่มองเพื่อนของผมคนนึงเขาก็เป็นนักลงทุนเหมือนกันซึ่งผมคิดว่าสิ่งที่เขาได้ทำอยู่นั้นไม่ถูกต้องคือเขาชอบซื้อหุ้นตามคำแนะนำของโบรกเกอร์ด้วยการใช้แนวทางพื้นฐานค่า PE มันทำให้เขาขาดทุนกับหุ้นหลายตัวที่ เมื่อได้ยินชื่อคุณแล้วไม่น่าเชื่อว่าเขาจะซื้อมันได้ ถ้าเขาใช้หลักการทางพื้นฐาน

แต่ผมเองก็ไม่ได้ไปต่อว่าอะไรเขามากเพราะแค่บอกว่าไม่น่าทำอย่างนั้น มันก็สวนผมกลับมาทันทีว่าเดี๋ยวมันก็กลับมาได้ คือมันติดดอยอยู่ครับผมก็พยายามบอกให้มันขายหุ้นออกไปซะแต่มันก็ไม่ยอมหมายความว่าเพื่อนผมคนนี้อีโก้จัดมากไม่อยากให้ใครมาดูแคลนว่าสิ่งที่ตัวเขาทำนั้นมันผิดพลาดจึงไม่จำเป็นที่ผมจะต้องไปบังคับหรือตอกย้ำอะไรเขาบ้างนะก็แล้วแต่ชะตากรรมของเขาเอง

อาจจะดูเหมือนกับว่าผมเป็นเพื่อนที่ไม่ดีแต่ผมก็คิดว่าผมไม่ได้มีหน้าที่ไปจ้ำจี้จ้ำไชใครมากนักและค่อนข้างมั่นใจได้ว่าถ้าเลือกมาเป็นนักลงทุนแล้วส่วนใหญ่อีโก้จัดกันทั้งนั้น

สิ่งเดียวที่จะทำให้เราคิดได้ คือตัวเราเอง

เราต้องคิดได้ว่า ไม่ไหวแล้ว ฉันทำแบบนี้ไม่ไหวอีกต่อไป ฉันต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่


อาการพลั้งมือกระทำโดยไม่ไตร่ตรองมาก่อนคุณหันพลันแล่น

เหล่านี้เกิดจากการตัดสินใจตามอารมณ์ทั้งสิ้น

ซึ่งไม่ได้เป็นเฉพาะในวงการเล่นหุ้นเท่านั้นแต่ในการใช้ชีวิตประจำวันก็เช่นกันไม่ว่าจะเป็นการขับรถความขัดแย้งทะเลาะกันอารมณ์วู่วามทำไปเพราะอีโก้ของตัวเองมักจะส่งผลร้ายไปยังคนที่คิดสั้นเสมอทำไมคนเราถึงได้คิดสั้นเพราะเขาไม่ได้คิดยาวเขาไม่ได้คิดว่าถ้าทำอย่างนี้แล้วผลจะเป็นอย่างไรในระยะยาวเขาคิดเพียงแค่ว่าทำให้มันบรรลุในครั้งนี้ก่อนเท่านั้นเองนี่แหละเป็นอาการวูบวาบไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาสนองความต้องการระยะสั้นของตัวเองเท่านั้น




7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks