การเทรดคือสงครามกับ “ตัวเราเวอร์ชันใจร้อน”

Image
การเทรดคือสงครามกับ “ตัวเราเวอร์ชันใจร้อน” สรุปจาก  https://x.com/i/status/1998937895151820931 หลายคนคิดว่าการเทรดคือการเอาชนะตลาด แต่ความจริงแล้ว ศัตรูตัวจริงอยู่ในตัวเราเอง—ตัวเราที่อยากได้ผลลัพธ์เดี๋ยวนี้ อยากชนะตอนนี้ อยากรู้สึกว่าตัวเอง “ถูก” ทันที และตัวตนแบบนั้นนี่แหละ ที่ทำให้บัญชีพัง ไม่ใช่ตลาด นักเทรดส่วนใหญ่ไม่ได้แพ้เพราะระบบไม่ดี แต่แพ้เพราะ “รีบ” รีบเข้า เพราะกลัวพลาด รีบแก้มือ เพราะอารมณ์นำ รีบปิดกำไร เพราะกลัวโดนกินคืน และรีบถือขาดทุน เพราะ “หวัง” ว่ามันจะกลับมา นี่ไม่ใช่ปัญหาของกลยุทธ์ แต่มันคือปัญหาของจิตใจ --- พฤติกรรมศัตรูในตัวเรามีหน้าตาแบบนี้ - เห็นกราฟกำลังจะสวย ก็เข้าเร็วเกินเหตุ - เบื่อแล้วกดสุ่ม - ขาดทุนนิดเดียว ก็เพิ่มล็อตเพื่อเอาคืน - ไล่ราคา - ปิดกำไรเร็วเพราะกลัว - ปล่อยขาดทุนเพราะ “หวัง” ทั้งหมดนี้คือสัญญาณว่าร่างกายกำลังควบคุมมือคุณ ไม่ใช่สมอง --- เครื่องมือที่ช่วยให้คุณเป็นเทรดเดอร์ที่ดีขึ้น 1. หยุด 10 วินาทีก่อนกดคำสั่ง ถามตัวเองหนึ่งคำถามง่าย ๆ “ฉันกำลังทำตามระบบอยู่ไหม?” ถ้าไม่ใช่—ไม่ต้องเทรด กฎนี้ช่วยรักษาบัญชีมากกว่าที่คุณคิด 2. จำกัดจำนวนเทรดต่...

"ผมชอบระบบเทรดที่มีความแม่นยำ 25% มากกว่า 75%" - Mark Minervini

ผู้คนมักจะประหลาดใจเสมอ 

เมื่อได้ยินผมบอกว่า 

"ผมชอบระบบเทรดที่มีความแม่นยำ 25% มากกว่า 75%"

.

ผมมีเหตุผล ว่าทำไม

เพราว่า ระบบเทรดที่มีความแม่นยำ 25% นั้น มันอนุญาตให้ผมทำผิดพลาดได้หลายครั้ง(ผิด 7 ครั้ง จากทั้งหมด10 ครั้ง) แต่ผมก็ยังมีกำไรติดมือ

นี่แหละที่ผมเรียกว่า "การเอาความผิดพลาดมาใส่ในระบบ"

ผมพยายามที่จะสร้างระบบที่ "ความผิดพลาดไม่อาจทำลายผมได้"

ระบบที่แม้ผมจะคิดผิดได้หลายครั้ง แต่ผมก็ยังได้กำไร

.

ในการเทรดนั้น คุณไม่สามารถควบคุมความแม่นยำได้เลย

เพราะคุณไม่อาจควบคุมราคาหุ้นหลังจากที่คุณซื้อไปแล้วได้เลย

พูดง่าย ๆ คือ คุณมีโอกาสผิดพลาดได้เสมอ

ดังนั้นกลยุทธ์ของผมคือ ผมจะต้องไม่พึ่งพาความแม่นยำมากเกินไป

.

ผมจะหันไปจัดการกับสิ่งที่ผมสามารถควบคุมได้แทน

นั่นคือ "ความเสี่ยง"

แม้ผมจะไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของราคาหลังจากที่ซื้อได้

แต่ผมสามารถแบ่งเงินซื้อให้เสี่ยงต่ำได้

ผมสามารถตัดขาดทุนให้เสียน้อยได้

ผมสามารถเลือกที่จะไม่เทรดได้ ฯลฯ

.

ถ้าผมควบคุมขนาดความผิดพลาดจากหุ้นผู้แพ้ได้

แล้วผมสามารถทนรวยในหุ้นผู้ชนะให้ได้กำไรมากกว่าขนาดโดยเฉลี่ยของความเสียหายจากการตัดขาดทุนได้หลาย ๆ เท่า

ด้วยกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงที่สัมพันธ์กับรางวัลที่เป็นธุรกิจที่ดีนี่เอง

ที่ช่วยให้ผมยังคงทำเงินได้สม่ำเสมอ...แม้จะผิดพลาดบ่อยก็ตาม

- Mark Minervini

(อาจแปลไม่ตรงกับคำพูดเป๊ะ ๆ นะครับ

แต่มันน่าจะขยายความให้ท่านเข้าใจประเด็นที่แกอยากจะสื่อได้ดีขึ้น"

จากหนังสือ Think and Trade Like a Champion

.

ปล. ขอเสริมข้อเท็จจริงของแกอีกนิด

๑) ความจริงแล้วระบบเทรดของพี่มาร์ค ไม่ได้แม่นยำ 25% หรอก

ความแม่นยำโดยเฉลี่ยประมาณ 50%

๒) ที่แกยก "ความแม่นยำ 25%" มาพูดนั้น เพื่อให้เห็นภาพแตกต่างชัดเจน

๓) แกตั้งใจจะบอกกับเราว่า อย่าไปจริงจังกับความแม่นยำมาก(โดยเฉพาะถ้าคุณเลือกสไตล์สวิงเทรดแบบแกนะ) เพราะไม่มีใครควบคุมความแม่นยำได้หรอก(ขนาดแกเองที่เป็น Market Wizards ผู้ซึ่งปั้นพอร์ตโต 30,000 ยังทำไม่ได้เลย) 

๔) แกต้องการจะสื่อว่า ที่แกทำกำไรจากการเทรดได้สม่ำเสมอนั้น มันมาจากระบบเทรดที่มี "การควบคุมความเสี่ยง + บริหารความเสี่ยงต่อรางวัลที่เป็นธุรกิจ + ทบต้นกำไร" ไม่ใช่ระบบเทรดที่มีความแม่ยำสูงแต่อย่างใด

๕) เหนืออื่นใด ผมตีความว่า แกอยากให้พวกเรา "อย่าได้รังเกียจความผิดพลาดและอย่าได้หนีมัน" แต่จง "เอาความผิดพลาดมาอยู่ในการควบคุม" ให้ได้ดีที่สุดต่างหาก ก็ในเมื่อคุณไม่อาจหนีความผิดพลาดได้ - ทำไมคุณไม่เอาความผิดพลาดนั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบไปเลย! นี่ต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

Grok? $IREN หุ้นอเมริกาตัวนี้ ถูกเชียร์เกินเหตุหรือเปล่า?

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า