เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?

Image
เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?  Dr. Van K. Tharp พูดเสมอว่า “นักเทรดไม่เทรดตามที่ตลาดเป็นหรอก  แต่พวกเขาเทรดตามความเชื่อของพวกเขา”   เรื่องนี้ผมเห็นด้วยอย่างสมบูรณ์   ความเชื่อของผมมีดังนี้:  1) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลไกการซื้อ/ขายที่สมเหตุสมผลและช่วยให้เขาลงมือตามสัญญาณได้ทันที   2) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีแนวทางที่สมเหตุสมผลในการกำหนด Position Size ของเขาอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยลดความน่าจะเป็นที่จะถูกทำลาย   3) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลยุทธ์ที่ช่วยลด Drawdown ของ Equity Curve เพื่อทำให้เขาเครียดน้อยลง   4) ตลาดจะเปลี่ยนแปลงเสมอ มันจะขึ้น, ลง, และไซด์เวย์ 5) การลอกกลยุทธ์คนอื่นมาใช้ทั้งดุ้น มักจะไม่เวิร์ค  การสร้างกลยุทธ์หรือพัฒนากลยุทธ์ที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณคือแนวทางที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า 6) ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบในการเทรด   7) ตลาดจะทำในสิ่งที่มันอยากจะทำ - Tom Basso จากหนังสือ The All-Weather Trader

นักเทรดหมูผู้แพ้ มองและปฏิบัติต่อการเทรดแบบนักพนันมือสมัครเล่น - Gambling trader

“พนัน” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง เล่นเอาเงินหรือสิ่งอื่นใดโดยอาศัยความฉลาด ความชำนาญ เล่ห์เหลี่ยม ไหวพริบ และฝีมือ รวมทั้งโชคด้วย การเล่นเช่นนั้นเรียกว่า การพนัน

ดูความหมายแล้ว การพนัน ไม่ได้มีอะไรที่เลวร้ายมากนัก ถ้าเรามีความชำนาญ มีไหวพริบ รวมถึง ฝีมือ

แต่โดยธรรมชาติของทุกวงการแข่งขัน ต้องมี “เซียน” และ “หมู” อยู่ในสิ่งแวดล้อม/ในเกมนั้น

แน่นอนว่า “เซียน” ที่มีจำนวนน้อย จะเป็นฝ่ายกินเงิน “หมู” ที่มีประชากรจำนวนมาก เป็นประจำ เป็นล่ำเป็นสัน

เซียนรวยขึ้น เพราะ หมูเสียเงินให้เซียน


ทั้งเซียน และ หมู ต่างเป็นนักพนัน นะครับ

แตกต่างกันตรงที่ว่า “เซียน” มีความเข้าใจเกม มีความเชี่ยวชาญ มีไหวพริบ มีฝีมือ รวมถึงบริหารจัดการโชค ได้ด้วย

ส่วนกลุ่มของ “หมู” นั้น ขาดความเข้าใจเกม ขาดความเชี่ยวชาญ ขาดไหวพริบ ไร้ฝีมือ หวังพึ่งโชคอย่างเดียว

หมูสามารถกินเงินเซียนได้ ถ้าโชคเข้าข้าง แต่จะไม่ได้แบบสม่ำเสมอ แบบที่เซียนทำได้

ทักษะ/ความสามารถ/ความเชี่ยวชาญ กับ ความสม่ำเสมอ คือ ตัวแยกแยะระหว่าง เซียน กับ หมู


หมู เข้าพนันเพราะไม่รู้อะไรเลย มีแต่ความอยากรวยไว ๆ

เซียน เข้าพนันเพราะรู้ว่าเกมนี้มันเล่นยังไง รู้วิธีเอาตัวรอด และรู้วิธีกอบโกยผลประโยชน์


ถึงกระนั้น เซียนเองก็เคยผ่านการเป็นหมูมาก่อน

เพียงแต่เขา ไม่ได้หยุดพัฒนาตนเอง เขาเรียนรู้ สะสมประสบการณ์ สร้างทักษะ จนเชี่ยวชาญ ทำเงินได้สม่ำเสมอ ในแบบที่เซียนสามารถทำได้ หมูทุกคนล้วนต้องการเป็นเซียนด้วยกันทั้งนั้น แต่แค่ความอยากนั้นไม่เพียงพอ เขาต้องมีการลงทุนในตนเอง ฝึกฝน เรียนรู้ ให้เวลาเป็นเพื่อน สั่งสมประสบการณ์จนกระทั่งเกิดความเชี่ยวชาญเฉพาะขึ้นมา


กว่าที่หมูจะกลายร่างเป็นเซียน ต้องใช้เวลาเคี่ยวกรำตนเองหลายปี 5-10 ปี ถือเป็นเรื่องปกติ


“หมู” มาแล้วก็ไป แต่ “หมูที่มีเป้าหมายเป็นเซียน” จะยังคงยืนหยัดต่อสู้ เรียนรู้ จนกระทั่งบรรลุเป้าหมาย

จากบบทที่แล้ว “ความจริงที่แสนเจ็บปวดฯ” หมูจะยืนหยัดอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี ก็เลิกล้มถอดใจออกจากเกมไป หมูกลุ่มใหม่ก็จะถูกดึงดูดเข้ามา(ผ่านการประชาสัมพันธ์ , สตอรี่ความสำเร็จของเซียนรุ่นใหม่ เป็นต้น) การผ่องถ่ายจะหมุนเวียนไปแบบนี้ไม่มีสิ้นสุด ไม่เชื่อลองสังเกตดูสิ 5 ปีที่ผ่านมา เซียนหุ้น ก็ยังคงมีแต่หน้าเก่า ๆ ชื่อเดิม ๆ แถมรวยขึ้นทุกปี


คุณจะเป็นฝ่ายแพ้ เมื่อคุณตัดสินใจ ล้มเลิก อาจล้มเลิกเพราะถอดใจ หรือ ล้มเลิกเพราะหมดตัว

แต่ถ้าคุณยังคงยืนหยัดสู้ หมายความว่าคุณยังไม่ใช่ผู้แพ้ คุณไม่ถอดใจ แถมเงินทุนยังเหลือพอให้สู้ต่อ


มือใหม่ทุกคนล้วนมองเกมการเทรดแบบนักพนันทั้งสิ้น เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์อะไรมาเลย

แต่ในบรรดามือใหม่ทุกคน ล้วนเข้ามาด้วยต่างเจตนา ต่างเป้าหมาย

ส่วนใหญ่มีความต้องการเงินด่วน/เงินง่าย น้อยมากที่มีต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญ/เป็นเซียน

ถ้าหากคุณต้องการประสบความสำเร็จในเกมการเทรด ต้องคิดแบบหลัง คือ “ฉันต้องเก่งที่สุดให้ได้ก่อน” ไม่ใช่ “ได้เงินไวที่สุด” เหมือนอย่างคำแนะนำของพี่มาร์ค มิเนอร์วินี ที่ว่า “สำหรับผมแล้ว ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อผมตัดสินใจที่จะลืมเรื่องเงิน และไปตั้งใจที่จะเป็นนักเทรดที่ยอดเยี่ยมเท่าที่ผมจะทำได้ จากนั้นเงินจะตามมาเอง”

แต่ก็อย่างว่าแหละ ธรรมชาติมนุษย์ เราล้วนต้องการรางวัลก้อนใหญ่โดยพยายามให้น้อยที่สุด การตั้งเป้าหมายว่าต้องเก่ง

ที่สุดให้ได้ก่อนนั้น มันดูเชื่องช้า เสียเวลา และเสียสละมากไปสำหรับพวกเขา จึงไม่ค่อยมีใครเลือกทางนี้มากนัก

เมื่อไม่ยอมสละบางอย่าง ต้องการรางวัลง่าย ๆ ไว ๆ วิธีการคิด การตัดสินใจ รวมถึงการให้ความหมายของผลลัพธ์จึงเป็นไปแบบนักพนันมือสมัครเล่น เป็นหมู ให้เซียนเชือดง่าย ๆ ไปโดยปริยาย 


ลักษณาการของความเป็นหมู คือ 

คาดหวังผลลัพธ์ที่ถูกใจเท่านั้น ถือเป็นสิ่งที่ผิดธรรมชาติของชีวิตนี้ เพราะแทบไม่มีใครสามารถควบคุมผลลัพธ์ได้เลย

ไม่คิดที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาด เป็นเพราะการโฟกัสไปที่ตัวเงินเท่านั้น ไม่ได้เงินถือว่าแพ้/ถูกกลั่นแกล้ง คิดแค่นั้น 

ทุ่มเงินก้อนใหญ่ หวังรวยทันที ได้แจ๊คพอต รวยแล้วเลิก โดยลืมไปว่าตนเองยังรู้จักเกมน้อยมาก ตัดสินใจตามตำราแบบคนไร้ประสบการณ์ หรือที่เลวร้ายที่สุดก็คือเข้าซื้อตามอารมณ์ที่มาจากการกระตุ้นของลิ่วล้อเซียน แบบนี้หมดตัวลูกเดียว

ล้มเลิกทันที เมื่อไม่ได้กำไร ฯลฯ


สรุปก็คือ นักเทรดล้วนเป็นนักพนัน เพียงแต่ว่ามีสองกลุ่ม คือ กลุ่มเซียน(ผู้ชนะ)ที่ได้เงินสม่ำเสมอ กับ หมู(ผู้แพ้)ที่มีแต่เสียเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเซียนก็เคยเป็นหมูก่อน เพียงแต่ว่าเป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่การได้เงินเป็นสิ่งแรก เขาโฟกัสไปที่การสละเวลาลงทุนพัฒนาตนเองให้เป็นผู้เชี่ยวชาญก่อน จากนั้นจึงเริ่มทำเงินอย่างจริงจัง


ด้วยเหตุนี้ ผู้อ่านท่านใดที่ได้อ่านมาถึงจุดนี้ ถ้าหากท่านยังคงเป็นนักเทรดที่ขาดทุนอยู่ ถือเป็นเรื่องปกติครับ เซียนทุกคนล้วนเคยเป็นหมูมาก่อน ให้เปิดใจยอมรับว่าฉันเป็นหมู แต่ฉันจะยอมเป็นหมูชั่วคราวที่อยู่ในวงจรชีวิตเซียนเท่านั้น อนาคตฉันมีเป้าหมายว่าจะเป็นเซียน จากนี้ไปฉันจะตั้งใจเรียนรู้ พัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น เชี่ยวชาญมากขึ้น ให้เวลาเป็นเพื่อน รับรองว่า อีกไม่นานฉันได้บรรลุเป้าหมายกลายร่างเป็นเซียนแน่นอน


แนะนำบทความรวมคลิป = คอร์สหุ้นออนไลน์ 

ชมฟรีครับ ที่ช่องยูทูปของ zyo


***********

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดหุ้น คุณไม่ต้องรอบรู้ไม่ต้องเก่งทุกเรื่องและทุกอย่างหรอก ทำแค่ 7 เรื่องนี้ให้ได้ก็พอ....

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ศาสตร์และศิลปะของการปั้นพอร์ต ให้เติบโตสม่ำเสมอ Art & Science of Trading