เขาปั้นพอร์ตโต 300 เด้ง(ภายใน 5 ปี) ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้หุ้นเด้งสักตัว…นี่คือวิธีการที่เขาใช้

Image
คุณจะไม่มีทางได้รับผลตอบแทนมหาศาลจากความสม่ำเสมอที่แท้จริงใดๆ ที่ถือครองพอร์ตโฟลิโอหุ้นที่หลากหลายทั้งหนาและบาง ประสิทธิภาพที่สูงโดยมีการเบิกจ่ายเพียงเล็กน้อยต้องการ: 1. จับจังหวะตลาด 2. การหมุนรอบ 3. ลงเงินเข้าเทรดแบบจัดหนักเมื่อการเทรดเวิร์ค ลงเงินน้อยเมื่อไม่เวิร์ค ผมไม่ได้ฉลาดมากพอที่จะรู้ว่าหุ้นตัวไหนจะเป็นหุ้นร้อยเด้งตัวต่อไป ที่ผมปั้นพอร์ตโตได้อย่างสุดยอดนั้น (ไม่ได้มาจากการได้กำไรหุ้นเด้ง(100%)..สิบเด้ง...ร้อยเด้งเลย แต่เป็นได้กำไรระดับ 20-30% จากหุ้นหลาย ๆ ตัว) ได้จากหุ้นที่วิ่งขึ้นอย่างมั่นคงและน่าเชื่อถือเท่านั้น ผมแค่ใช้หลักการทบต้นกำไรให้ได้มากที่สุด และจำกัดขนาดการขาดทุน(drawdowns)ให้เสียน้อยที่สุด - Mark Minervini ปล. คนที่จะทำแบบนี้ได้ ต้อง... 1.มีวินัยสูงมาก รู้จักรอคอย อดทนไม่เทรดในตอนทำเงินยาก 2.เชี่ยวชาญใน Position Sizing บุกหนักในช่วงเงินง่าย หนังสือเล่มมีขายที่  https://www.facebook.com/zyobooks eBook มีขายที่  https://bit.ly/zyoebooks

ความจริงเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่นักเปิดคอร์สเก็บเงิน(อาจ)ไม่เคยบอกคุณ

ความจริงเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่นักเปิดคอร์ส(อาจ)ไม่เคยบอกคุณ(หรือคุณไม่สนใจฟัง)

มือใหม่ต้องฟังหูไว้หู จะได้เอาตัวรอดในตลาดหุ้นได้



แนะนำบทความรวมคลิป = คอร์สหุ้นออนไลน์ 

ชมฟรีครับ ที่ช่องยูทูปของ zyo


***********


๑. เทคนิคอลมีอยู่ ๒ แบบ

แบบแรก ทำนายอนาคต โดยการใช้ pattern ณ ตอนนั้น เป็นเกณฑ์

แบบที่สอง ใช้การเคลื่อนไหวราคา/price action ณ ตอนนั้น เพื่อตัดสินใจซื้อ/ขาย โดยยึดหลักของ risk/reward ration และเกาะแนวโน้ม

๒. การวิเคราะห์ทางเทคนิค ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ หรือ แม่นยำ 100% เลย มันเป็นเพียงแค่แนวทางในการดู price action / pattern ณ ตอนนั้น เพื่อมองหาความน่าจะเป็นในอนาคต

๓. แนวรับ แนวต้าน จะมีนัยสำคัญใน trading range เท่านั้น เมื่อมันทะลุได้แล้ว มันก็ไม่มีนัยอีก เมื่อเป็นขาขึ้นจะไม่มีแนวต้านไหนแข็งแกร่งยืนยง เมื่อเป็นขาลงก็ไม่มีแนวรับไหนที่แข็งแกร่งยืนนาน

๔. แนวรับ/แนวต้านสามารถเปลี่ยนจากแนวนอนเป็นแนวตั้งได้ ถ้ามีการใช้ร่วมกับ เส้นค่าเฉลี่ย หรือ trend line

๕. เส้นค่าเฉลี่ยสามารถใช้ดี(เป็นแนวรับ/แนวต้าน)ในตอนที่ตลาดมีแนวโน้ม แต่จะไม่ได้ผลในยามที่ตลาดไร้แนวโน้ม หรือ ตลาดแกว่งรุนแรง high volatility

๖. หากคุณเป็นคนที่หลงเชื่อสตอรี่ของหุ้นมากเกินไป หรือ กลัว/กล้ามากเกินไป ความเชื่อนี้จะเป็นเชื้อให้คุณมองกราฟหุ้นด้วยอคติ คือ มองในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเห็น/สนับสนุนความเชื่อของตนเอง

๗. Overbought กับ oversold indicators จะใช้ไม่ได้ในยามที่ตลาดเกิดการ panic buy / sell เพราะมันจะเป็น super Overbought กับ oversold แทน

๘. การวิเคราะห์ทางเทคนิค ไม่เหมือนกัน ในต่าง timeframe เพราะคุณจะเห็น pattern ที่แตกต่างกันจาก intra-day, daily, weekly, and monthly charts มันจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากที่คุณจะต้องโฟกัสไปเทรดใน timeframe ที่คุณถนัดเท่านั้น

๙. ต้องมีความยืดหยุ่น ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ถ้า price pattern หรือ แนวโน้มเปลี่ยน คุณต้องเปลี่ยนมุมมองในการตีความ/อ่านกราฟตาม

๑๐. 90% ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค คือการมองหาว่าราคาจะวิ่งไปในทิศทางไหน เมื่อมัน breakout อีก 10% เป็นเรื่องของ narrative (การบรรยาย/หาเหตุผลมาสนับสนุน)

๑๑. หนังสือการวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นการเอาอดีตมาชี้ย้อนหลัง โดยการคัดกราฟที่สนับสนุนทฤษฎีนั้นมาให้ดู ใคร ๆ ก็เขียนได้ เม่าที่ยังไม่สำเร็จก็เขียนได้(แกะดำหนึ่งเดียวนั้นคือผมเอง)




ลิงค์นี้นะครับ https://www.zyo71.com/p/index.html

แนะนผลงานเขียนของผมที่เป็นรูปเล่มครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

เล่นหุ้นตามฝูง ไม่รุ่ง มีแต่เจ๊ง?

กลยุทธ์ และสไตล์การเทรดของ ปู่ William O’Neil

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

เส้น EMA ที่เทรดเดอร์เทพนิยมใช้