สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

Dairy of a Professional Commodity Trader Lesson from 21 Weeks


 

ระบบเทรดที่มี win rate 70% กับ 30% คุณจะเลือกอันไหน?

จากหนังสือ Dairy of a Professional Commodity Trader Lesson from 21 Weeks

คุณขาดทุนยับไปกับการซื้อระบบเทรด, คอร์สเทรดราคาแสนแพงที่อ้างว่าเป็นความลับสุดยอด มีแล้วรวย

คุณอาจเทรดชนะได้บางครั้งแต่จะไม่มีทางได้กำไรสม่ำเสมอและยั่งยืนปีแล้วปีเล่าเป็นอันขาด

.

นั่นเป็นเพราะว่าคุณใช้เวลาส่วนใหญ่เงินจำนวนมากและก็พลังงานไปเพื่อหาหนทางที่จะได้กำไรแต่ในวิธีการที่ผิดพลาด นั่นคือการระบุจุดซื้อขายที่ดี อันเป็นส่วนประกอบที่แทบจะไม่สำคัญเลยสำหรับการเทรดที่จะสร้างกำไรได้อย่างสม่ำเสมอและยั่งยืน

ความจริงแล้วส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดที่คุณควรเรียนรู้ก็คือการบริหารการเทรดที่ขาดทุนให้ดีที่สุดต่างหาก

.

ถ้าคุณมี โอกาสเลือก ระบบเทรด ได้ 2 แบบ

แบบแรก มีเปอร์เซ็นต์ชัยชนะที่ 30% 

แบบที่ 2 มีเปอร์เซ็นต์ชัยชนะถึง 70 เปอร์เซ็นต์

คุณจะเลือกระบบไหน?

.

ผมบอกคุณเลยว่านักเทรดมืออาชีพจะเลือก 30% 

แต่นักเทรดมือสมัครเล่นจะเลือกระบบ 70 เปอร์เซ็นต์

ทำไมถึงแตกต่าง?

.

มืออาชีพ เลือก 30% เพราะ margin of error เขาให้ความเสี่ยงมาก่อน ใครบริหารดีกว่า จะรวยกว่า

มือสมัครเล่นเลือก 70% เพราะคาดหวังผลลัพธ์ แต่เขาลืมไปว่า ถ้าบางปี ตลาดแย่มาก ๆ เปอร์เซ็นต์ชนะลดลง เขาจะรับมือยังไง? (เขาจะทำตัวไม่ถูก และจะพังเอา)

.

มันง่ายมากที่จะทำเงินในตลาด community แต่การจะรักษามันเอาไว้ได้กลับยากกว่ายิ่ง

.

เป้าหมายของการเขียนหนังสือเล่มนี้

๑. การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ให้ได้กำไรสม่ำเสมอและยั่งยืนนั้น ไม่ใช่การหาสูตรลับ

๒. แต่มันคือการบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง

๓. การเทรดที่สำเร็จเป็นการทำตามกระบวนการที่ดี(ทำเงินได้พอเพียง) และทำซ้ำ ๆ ด้วยวินัยและความอดทน

๔. ความเป็นมนุษย์คือตัวแปรสำคัญต่อความสำเร็จในการเทรด บริหารอารมณ์(กลัว/โลภ)ให้ดีคือปัจจัยสำคัญที่สุดต่อการเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จ

๕. คุณสามารถรวยจากการเทรดได้ แม้จะมีการเทรดพลาดระหว่างทาง

๖. หลักการอ่านกราฟ ไม่ใช่กุญแจวิเศษ มันก็แค่ให้โครงสร้างกระบวนการเทรด เท่านั้น

.

การเทรด คือ ธุรกิจ

คุณจึงต้องมีแผนธุรกิจที่จริงจัง เพื่อไกด์แนวทางการตัดสินใจและลงมือทำที่เหมาะสม

Building blocks.

.

ความคาดหวังของผู้เขียน

๑. การเทรดให้ได้กำไรสม่ำเสมอ ยั่งยืน/เป็นมือโปรไม่ง่าย คุณต้องพร้อมทั้งจิตใจและspirit รวมถึงอารมณ์

คุณควรเคารพมัน อย่าไปเชื่อคำโฆษณาว่ามันง่าย นั่นเป็นการดูถูกอาชีพนี้ยิ่ง

๒. อยากบอกคนที่ไม่เคยเทรด หรือนักเทรดที่ยังไม่สำเร็จ ว่า การเทรดเป็นเกมยาว คุณต้องใช้เวลาเรียนรู้จนกว่าคุณ จะปฏิบัติการเทรดให้เป็นการทำธุรกิจ ตัดสินใจให้เหมาะสมตามครรลอง

๓. ธรรมชาติมนุษย์ คือปัจจัยสำคัญต่อการเทรดให้ได้กำไรสม่ำเสมอและยั่งยืน

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks