สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

พัฒนาการ 10 ขั้น จากเม่า สู่ เซียนหุ้น ของพี่ Mark Minervini


1. passion

๑. มีแต่ใจอยากรวย 

๒. ศึกษาเรื่องการลงทุนพื้นฐาน

๓. ไม่มีความมั่นใจในระบบ ตัดสินใจตามคำแนะนำของโบรกเกอร์ ขาดทุนหนักจนหมดตัว

(นักเทรดส่วนใหญ่ เลิกล้ม พับเสื่อกลับบ้าน ตรงนี้)

Perseverance พากเพียร ไม่ย่อท้อ

๓.๑ ใจยังอยู่ ไม่ยอมแพ้ ยังเชื่อมั่นในตนเอง ว่าทำได้

เรายังเรียนรู้ไม่พอ

๔. ศึกษาเพิ่ม แต่ยังคงตัดสินใจไม่เด็ดขาด ยังไม่ชอบขาดทุน จึงไม่ยอมขายตัดขาดทุน หมดตัวอีกรอบ

๔.๑ ใจยังอยู่ ไม่ยอมแพ้ ยังเชื่อมั่นในตนเอง

เรายังเรียนรู้ไม่พอ


2. Adaptation ปรับปรุง เลือกสไตล์ที่เหมาะกับตนเอง

๕. เปลี่ยนสไตล์ จากพื้นฐาน เป็นเทคนิค แทนที่จะซื้อหุ้นที่ราคาต่ำ ๆ (bottom fishing) เปลี่ยนเป็นซื้อหุ้นที่ราคาสูง(breakout) ให้ความสำคัญกับการตัดขาดทุน มีวินัย

Trial and error

๖. ยังคงล้มลุกคลุกคลาน เพราะใช้หลายสไตล์ เพื่อเลือกเอาสไตล์และแนวทางที่ดีที่สุด และยังไม่ตกผลึก 

เข้าโหมดทดลอง ลงทุนในตนเอง


3. ตกผลึก

๗. เลือกสไตล์ที่ใช่ได้แล้ว แต่ว่ายังมีปัญหาเรื่องการ take profit อยากได้กำไรเป็นเด้ง มักจะปล่อยกำไรเป็นขาดทุน

๘. ปรับมุมมองให้หมุนรอบ positive expectancy 

คือ reward : risk ที่เป็นการทำธุรกิจ

Reward : risk 3:1 ยืนพื้น 2:1

ทำให้ตนเองเชื่อมั่นในการทบต้น มากกว่าได้เด้ง


4. ปั้นพอร์ตให้โตระเบิด

๙. ให้ความสำคัญกับการรักษา equity curve ให้เติบโต ด้วยการ selling into strength

๑๐. ลงทุนแบบโฟกัส ไม่กระจายความเสี่ยงมากเกิน (25%) มีความสามารถในการถือเงินสด หยุดเทรดในสภาวะตลาดเป็นอันตรายต่อระบบ

win rate 50% reward 2.6 : risk








7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks