Position sizing ที่ดี ช่วยลดปัญหา Trading psychology ได้แทบทั้งหมด

Image
Steve Burns พูดได้น่าสนใจว่า "ส่วนใหญ่ของปัญหาด้านจิตวิทยาการเทรดสามารถแก้ไขได้ด้วยการลดขนาดของการเทรดลง และเฝ้าดูกราฟเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นสำหรับสัญญาณที่คุณใช้ ไม่ใช่การดูกราฟทั้งวัน" Position Sizing กับพัฒนาการนักเทรด 3 ระดับ... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง    https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=312087 หมายความว่าไง: 1. ปัญหาด้านจิตวิทยาในการเทรดคืออะไร? เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เช่น ความกลัว ความโลภ ความเครียด หรือความกังวล ที่อาจทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาด เช่น ขายเร็วเกินไป ซื้อเพิ่มโดยไม่ไตร่ตรอง หรือไม่กล้าปิดขาดทุน 2. ทำไมการลดขนาดการเทรดถึงช่วยได้? ถ้าคุณเปิดออเดอร์ขนาดใหญ่ เช่น ใช้เงินจำนวนมากหรือเลเวอเรจสูง คุณจะรู้สึกกดดัน เพราะการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของราคาอาจทำให้คุณขาดทุนหรือกำไรมาก แต่ถ้าคุณลดขนาดการเทรดลง เช่น ใช้เงินหรือเลเวอเรจน้อยลง คุณจะควบคุมอารมณ์ได้ง่ายขึ้น เพราะแรงกดดันลดลง และมีเวลาคิดวิเคราะห์มากขึ้น 3. การดูกราฟตลอดทั้งวันมีผลเสียอย่างไร? การจ้องกราฟนานเกินไปอาจทำให้คุณเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ รวมถึงสร้างความกังว...

XO : Smart Money & High Tight Flag

XO : Smart Money & High Tight Flag

เห็นหุ้น XO ดีดแรง วิ่งดีเอามากๆ จึงรู้สึกอยากแกะที่มาของมันมาให้อ่านกัน
แต่ก็ต้องบอกดักกันก่อนนะครับว่า
๑) ราคาในช่วงนี้มีความเสี่ยงมากเกินไปแล้ว ไม่แนะนำ
ที่เอามาทำเคสก็เพราะว่า อยากให้ท่านเห็นจุดร่วมบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการทางด้านการทำกำไร(พื้นฐาน) และ การเข้าเปิดเกมส์ของ Smart money
๒) เขียนวิเคราะห์ทีหลัง ยังไงก็ถูกนะครับ



ดูกราฟกันก่อน เดี๋ยวจะไล่จากผล ย้อนกลับไปที่เหตุ
เหตุการณ์สำคัญที่ราคาหุ้น XO เริ่มสตาร์ท ก็คือวันที่ 16 มีนาคม 2018
เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น?

นี่ครับ

ทีมผู้บริหารมาออก Oppday
นักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับงานนี้มากก็คือวีไอ และก็น่าจะได้รับสัญญาณบวกอะไรบางอย่างจากการตอบคำถาม จึงมีการไล่ราคาให้วิ่งขึ้นไปทันที
คือถ้าเรามองผลที่เกิดในวันนี้ คือราคาวิ่งมาจาก 4.5 ปิด 9 บาท นี่ก็ 100% ภายในเวลา 3 เดือนเท่านั้น
ซึ่งวันนี้เราก็รับรู้สาเหตุที่ทำให้ราคาวิ่งแรงเพราะ
งบไตรมาส 1 ของปีนี้โตกว่าของปีที่แล้วถึง 225% ก้าวกระโดดอย่างสุดเซอร์ไพรส์



ทำไมกำไรถึงได้โตขนาดนี้?
ต้องไปอ่านคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ซึ่งถ้างบออกมาดีหรือต่ำกว่าเปอร์เซนต์ที่ กลต.กำหนด บริษัทนั้นต้องชี้แจงที่มาของรายได้หรือความเสียหายนั้น

ซึ่งนี่แหละที่เป็นเบาะแสที่ดีในการจับสัญญาณฟื้นตัวของบริษัทเป้าหมาย จาก Smart Money

จากข้อมูลเหล่านี้ เราได้ข้อสังเกตว่า กำไรที่เขาได้มานั้นเกิดจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น  บวกกับราคาน้ำตาลลดลง จึงลดต้นทุนได้ ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นโหด



อีกสาเหตที่สำคัญก็คือ บริษัทนี้เพิ่งลงทุนหนัก คือโรงงานใหม่ครับ ปีที่แล้ว กำไรจึงถูกต้นทุนทางการเตรียมคน+สถานที่ฉุดเอาไว้ แถมราคาน้ำตาลก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย กำไรก็เลยหดลงไปอย่างมีนัยยะ



ดังนั้น เมื่อปีนี้ (61) ราคาน้ำตาลลด ผลประกอบการก็เลยเพิ่มขึ้น ยิ่งเทียบกับผลงานปีที่แล้วที่หดตัว มันก็เหมือนคูณสองไปกับ กำไรโตกว่าเดิม 200%++



ข้อสังเกต
ถ้าเช็คงบของหุ้นที่เปิด gap สวยๆ บางตัว ก็มีเบื้องหลังคล้ายกัน คือ ปีที่แล้วสร้างโรงงานใหม่ ทำให้แบกค่าเสื่อม งบจึงกำไรลด พอมาปีนี้ ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง งบดีขึ้น ก็กลายเป็นโตกระโดด

สัญญาณจากงาน Oppday
เนื่องจากอย่างที่เกริ่นตั้งแต่ต้นไว้ว่า ราคาหุ้นมันเริ่มออกสตาร์ทในวัน Oppday นั่นเอง มันมีสัญญาณหรือ signal อะไรที่ผู้บริหารแอบกระซิบนักลงทุน?


อยากให้ท่านเริ่มที่นาที 25 เป็นต้นไป ผู้บริหารได้ออกมาบอกว่า ตอนนี้กำไรพ้นจากจุดต่ำสุดแล้ว
แถมยังบอกว่าปีนี้กำไรจะเบรคไฮได้ด้วย!!

ทำไมเขากล้าพูดแบบนั้น?
เขาให้เหตุผลประกอบไว้ว่า ก่อนหน้านี้ที่ระดมทุนเข้าตลาดเพื่อสร้างโรงงานใหม่ แต่ก็เกินงบ แถมเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ในที่สุดก็เสร็จเสียที
และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ความตกต่ำทั้งหลายนั้น มันสะท้อนไปในงบของปี 2560 ไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ค่าเสื่อม ก็ไปกองรวมกันหมดแล้ว
ปัญหาเรื่องส่วนผสมที่ต้้องปรับจูนใหม่ ก็ทำสำเร็จลุล่วงไป ในปีที่แล้ว

โดยปีนี้ บริษัทจะเปลี่ยนแนวทางเป็นเกมบุก แบบมีคุณภาพ คือเน้นขายสินค้าที่มี GP สูงๆ

(ตรงนี้เด็ด) คุณจิตติพร(ขยับร่างกาย+ทำหน้าตาขึงขัง เหมือนมั่นใจมาก)บอกว่า ปีนี้น้ำตาลราคาถูกกว่าปีที่แล้วพอสมควร แถมยังเซ็นสัญญาซื้อล่วงหน้าได้ในราคาที่พอใจมาก จะลดต้นทุนได้พอสมควร
และราคาน้ำตาลใหม่ จะเริ่มใช้ได้ในเดือน 3

ผมคิดว่าช่วงที่ว่านี้แหละที่ทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจว่าผลประกอบการออกมาดีแน่ จึงมีการไล่ซื้อกันใหญ่

มาดูไกล้ๆที่วันจริง น่าจะมาจากความมั่นใจของผู้บริหาร ราคาจึงพุ่งแรง วอลุ่มเข้ามหาศาล

---------------------------------------------------------

เทคนิคอล
ต่อมา ก็เป็นเรื่องของเทคนิคอลแล้วครับ
วันที่ 16 มีนาคม ที่เกิดแท่งเขียวยาวนั่นแหละครับที่เป็นสัญญาณเปิดเกมส์ของ Smart Money ถ้าใครอ่านหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่" แล้วนึกภาพไม่ออก ก็จำทรงแบบนี้ไว้ครับ ซึีงมันก็เคยเกิดแบบเดียวกันนี้กับ COL ผมเคยเขียนไว้ครับ คลิกอ่านตามลิงค์นี้

เมื่อ Smart Money เขาเปิดเกมส์แล้วไงต่อ
เท่าที่สังเกตมานะ (ประเด็นนี้ก็ได้เขียนไว้ในหนังสือ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" ไว้พอสมควรครับ) เมื่อเกิดแท่งเขียวยาวแล้ว มันจะเข้าสู่ระยะที่เรียกว่า excess phase ทำให้เกิดการขายทำกำไรเป็นจำนวนมาก ราคาจะวิ่งขึ้นแบบอืดลง แต่ด้วยความที่ยังมีนักลงงทุนอีกกลุ่มเห็นว่า มันน่าจะวิ่งต่อไปได้อีก ความตื่นเต้นยังไม่หมดไปหรอกนี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น จึงเข้ามารับซื้อ ทำให้เกิดการยันราคากันขึ้น

ทรงของมันก็เลยกลายเป็น high tigh flag


ซึ่งเมื่อเทียบกัน ก็เข้าข่ายนะครับ
แต่ปัญหาที่ต้องเจอแน่คือ ของจริงกับทฤษฎี มันไม่เป๊ะ
ท่านดูให้ดีสิ Base 1 กับ Base 2 ปัญหาของมันคืออะไร
คือการระบุกรอบของการทำ flag ครับ
ถ้าท่านวางกรอบการแกว่งแคบไปก็จะโดนเขย่า แต่ถ้าลึกไป คุณก็อาจจะต้องเสี่ยงเพราะถ้าหากทุนสูง เจอแท่งแดงกดแรงให้หลุดทุนท่านนะ เสียววาบเลย คนโง่มักจะโดดออกตอนนี้ (ผมเองแหละ)
ยิ่งท่านเผลตามตอนที่ราคาทำ false breakout ด้วย รับรองว่าได้ stop ออกมาแน่




High, Tight Flag Pattern : The Power Play
มาเจาะส่วนประกอบของรูปแบบราคานี้กัน
ขออ้างประโยคของพี่มาร์ค จากหนังสือ จากหนังสือ "เทรดแบบเซียนหุ้น ให้ได้กำไรขั้นเทพ" บทที่ 10 ชื่อ "รูปภาพมูลค่าล้านเหรียญ" ได้เขียนถึง high tight flag ว่าเป็น pattern ที่ทรงพลังที่สุด ทำกำไรให้มากที่สุด มีโมเมนตัมแรง ราคาขึ้นแรง

กราฟรูปแบบนี้มักส่งสัญญาณว่าบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตมากจนน่าตื่นเต้น ราคาวิ่งขึ้นรวดเร็วเพราะข่าวสำคัญ หรือไม่มีข่าวเลยก็ได้
คุณสมบัติของรูปแบบมีดังนี้
1) เริ่มต้นที่ราคาถูกจุดพลุขึ้นอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาไม่เกิน 8 weeks วิ่งโหดขึ้นไปได้ 100% เป็นอย่างน้อย ด้วยวอลุ่มมหาศาล โดยช่วงก่อนหน้านั้นราคามักจะอยู่นิ่งๆเป็นระยะเวลาหนึ่ง
2) จากนั้นราคาก็ sideway ในกรอบแคบๆ การปรับตัวลงจากยอดไม่เกิน 20-25% ในระยะเวลา 3-6 สัปดาห์ แต่ก็มีหุ้นบางตัววิ่งต่อหลังจากราคา sideway เพียง 12 วันเท่านั้น ช่วงนี้วอลุ่มจะลดลงอย่างมาก
3) ลักษณะ sideway จะเป็นแบบ VCP คือกรอบราคาขึ้นลงแบบฟันปลากรอบแคบลงเรื่อยๆ และยิ่งราคาแกว่งแคบวอลุ่มก็จะลดลงอย่างมาก
4) จุดเข้าซื้อคือวันที่มีการ breakout กรอบราคาที่ sideway ขึ้นไปพร้อมกับมีวอลุ่มสนับสนุนจำนวนมากกว่าค่าเฉลี่ยหลายเท่าตัว



จุดที่ควรระวัง
มันให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความน่ากลัวอยู่ วิลเลียม โอนีล บอกว่า แม้ pattern นี้จะแข็งแกร่ง แต่ก็มีความเสี่ยงมาก เพราะมันยากในการดู/ตีความกราฟที่เป๊ะได้จริงๆ และต่างคนก็ตีความจุดพักตัวที่เป็น flag ต่างกันไป

การป้องกันความเสี่ยงคือ ต้องหนีให้ทันเมื่อมันไม่ไปต่อ/เบรคหลอก ซึ่งการดูวอลุ่มตอนที่มัน breakout จะช่วยได้ ถ้าเบรคแล้ววอลุ่มไม่เยอะก็ให้ระวัง ต้องตั้ง stop loss รักษาเงินต้นไว้เสมอ
ถือเป็นการลงทุนอีกสไตล์หนึ่งของ Buy High Sell Higher ที่น่าสนใจ

มาดู XO อีกรอบ แบบไกล้ชิด

ส่วนประกอบสำคัญของ High tight flag คือ
(๑) Pole หรือด้ามธง หรือช่วงไล่ราคา คือเป็น big white หรือ กลุ่ม bullish engulfing
(๒) ผืนธง หรือช่วง sideway

สำหรับเคสของ XO
(1) ที่ผมชี้ Pole นั่นแหละคือด้ามธง เป็นการไล่ราคาทำแท่งเขียวยาว วอลุ่มสูงกระฉูด
(4) หลังจากนั้นก็จะเป็นผืนธง คือการวิ่งออกข้าง เพื่อซับแรงขาย + เขย่าคนใจฝ่อ ให้ออกจากหุ้น ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะแช่ไปนานเท่าไหร่
(2) แต่เมื่อเวลาพร้อม ก็จะมีการไล่ราคาขึ้นไป ทำกรอบใหม่ สังเกตง่ายๆคือ เกิดเขียวยาว วอลุ่มสูงโดด
(5) วิ่งออกข้าง เป็นผืนธง
(3) พอไม่มีคนขายหุ้นแล้ว ก็ดีดแรงอีก โดย XO เป็น earning gap เพราะคนตื่นเต้นกับงบมาก จึงต่อคิวซื้อที่ ATO กันมหาศาล

คือถ้าเราดูย้อนหลังนี่ อะไรก็ง่ายนะ เพราะมันจบแล้ว ผมชี้ยังไงก็ถูก
อย่างที่ปู่โอนีลบอก ว่าปัญหาของตัวนี้คือช่วง sideway เราไม่รู้ว่ามันจะไปจริงหรือเปล่า
และที่สำคัญนิสัยของทรงนี้ก็คือ มันจะมีการเขย่าแรงๆในช่วงนี้เสมอ

อย่างในเคส XO ที่ผมชีหมายเลข (6) ระบุว่า EMA20 support ตรงนี้แหละที่อาจจะเป็นเบาะแสน่าเอาไปเทสต์ต่อ เพราะหนังสือของพี่มาร์คก็บอกว่า ถ้าซื้อไม่ไปต่อ แกจะรอดูว่าเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันเอาอยู่มั้ย ถ้ารับไหว แกก็ยอมอึดอัด



แต่อย่างไรก็ตาม เราควรดู limit loss ของตัวเองด้วย ถ้าเกิน ก็แนะนำให้เลือก "วินัย" ก่อน "ความหวัง" เพราะเราก็ไม่รู้แน่ว่าเขาจะเล่นจริงหรือเปล่า ทางที่ดีก็รักษาเงินต้นไว้ก่อน

หรือบางท่านที่ไม่ทัน ก็อาจจะใช้เส้น EMA20 เป็นตัวช่วยในการเช็คทรงมันก็ได้ ถ้าเอาอยู่ ก็พอมีหวัง เดี๋ยวหาจุดซื้อกันใหม่

เท่าที่ผมสังเกตก็คือ ถ้ามันจะไปจริง ต้องเป็นเขียวยาว breakout แล้วไปต่อแรงเลย ถ้าเป็นแท่งสั้นเมื่อไหร่นะ มีโอกาสเป็น false breakout สูง ซึ่งถ้าหากท่านเผลอเข้า ก็ต้องยอมรับสภาพ ว่าตัวเองผิดจังหวะ ขายออกไปก่อน

แต่ถ้าใครทุนต่ำ ก็รอดูการทำหน้าที่ของ EMA20 ว่าจะเอาอยู่มั้ย ถ้ายังรับได้ ก็ลองรันเทรนด์ดู

อย่างไรก็ตาม ที่ราคานี้ผมไม่แนะนำให้เล่นแล้วนะครับ เสี่ยงมากไป เพราะมันวิ่งมาแล้ว 100% คนทุนต่ำพร้อมขายหุ้นออกตลอดเวลา

ตัวอย่างอื่นที่คล้ายๆกัน



ก็เป็นการวิเคราะห์ย้อนหลัง แบบรู้อะไรมาหมดแล้ว ยังไงก็ถูกนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการตีความ

ข้อมูลอ่านเพิ่มเติม
๑) เพจวิตามินหุ้น : หุ้นไม่ค่อยโต แต่ Bottom Out ก็เก็งกำไรได้
๒) tam-eig.com : สรุป Oppday XO
๓) labhoon : XO ช่วงนี้มาแรงจับมาวิเคราะห์ซะเลย

----------------------------------------------------------
-----------------------------------------------
-------------------------------

สนับสนุนโดย
หนังสือ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" และ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่"
ติดต่อสั่งซื้อหนังสือทั้งสองเล่ม
ได้ที่เพจ zyobooks : facebook.com/zyobooks ครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)