หลักการแบ่งขายกำไร Partial profit

Image
สนับสนุนโดย  คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา ติดต่อสมัครที่:   https://m.me/zyoit ทำไมการขายบางส่วนที่ 2R ถึงสำคัญ การขาย ⅓ ของพอร์ตเมื่อราคาไปถึง 2R จะได้กำไร +0.67R ถ้าภายหลังราคากลับลงมาโดนจุดตัดขาดทุนเดิม ส่วนที่เหลืออีก ⅔ จะขาดทุน –0.67R → สรุปแล้ว แทบจะไม่ขาดทุน (ใกล้เคียง breakeven) วิธีนี้ช่วย ลดความเสี่ยง, ลดความเครียด และทำให้สามารถถือข้ามแรงเหวี่ยงระยะสั้นได้ เพื่อไปลุ้นกำไรจากแนวโน้มใหญ่หลายเดือน --- วินัยและระบบอัตโนมัติ การตั้งเป้าหมายเป็น “R” ช่วยให้สามารถตั้ง คำสั่งล่วงหน้ากับโบรกเกอร์ (Limit Order/OCO) ได้ เช่น ขาย ⅓ ที่ 2R ขายอีก ⅓ ที่ 5R วิธีนี้ทำให้กระบวนการขายเป็นระบบที่ชัดเจนและ ไม่ต้องตัดสินใจซ้ำๆ เวลาตลาดเคลื่อนไหว --- หมายเหตุการเข้าออก (Execution Notes) ตัดสินใจเรื่อง Stop/โครงสร้างตลาด ตอนสิ้นวัน เว้นแต่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น Gap ใหญ่เกินเป้าหมาย หรือหลุดแนวโครงสร้างชัดเจน ถ้าราคาเปิดกระโดดผ่าน 2R หรือ 5R ก็ขายที่ราคาที่ทำได้ดีที่สุด และถือว่าการเทรดนั้น ลดความเสี่ยงแล้ว จากนั้นย้าย Stop ไปตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 สัปดาห์ (10-WMA) สรุป: ใช้ระบบขายบ...

ความได้เปรียบทางการเทรดไม่ได้อยู่ที่ Perfect Setup แต่อยู่ที่เทคนิค Exit


อีบุ๊ก เทคนิค Exit พิชิตผลการเทรด

มีจำหน่ายแล้วที่แอพ Meb https://t.co/6hfYXffLeK

โปรโมชั่น Early Bird : ลดราคา 20% จากปก 30 กย - 2 ตค 


ความได้เปรียบทางการเทรดไม่ได้อยู่ที่ Perfect Setup แต่อยู่ที่เทคนิค Exit

Peter Robbins – "ความได้เปรียบของนักเทรดมักไม่ได้อยู่ที่ ความสามารถในการหาจังหวะการเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ แต่ขึ้นอยู่กับทักษะในการจัดการการเทรดตั้งแต่การเข้าเทรดจนถึงการออกจากการเทรด"


คำพูดนี้เน้นว่าความสำเร็จของนักเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการหาจังหวะการเข้าเทรดที่ "สมบูรณ์แบบ" เพียงอย่างเดียว หลายคนอาจคิดว่าถ้าหากหาการตั้งค่าหรือสัญญาณที่ดีที่สุดได้ การเทรดก็จะประสบความสำเร็จ แต่นั่นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของกระบวนการทั้งหมด


1. การจัดการตั้งแต่การเข้าเทรดจนถึงการออกจากการเทรด (Trade Management):  

การบริหารการเทรด (Trade Management) คือทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเทรด มันรวมถึงการวางแผนและการจัดการทั้งในด้านการตั้งจุดเข้าตลาด การจัดการความเสี่ยง การติดตามความเคลื่อนไหวของตลาด และการตัดสินใจว่าจะออกจากตลาดเมื่อไหร่ ความสามารถในการจัดการนี้เป็นสิ่งที่ทำให้นักเทรดประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ได้เปิดสถานะแล้ว


2. ไม่จำเป็นต้องหาการเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ:  

การหาจุดเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะตลาดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การพยายามมุ่งหาจุดที่สมบูรณ์แบบอาจทำให้คุณเสียเวลาและพลาดโอกาสไป การเทรดที่ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องรอให้ทุกปัจจัยเหมาะสมที่สุด แต่คือการเข้าใจและปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพตลาดที่เป็นอยู่


3. การจัดการความเสี่ยง:  

หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการจัดการการเทรดคือการจัดการความเสี่ยง นักเทรดที่เก่งจะรู้ว่าควรเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนในการเทรดแต่ละครั้ง และจะใช้เครื่องมืออย่างเช่น "จุดตัดขาดทุน" (Stop Loss) เพื่อป้องกันการสูญเสียทุนเกินความจำเป็น การปกป้องทุนถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะหากคุณสามารถจำกัดการขาดทุนและปกป้องกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณก็มีโอกาสทำกำไรได้ในระยะยาว


4. การติดตามและปรับปรุงกลยุทธ์:  

การจัดการการเทรดที่ดีหมายถึงการติดตามสถานการณ์ตลาดหลังจากที่คุณเปิดสถานะแล้ว นักเทรดที่เก่งจะรู้ว่าควรจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อไหร่ อาจเป็นการเลื่อนจุดหยุดขาดทุนเพื่อปกป้องกำไร หรือการเพิ่มปริมาณการเทรดเมื่อสถานการณ์เป็นไปตามที่คาดไว้


5. การตัดสินใจออกจากตลาด: 

การตัดสินใจออกจากตลาดเป็นอีกส่วนที่สำคัญมาก การออกจากการเทรดไม่ว่าจะเป็นตอนทำกำไรหรือตัดขาดทุน จะส่งผลต่อผลลัพธ์โดยรวม หากออกช้าไป อาจทำให้สูญเสียกำไรที่สะสมไว้ หรือปล่อยให้การขาดทุนมากขึ้น นักเทรดที่เก่งจะรู้ว่าเมื่อไหร่ควรออกเพื่อรักษากำไรและลดการสูญเสีย


สรุป:  

ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการหาจุดเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ แต่มาจากการจัดการที่ชาญฉลาด ตั้งแต่การวางแผนการเทรด การจัดการความเสี่ยง การติดตามตลาด และการตัดสินใจในการออกจากตลาด การมีทักษะในด้านการจัดการทั้งหมดนี้คือสิ่งที่สร้างความได้เปรียบให้กับนักเทรดในระยะยาว


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ