การเทรดมี สองส่วนหลัก: ช่วงเวลานอกเวลาซื้อขาย (วางแผน/คิดกลยุทธ์) + ช่วงเวลาขณะเทรดจริง (ปฏิบัติตามแผน)

Image
สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9   สวัสดีนักเทรดทุกคน ผมคือ Cororey Mitch จากเว็บไซต์ tradethatswing.com แปลจาก  https://www.youtube.com/watch?v=TC-KYcTjXRc ในวิดีโอนี้ ผมอยากจะพูดถึงการ “แบ่งหน้าที่ในใจ” ของคุณเวลาเทรด ให้ออกเป็น 2 บทบาท หรือ 2 กรอบความคิดหลักๆ จะเรียกว่าวิธีคิดแบบสองโหมดก็ได้ เพราะผมเห็นคนจำนวนมากพยายาม “ทำทุกอย่างพร้อมกัน” ขณะเทรด และนั่นทำให้เกิดปัญหา เช่น คิดทบทวนกลยุทธ์กลางสนามรบ หรือปรับเปลี่ยนวิธีเล่นไปเรื่อยโดยไม่มีทิศทาง สิ่งที่ผมอยากให้คุณลองคิดก็คือ...การเทรดมี สองส่วนหลัก: 1) ช่วงเวลานอกเวลาซื้อขาย (วางแผน/คิดกลยุทธ์) 2) ช่วงเวลาขณะเทรดจริง (ปฏิบัติตามแผน) 1. ช่วง “นอกเวลาซื้อขาย” – คิดเหมือนผู้บริหาร ให้คุณคิดว่าตัวเองคือ “ผู้จัดการ” หรือ “ฝ่ายบริหารของบริษัทเทรด” ในช่วงนี้ หน้าที่ของคุณคือ วางระบบให้รัดกุม หาวิธีทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คุณจะต้อง: ตั้งกฎ ศึกษากลยุทธ์ ...

การเล่นหุ้นขาดทุนซ้ำซาก ไม่ใช่จุดจบ คุณแค่เทรดไม่ได้มาตรฐานเท่านั้นเอง


การเทรดหุ้น: ก้าวข้ามธรรมชาติของความกลัว สู่วิถี Zero to Hero  

"Zero to Hero ภารกิจเปลี่ยนนักเทรดขาดทุนซ้ำซากให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"

มีจำหน่ายที่ Mebmarket วันที่ 3 กันยายน 2567 ครับ 

https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=317619


การเล่นหุ้นหรือเทรดที่ทำให้ขาดทุนซ้ำซาก ไม่ได้หมายความว่าคุณล้มเหลวในการลงทุนหรือไม่มีความสามารถในตลาดหุ้น มันอาจเป็นเพียงแค่การที่คุณยังไม่ได้ตั้งมาตรฐานการเทรดที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากพอ


มาตรฐานการเทรดคืออะไร?

มาตรฐานการเทรดที่ถูกต้องไม่ใช่การหลีกเลี่ยงการขาดทุนทั้งหมด แต่คือการมีระบบที่มีความคาดหวังเชิงบวก (Positive Expectancy) นั่นหมายถึงการมีแผนการเทรดที่เมื่อทำตามแล้ว จะมีโอกาสสร้างกำไรได้ในระยะยาว

Positive Expectancy คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเทรด มันคือการที่คุณมีระบบหรือกลยุทธ์ที่มีความสามารถในการทำกำไรได้มากกว่าการขาดทุน โดยคำนวณจากสถิติในอดีตของการเทรดแต่ละครั้ง เมื่อคุณมีระบบที่มี Positive Expectancy นั่นหมายความว่าในระยะยาว คุณจะมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าการขาดทุน


แล้วทำอย่างไรถึงจะได้มาตรฐานการเทรด?

1. พัฒนากลยุทธ์การเทรด: เริ่มต้นด้วยการสร้างกลยุทธ์ที่ชัดเจน มีการทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้งานเครื่องมือที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ตลาด

2. การจัดการความเสี่ยง: การป้องกันการขาดทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ การกำหนดขอบเขตของการขาดทุนที่ยอมรับได้ในแต่ละการเทรด และการใช้ Stop-Loss อย่างมีประสิทธิภาพคือการเริ่มต้นที่ดี

3. ทบทวนและปรับปรุง: อย่าลืมทบทวนการเทรดที่ผ่านมาของคุณ เพื่อหาข้อผิดพลาดและปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

4. วินัยในการเทรด: การมีวินัยในการเทรดตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้คุณมีความเสถียรและมั่นคงในระยะยาว


สรุป

การขาดทุนในการเทรดไม่ใช่จุดจบ มันเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และพัฒนา การมีมาตรฐานการเทรดที่ดีด้วย Positive Expectancy จะทำให้คุณสอบผ่านและสามารถสร้างกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ อย่าหยุดพัฒนาตัวเองและมุ่งมั่นในการสร้างระบบที่ดี แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

ขอให้การเทรดของคุณเต็มไปด้วยความสำเร็จและกำไรที่ยั่งยืน!

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ