การเทรดคือเกมของฮีโร่ นี่คือตัวอย่างเส้นทางของคุณ

Image
  เส้นทางของ "The Hero's Journey" แบ่งออกเป็นสองโลกคือ Known (โลกที่รู้จัก) และ Unknown (โลกที่ไม่รู้จัก) ซึ่งวีรบุรุษจะต้องเดินทางไปในโลกที่ไม่รู้จัก (Unknown) เพื่อพัฒนาตนเอง ผ่านการผจญภัยและการทดสอบต่าง ๆ ก่อนที่จะกลับมายังโลกที่เขารู้จักพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงภายใน 1. Call to Adventure! (การเรียกสู่การผจญภัย)    - จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเมื่อ "Hero" ได้รับการกระตุ้นให้เข้าสู่การเดินทางใหม่หรือการผจญภัยที่ไม่คุ้นเคย 2. Supernatural Aid (ความช่วยเหลือเหนือธรรมชาติ)    - Hero ได้รับการช่วยเหลือหรือคำแนะนำจากสิ่งที่อยู่นอกเหนือธรรมชาติ เช่น กำลังภายใน ความสามารถพิเศษ หรือคำแนะนำจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3. Threshold Guardian (ผู้เฝ้าประตู)    - ตัวละครหรือสิ่งที่ยืนขวาง Hero ไม่ให้เข้าสู่โลกที่ไม่รู้จัก วีรบุรุษต้องเอาชนะหรือก้าวผ่านเพื่อเดินหน้าต่อ 4. Threshold (ประตูแห่งการเปลี่ยนแปลง)    - จุดที่ Hero ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความไม่แน่นอน จากสิ่งที่เขารู้ไปสู่สิ่งที่เขายังไม่รู้ 5. Challenges (ความท้าทาย)    - Hero เผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ ที่ทดสอบทั้งร่างกายแล

สโตอิก Vs 80/20 กฎพาเรโต


จำหน่ายแล้ว : สโตอิก สำหรับคนขี้เกียจ... ในรูปแบบ ebook 
ลดราคา 20% จากปก 25-29 กันยายน นี้เท่านั้น

"สโตอิก สำหรับคนขี้เกียจ"

: ขี้เกียจยังไง ให้ทำน้อยได้มาก มี Flow ได้ผลงานขั้นเทพ"

แนวคิดสโตอิก (Stoicism) และกฎ 80/20 (Pareto Principle) มีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน โดยเฉพาะในการมุ่งเน้นสิ่งที่มีผลลัพธ์มากที่สุดและการใช้พลังงานหรือทรัพยากรในสิ่งที่สำคัญที่สุด นี่คือบางประเด็นที่คล้ายคลึงกัน:


1. การมุ่งเน้นสิ่งที่ควบคุมได้

สโตอิกเชื่อว่ามนุษย์ควรให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ในความควบคุมของตนเองเท่านั้น เช่น ความคิดและการกระทำของเรา คล้ายกับแนวคิด 80/20 ที่มุ่งเน้นไปยังการลงแรงหรือทรัพยากรใน 20% ของสิ่งที่มีผลต่อผลลัพธ์ 80% การควบคุมสิ่งที่เราสามารถทำได้ในบริบทของสโตอิกคือการเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุดและมีผลลัพธ์สูง


2. การเลือกทิศทางชีวิตที่เหมาะสม 

สโตอิกแนะนำให้ใช้ชีวิตด้วยปัญญา (wisdom) และมุ่งไปที่การมีคุณธรรม (virtue) ซึ่งหมายถึงการทำสิ่งที่มีคุณค่าและมีผลลัพธ์ที่ดี การทำในสิ่งที่สำคัญและสร้างผลลัพธ์มากที่สุดตามหลัก 80/20 ก็สอดคล้องกับการเลือกกิจกรรมหรือเส้นทางที่สร้างความหมายและความสำเร็จในชีวิต


3. การตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก 

สโตอิกเชื่อในความเรียบง่ายและการกำจัดสิ่งที่เป็นภาระหรือสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบและมั่นคง คล้ายกับกฎ 80/20 ที่แนะนำให้ตัด 80% ของกิจกรรมที่ไม่ได้สร้างผลลัพธ์มากนักออกไป เพื่อให้มีพื้นที่และพลังงานไปมุ่งกับสิ่งที่สำคัญกว่า


4. การจัดการอารมณ์และปัญหาชีวิต  

ในหลักสโตอิก การจัดการกับอารมณ์เชิงลบหรือปัญหาต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การควบคุมความกลัว ความโกรธ และความโลภ กฎ 80/20 สามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการอารมณ์เหล่านี้ได้ โดยมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหามากที่สุด (20%) และหาวิธีแก้ไขเพื่อลดผลกระทบ 80% ของอารมณ์ที่ทำให้ชีวิตไม่สงบ


5. การใช้เวลาและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ  

ทั้งสโตอิกและกฎ 80/20 ต่างเน้นการใช้เวลาหรือทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสโตอิกจะเน้นการใช้ชีวิตที่มีคุณค่า ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ความหมาย ในขณะที่กฎ 80/20 ช่วยให้เราจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ควรทำก่อนและหลัง


การผสมผสานแนวคิดเหล่านี้จะช่วยให้เรามีชีวิตที่เป็นระเบียบมากขึ้น รู้จักเลือกทำสิ่งที่มีผลลัพธ์สูงสุดในชีวิตและการทำงาน


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

5 Holy Grail ที่ใช้ได้ผลจริง ในการเทรด

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo