การเทรดมี สองส่วนหลัก: ช่วงเวลานอกเวลาซื้อขาย (วางแผน/คิดกลยุทธ์) + ช่วงเวลาขณะเทรดจริง (ปฏิบัติตามแผน)

Image
สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9   สวัสดีนักเทรดทุกคน ผมคือ Cororey Mitch จากเว็บไซต์ tradethatswing.com แปลจาก  https://www.youtube.com/watch?v=TC-KYcTjXRc ในวิดีโอนี้ ผมอยากจะพูดถึงการ “แบ่งหน้าที่ในใจ” ของคุณเวลาเทรด ให้ออกเป็น 2 บทบาท หรือ 2 กรอบความคิดหลักๆ จะเรียกว่าวิธีคิดแบบสองโหมดก็ได้ เพราะผมเห็นคนจำนวนมากพยายาม “ทำทุกอย่างพร้อมกัน” ขณะเทรด และนั่นทำให้เกิดปัญหา เช่น คิดทบทวนกลยุทธ์กลางสนามรบ หรือปรับเปลี่ยนวิธีเล่นไปเรื่อยโดยไม่มีทิศทาง สิ่งที่ผมอยากให้คุณลองคิดก็คือ...การเทรดมี สองส่วนหลัก: 1) ช่วงเวลานอกเวลาซื้อขาย (วางแผน/คิดกลยุทธ์) 2) ช่วงเวลาขณะเทรดจริง (ปฏิบัติตามแผน) 1. ช่วง “นอกเวลาซื้อขาย” – คิดเหมือนผู้บริหาร ให้คุณคิดว่าตัวเองคือ “ผู้จัดการ” หรือ “ฝ่ายบริหารของบริษัทเทรด” ในช่วงนี้ หน้าที่ของคุณคือ วางระบบให้รัดกุม หาวิธีทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คุณจะต้อง: ตั้งกฎ ศึกษากลยุทธ์ ...

การเทรดที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นที่เทคนิค Exit


อีบุ๊ก เทคนิค Exit พิชิตผลการเทรด

มีจำหน่ายแล้วที่แอพ Meb https://t.co/6hfYXffLeK

โปรโมชั่น Early Bird : ลดราคา 20% จากปก 30 กย - 2 ตค 


Henrique M. Simões – "การเทรดที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์การออกจากตลาด ไม่ใช่การเข้าสู่ตลาด"


คำกล่าวนี้ของ Henrique M. Simões เน้นย้ำว่าความสำเร็จในการเทรดไม่ได้เริ่มต้นจากการหาจุดเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ แต่คือการวางแผนการออกจากตลาดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น กลยุทธ์การออกจากตลาด หรือ exit strategy มีบทบาทสำคัญในการกำหนดผลลัพธ์ของการเทรดในระยะยาว เพราะมันเป็นตัวช่วยในการจัดการความเสี่ยงและปกป้องกำไร


1. ความสำคัญของกลยุทธ์การออกตลาด (Exit Strategy):  

การออกจากตลาดเป็นจุดที่มีผลต่อการเทรดอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะทำกำไรหรือขาดทุนก็ตาม การวางแผนล่วงหน้าว่าคุณจะออกจากการเทรดเมื่อไหร่ จะช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ไม่ตกอยู่ในกับดักของความโลภ (greed) หรือตื่นตระหนก (fear) การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และจุดทำกำไร (Take Profit) ตั้งแต่แรกช่วยให้คุณไม่ต้องตัดสินใจท่ามกลางอารมณ์ขณะตลาดมีความผันผวน


2. การวางแผนล่วงหน้าช่วยลดความเสี่ยง:  

นักเทรดที่ดีจะต้องวางแผนล่วงหน้าว่าจะออกจากตลาดเมื่อใดไม่ว่าจะเกิดการขาดทุนหรือกำไร การตั้งเป้าหมายกำไรและการจำกัดการขาดทุนอย่างชัดเจนจะช่วยปกป้องเงินทุนของคุณ การรู้ว่าจะออกจากตลาดเมื่อไหร่ช่วยลดความกดดันและความเสี่ยงในการขาดทุนมากเกินไป


3. จุดเข้าไม่สำคัญเท่ากับการจัดการการออกจากตลาด:  

แม้ว่าการหาจุดเข้าเทรดที่ดีจะมีความสำคัญ แต่หากไม่มีการจัดการการออกจากตลาดอย่างถูกต้อง คุณอาจเสียโอกาสในการทำกำไรหรือเสียเงินทุนไปโดยไม่จำเป็น การเข้าตลาดในจุดที่ไม่สมบูรณ์แบบยังสามารถทำกำไรได้หากมีกลยุทธ์การออกที่ดี ในทางตรงกันข้าม ต่อให้เข้าจุดดีแค่ไหน แต่หากขาดกลยุทธ์การออกที่ชัดเจน ก็อาจนำไปสู่การขาดทุนได้


4. การจัดการอารมณ์ผ่านการวางแผนการออกตลาด:  

การวางแผนการออกตลาดล่วงหน้าช่วยให้นักเทรดไม่ต้องตัดสินใจท่ามกลางอารมณ์ที่แปรปรวน การตั้งเป้าหมายการออกจากตลาดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นจะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล และไม่ถูกครอบงำด้วยความโลภหรือความกลัวระหว่างการเทรด


5. การปรับตัวและยืดหยุ่นในกลยุทธ์การออก:  

แม้ว่าคุณจะมีแผนการออกตลาดตั้งแต่ต้น แต่ก็ต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนตามสภาพตลาด หากตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน คุณอาจต้องปรับกลยุทธ์การออกเพื่อรักษากำไรหรือลดการขาดทุน


สรุป:  

ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเข้าตลาดอย่างเดียว แต่คือการวางแผนการออกจากตลาดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น กลยุทธ์การออกเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการความเสี่ยง ปกป้องทุน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ความสามารถในการวางแผนและจัดการการออกจากตลาดอย่างชาญฉลาดคือตัวแปรหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ