ทำไมเทรดเดอร์มืออาชีพ หลายคน เทรดหุ้นแค่ไม่กี่ตัว — บางคนโฟกัส แค่หุ้นเดียวด้วยซ้ำ?

Image
"Oliver ทำไมคุณถึงเทรดหุ้น Apple เกือบตลอดเวลา?" Oliver ผมสังเกตมาสักพักแล้วว่าคุณเทรดหุ้น Apple บ่อยมาก เรียกได้ว่า 85-90% ของเวลาทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ผมเลยสงสัยว่า ทำไมคุณถึงเลือกเทรดแค่หุ้น Apple ทั้งที่ในแต่ละวันก็มีหุ้นดีๆ อีกมากมายที่น่าจะทำกำไรได้ไม่แพ้กัน? คำถามนี้ถือเป็นคำถามที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะมันเปิดโอกาสให้ผมได้อธิบายสิ่งที่ผมมักพูดคุยกับเทรดเดอร์ของผมบ่อยๆ ก่อนอื่นเลย ผมเชื่ออย่างแรงกล้าว่า “เทรดเดอร์มืออาชีพ” ที่ประสบความสำเร็จจริงๆ มักจะเป็น “ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน” มากกว่า “นักลองของทั่วไป” ซึ่งความสำเร็จของพวกเขาส่วนใหญ่มาจากการ โฟกัส และ เชี่ยวชาญในสิ่งที่ตัวเองรู้ลึกจริงๆ แล้วการเป็นผู้เชี่ยวชาญมันหมายความว่าอะไร? มันหมายความว่า “โลกการเทรดของเขาเล็กมาก” เล็กจนถึงขนาดที่เทรดเดอร์มืออาชีพหลายคน เทรดหุ้นแค่ไม่กี่ตัว — บางคนโฟกัสแค่หุ้นเดียวด้วยซ้ำ ลองคิดดูสิครับ “Specialist” ในตลาด NYSE (ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก) ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่ในโลกการเทรด พวกเขาแทบไม่เคยขาดทุนเลย และมีความสม่ำเสมอสูงมาก พวกเขามีความได้เปรียบที่เหนือกว่าเทรดเดอร์ทั่วไปแบบแทบจะไม่ยุติธรรมด...

การเทรดที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นที่เทคนิค Exit


อีบุ๊ก เทคนิค Exit พิชิตผลการเทรด

มีจำหน่ายแล้วที่แอพ Meb https://t.co/6hfYXffLeK

โปรโมชั่น Early Bird : ลดราคา 20% จากปก 30 กย - 2 ตค 


Henrique M. Simões – "การเทรดที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์การออกจากตลาด ไม่ใช่การเข้าสู่ตลาด"


คำกล่าวนี้ของ Henrique M. Simões เน้นย้ำว่าความสำเร็จในการเทรดไม่ได้เริ่มต้นจากการหาจุดเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ แต่คือการวางแผนการออกจากตลาดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น กลยุทธ์การออกจากตลาด หรือ exit strategy มีบทบาทสำคัญในการกำหนดผลลัพธ์ของการเทรดในระยะยาว เพราะมันเป็นตัวช่วยในการจัดการความเสี่ยงและปกป้องกำไร


1. ความสำคัญของกลยุทธ์การออกตลาด (Exit Strategy):  

การออกจากตลาดเป็นจุดที่มีผลต่อการเทรดอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะทำกำไรหรือขาดทุนก็ตาม การวางแผนล่วงหน้าว่าคุณจะออกจากการเทรดเมื่อไหร่ จะช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ไม่ตกอยู่ในกับดักของความโลภ (greed) หรือตื่นตระหนก (fear) การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และจุดทำกำไร (Take Profit) ตั้งแต่แรกช่วยให้คุณไม่ต้องตัดสินใจท่ามกลางอารมณ์ขณะตลาดมีความผันผวน


2. การวางแผนล่วงหน้าช่วยลดความเสี่ยง:  

นักเทรดที่ดีจะต้องวางแผนล่วงหน้าว่าจะออกจากตลาดเมื่อใดไม่ว่าจะเกิดการขาดทุนหรือกำไร การตั้งเป้าหมายกำไรและการจำกัดการขาดทุนอย่างชัดเจนจะช่วยปกป้องเงินทุนของคุณ การรู้ว่าจะออกจากตลาดเมื่อไหร่ช่วยลดความกดดันและความเสี่ยงในการขาดทุนมากเกินไป


3. จุดเข้าไม่สำคัญเท่ากับการจัดการการออกจากตลาด:  

แม้ว่าการหาจุดเข้าเทรดที่ดีจะมีความสำคัญ แต่หากไม่มีการจัดการการออกจากตลาดอย่างถูกต้อง คุณอาจเสียโอกาสในการทำกำไรหรือเสียเงินทุนไปโดยไม่จำเป็น การเข้าตลาดในจุดที่ไม่สมบูรณ์แบบยังสามารถทำกำไรได้หากมีกลยุทธ์การออกที่ดี ในทางตรงกันข้าม ต่อให้เข้าจุดดีแค่ไหน แต่หากขาดกลยุทธ์การออกที่ชัดเจน ก็อาจนำไปสู่การขาดทุนได้


4. การจัดการอารมณ์ผ่านการวางแผนการออกตลาด:  

การวางแผนการออกตลาดล่วงหน้าช่วยให้นักเทรดไม่ต้องตัดสินใจท่ามกลางอารมณ์ที่แปรปรวน การตั้งเป้าหมายการออกจากตลาดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นจะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล และไม่ถูกครอบงำด้วยความโลภหรือความกลัวระหว่างการเทรด


5. การปรับตัวและยืดหยุ่นในกลยุทธ์การออก:  

แม้ว่าคุณจะมีแผนการออกตลาดตั้งแต่ต้น แต่ก็ต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนตามสภาพตลาด หากตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน คุณอาจต้องปรับกลยุทธ์การออกเพื่อรักษากำไรหรือลดการขาดทุน


สรุป:  

ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเข้าตลาดอย่างเดียว แต่คือการวางแผนการออกจากตลาดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น กลยุทธ์การออกเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการความเสี่ยง ปกป้องทุน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ความสามารถในการวางแผนและจัดการการออกจากตลาดอย่างชาญฉลาดคือตัวแปรหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap หุ้น & ทฤษฎี Gap หุ้น

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่