$WLTH หุ้นอเมริกาตัวนี้มีอะไรน่าสนใจ

Image
  $WLTH คือ ticker ของ Wealthfront Corporation ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน (fintech) ที่ให้บริการ robo-advisor หรือการจัดการการลงทุนแบบอัตโนมัติ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าดิจิทัลเนทีฟ เช่น เจนมิลเลนเนียลและเจน Z บริษัทก่อตั้งในปี 2011 และมีสำนักงานใหญ่ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา พวกเขามีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) มากกว่า 90 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และลูกค้ากว่า 1.3 ล้านราย ธุรกิจและผลิตภัณฑ์หลักที่น่าสนใจ Wealthfront เชี่ยวชาญในการลงทุนแบบ passive ผ่านกองทุนดัชนี (index funds) ที่มีต้นทุนต่ำ โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การเก็บเกี่ยวภาษีขาดทุน (tax-loss harvesting) และการปรับสมดุลพอร์ตอัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่: - Automated Investing Account: พอร์ตลงทุนกระจายความเสี่ยงทั่วโลกแบบอัตโนมัติ - Retirement Accounts: บัญชีเกษียณอายุที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี - 529 Education Savings Plan: แผนออมเงินเพื่อการศึกษาที่ปลอดภาษี - Stock Investing Account: สร้างพอร์ตหุ้นและ ETF เอง เริ่มต้นเพียง 1 ดอลลาร์ - S&P 500 และ Nasdaq-100 Direct: ลงทุนหุ้นเดี่ยวในดัชนีเหล่านี้พร...

การเทรดที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นที่เทคนิค Exit


อีบุ๊ก เทคนิค Exit พิชิตผลการเทรด

มีจำหน่ายแล้วที่แอพ Meb https://t.co/6hfYXffLeK

โปรโมชั่น Early Bird : ลดราคา 20% จากปก 30 กย - 2 ตค 


Henrique M. Simões – "การเทรดที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์การออกจากตลาด ไม่ใช่การเข้าสู่ตลาด"


คำกล่าวนี้ของ Henrique M. Simões เน้นย้ำว่าความสำเร็จในการเทรดไม่ได้เริ่มต้นจากการหาจุดเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ แต่คือการวางแผนการออกจากตลาดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น กลยุทธ์การออกจากตลาด หรือ exit strategy มีบทบาทสำคัญในการกำหนดผลลัพธ์ของการเทรดในระยะยาว เพราะมันเป็นตัวช่วยในการจัดการความเสี่ยงและปกป้องกำไร


1. ความสำคัญของกลยุทธ์การออกตลาด (Exit Strategy):  

การออกจากตลาดเป็นจุดที่มีผลต่อการเทรดอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะทำกำไรหรือขาดทุนก็ตาม การวางแผนล่วงหน้าว่าคุณจะออกจากการเทรดเมื่อไหร่ จะช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ไม่ตกอยู่ในกับดักของความโลภ (greed) หรือตื่นตระหนก (fear) การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และจุดทำกำไร (Take Profit) ตั้งแต่แรกช่วยให้คุณไม่ต้องตัดสินใจท่ามกลางอารมณ์ขณะตลาดมีความผันผวน


2. การวางแผนล่วงหน้าช่วยลดความเสี่ยง:  

นักเทรดที่ดีจะต้องวางแผนล่วงหน้าว่าจะออกจากตลาดเมื่อใดไม่ว่าจะเกิดการขาดทุนหรือกำไร การตั้งเป้าหมายกำไรและการจำกัดการขาดทุนอย่างชัดเจนจะช่วยปกป้องเงินทุนของคุณ การรู้ว่าจะออกจากตลาดเมื่อไหร่ช่วยลดความกดดันและความเสี่ยงในการขาดทุนมากเกินไป


3. จุดเข้าไม่สำคัญเท่ากับการจัดการการออกจากตลาด:  

แม้ว่าการหาจุดเข้าเทรดที่ดีจะมีความสำคัญ แต่หากไม่มีการจัดการการออกจากตลาดอย่างถูกต้อง คุณอาจเสียโอกาสในการทำกำไรหรือเสียเงินทุนไปโดยไม่จำเป็น การเข้าตลาดในจุดที่ไม่สมบูรณ์แบบยังสามารถทำกำไรได้หากมีกลยุทธ์การออกที่ดี ในทางตรงกันข้าม ต่อให้เข้าจุดดีแค่ไหน แต่หากขาดกลยุทธ์การออกที่ชัดเจน ก็อาจนำไปสู่การขาดทุนได้


4. การจัดการอารมณ์ผ่านการวางแผนการออกตลาด:  

การวางแผนการออกตลาดล่วงหน้าช่วยให้นักเทรดไม่ต้องตัดสินใจท่ามกลางอารมณ์ที่แปรปรวน การตั้งเป้าหมายการออกจากตลาดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นจะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล และไม่ถูกครอบงำด้วยความโลภหรือความกลัวระหว่างการเทรด


5. การปรับตัวและยืดหยุ่นในกลยุทธ์การออก:  

แม้ว่าคุณจะมีแผนการออกตลาดตั้งแต่ต้น แต่ก็ต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนตามสภาพตลาด หากตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน คุณอาจต้องปรับกลยุทธ์การออกเพื่อรักษากำไรหรือลดการขาดทุน


สรุป:  

ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเข้าตลาดอย่างเดียว แต่คือการวางแผนการออกจากตลาดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น กลยุทธ์การออกเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการความเสี่ยง ปกป้องทุน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ความสามารถในการวางแผนและจัดการการออกจากตลาดอย่างชาญฉลาดคือตัวแปรหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ