สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

ชนะเกมการเทรดด้วย Risk Reward ที่เหมาะกับสไตล์ของคุณ



There are multiple paths to positive expectancy.

Avg gain * win % - avg loss * loss %

Large profit factor, low accuracy:

($5 * .3) - ($1 * .7) = $.80

High accuracy, low profit factor:

($1.5 *. 7) - ($1 * .3) = $.75

Mid accuracy, mid profit factor:

($2.5 * .5) - ($1 * .5) = $.75

๑) แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นเพียงตัวอย่างสมมุติฐาน แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความจริงของการเทรด ระบบความแม่นยำต่ำคือระบบที่ถูกตัดขาดทุนออกไปเป็นจำนวนมาก 


๒) ในหลายกรณี ปัจจัยกำไรไม่เคยอยู่ที่ค่ากลาง มันเบ้ไปจากกึ่งกลางเสมอ เนื่องจากระบบเหล่านี้มักจะใช้การหยุดที่เข้มงวดมาก ดังนั้นการสูญเสียโดยเฉลี่ยจึงน้อยมาก แต่ 10-20% ของหุ้นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่จะให้กำไรช่วยให้พอร์ตโตได้ 


๓) ลองนึกถึง Qullamaggie หรือ Zanger (นักเทรดที่ร่ำรวย) ที่โดนตัดขาดทุนบ่อยมาก เขาจะมองหาการเทรด Reward : Risk ระดับ 5, 10 และ 20:1 หรือนักเทรดตามเทรนด์ระยะยาวที่พยายามขี่เทรนด์ใหญ่ๆ หลายเดือน/ปี


๔) Low profit factor systems (Reward : Risk ต่ำ) โดยที่กำไรเฉลี่ยเทียบกับการขาดทุนเฉลี่ยไม่แตกต่างกันมาก ทำเงินผ่าน Position Sizing สูงและล็อกกำไรได้ค่อนข้างเร็ว ฉันเคยเห็นระบบที่การสูญเสียเฉลี่ยมากกว่ากำไรเฉลี่ย แต่ความแม่นยำนั้นสูงมาก โดยรวมแล้วถือว่ามีกำไร นักเก็งกำไรและนักเทรดรายวันระยะสั้นมักจะจัดอยู่ในประเภทนี้


๕) Mid-profit factor systems มีแนวโน้มที่จะมีความสมดุลของทั้งสองอย่าง ลองนึกถึงลักษณะของนักเทรด Win rate 50% ที่ใช้ Reward : Risk 2:1 ของ Minervini ระบบเหล่านี้โฟกัสไปที่การจับจังหวะมากขึ้นเล็กน้อย และมีการแบ่งขายเก็บกำไรบางส่วน และมีแนวโน้มที่จะใช้การตัดขาดทุนแบบกว้างกว่าเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้ความแม่นยำสูงขึ้น นักสวิงเทรดมักจะอยู่ในข้อนี้

๖) โดยส่วนตัวแล้วฉันไม่สามารถทนต่อระบบที่ความแม่นยำได้ มันยุ่งเหยิงกับหัวของฉันและฉันเริ่มก่อวินาศกรรมการซื้อขายของฉัน 
๗) ฉันพยายามบังคับตัวเองให้ทำมาหลายครั้งแล้ว และฉันก็ทำใจไม่ได้ 

๘) ดังนั้นฉันจึงขยายแก็บตัดขาดทุนของฉันให้กว้างขึ้น ซึ่งจะช่วยลดจุดตัดขาดทุนของฉันและเพิ่มค่าเฉลี่ยความแม่นยำของฉันเพื่อให้อยู่ในการเทรดมากขึ้น 

๙) สิ่งนี้เหมาะสมที่สุดหรือไม่? ฉันไม่สนใจจริงๆพูดตามตรง จะมีประโยชน์อะไรถ้าฉันไม่สามารถทำตามมันได้? ฉันอยากจะก้าวหน้าโดยทำน้อยให้ได้มาก แทนที่ที่จะบังคับสิ่งที่ฉันทำอย่างไม่สอดคล้องกันเพียงเพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุด 

๑๐) บางทีสักวันหนึ่งฉันจะทำงานเพื่อจัดการกับการตัดขาดทุนที่เข้มงวดขึ้นและลดความแม่นยำลง แต่ฉันอยู่ในพื้นที่ที่สะดวกสบายที่ฉันอยู่ตอนนี้และคณิตศาสตร์ของฉันก็ใช้ได้ มีหลายวิธีในการทำเงินจากตลาดหุ้น


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks