ระบบนิเวศของ HBM (High Bandwidth Memory) กลุ่มหุ้น True Market Leader

Image
โพสต์นี้อธิบาย "ระบบนิเวศของ HBM (High Bandwidth Memory)" ว่ามีใครบ้างที่เป็น ซัพพลายเออร์, ผู้ออกแบบชิป (ASIC), และลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่การผลิตเทคโนโลยี AI / Cloud / GPU ในยุคปัจจุบัน --- สรุปความหมายแบบง่าย ๆ: 1. HBM Suppliers (ผู้ผลิตหน่วยความจำ HBM) คือบริษัทที่ผลิต หน่วยความจำความเร็วสูง สำหรับการ์ดจอและ AI chips เช่น H100, MI300X ฯลฯ Micron ($MU) SK Hynix ($HXSCL) Samsung ($SSNLF) > ทั้ง 3 รายนี้คือผู้ผลิต HBM ที่ครองตลาดโลก และจำเป็นต่อ AI ทุกแพลตฟอร์ม --- 2. ASIC Designers (ผู้ออกแบบชิปเฉพาะงาน เช่น AI/TPU) ออกแบบชิปที่ใช้ HBM เช่นชิปของ Google, AWS, Microsoft Broadcom ($AVGO) Marvell ($MRVL) Alchip, GUC (บริษัทออกแบบชิปในเอเชีย) > ชิปพวกนี้ไม่ใช่ GPU แต่เป็นชิปเฉพาะทาง (ASIC) ที่ใช้ใน Cloud Data Center --- 3. HBM Customers (ลูกค้าที่ใช้ HBM) • กลุ่ม GPU NVIDIA ($NVDA) AMD ($AMD) Intel ($INTC) • กลุ่ม Cloud / Big Tech Google ($GOOGL) – ใช้ใน Google TPU Amazon ($AMZN) – ใช้ใน AWS Trainium / Inferentia Microsoft ($MSFT) – ใช้ใน MSFT MAIA Meta ($META) –...

8 วิธีพัฒนาจิตวิทยาการเทรด trading psychology ให้ยอดเยี่ยม

8 วิธีพัฒนาจิตวิทยาการเทรดให้ยอดเยี่ยม

1. สร้าง mindset การเทรดที่ถูกต้อง

Mindset ที่ถูกต้อง คืออะไร?

มี 2 เรื่อง คือ ตลาด กับ ตัวคุณเอง

- ตลาด มันไม่ใช่ลูกไล่ของคุณ ตลาดใหญ่กว่าคุณ

คุณไม่สามารถควบคุมตลาดได้ มันมีอิสระของมัน 

ตลาดเคลื่อนไหวแบบสุ่ม (random) คาดเดาให้แม่น 100% ได้ยาก

- คุณ ตัวนักเทรดเอง

คุณคือศัตรูตัวร้ายที่สุด ในการเทรด

คุณคือจุดอ่อนของกระบวนการเทรด

ความผิดพลาดส่วนใหญ่ในการเทรด ล้วนเกิดจากตัวนักเทรดเอง

2. วางแผนเพื่อความสำเร็จ

คุณต้องมีเป้าหมายในการเเทรด ว่าต้องการกำไรขั้นต่ำเท่าไหร่

แล้วจะหาหุ้นที่เป็นผู้ชนะได้อย่างไร ทำไมมันถึงมีศักยภาพที่จะชนะได้

ซื้อตรงไหนที่ได้เปรียบ เสี่ยงต่ำ

จะ take profit ตรงไหน

3. วางแผนรับมือกับความล้มเหลว

เพราะว่าตลาดหุ้นนั้น มันเคลื่อนไหวแบบสุ่ม random คุณควบคุมไม่ได้

อะไรจึงเกิดขึ้นได้ แม้คุณจะทำการบ้านมาดีแค่ไหนก็ตาม

หุ้นตัวที่คุณเชื่อมั่นอาจหักหลังคุณได้

สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ "เตรียมตัวรับมือกับการหักหลัง" 

ด้วยการ ตั้งระดับตัดขาดทึน ที่พิสูจน์ว่าคุณคิดผิด

ควรอยู่ในลิมิตของความสูญเสียที่คุณยอมรับได้ และตัดขาดยได้โดยไม่มีอารมณ์

4. เป้าหมายแรก คือเอาตัวรอดให้ได้ก่อน Cash is King

ในเมื่อตลาดเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้ มันสามารถหักหลังคุณได้ตลอด

สิ่งแรกที่คุณต้องยึดไว้เสมอก็คือ "เอาตัวรอดไว้ก่อน" โดยเฉพาะ ในยามที่ตลาดหุ้น ผันผวน การเทรดของคุณขาดทุนติดต่อกัน ต้องเน้นถือเงินสด Cash is king จำไว้ให้มั่น

เงินสดก็คือการลงทุนที่ดีไม่แพ้การถือหุ้น

เมื่อคุณมีเงินสด จิตใจของคุณจะเป็นกลาง ไม่กดดันเท่าติดหุ้น


5. สังเกตนิสัยเสียของตนเอง

นักเทรดคือจุดอ่อนของกระบวนการ คุณคือศัตรูตัวร้ายของความก้าวหน้า

การเทรดไม่ได้ออกแบบมาให้นักเทรดส่วนใหญ่กำไร แต่ทำให้ขาดทุน

ที่ขาดทุนเพราะว่าพวกเขาทำตามอารมณ์ความรู้สึก ที่เรียกว่าจิตวิทยารวมหมู่

นี่แหละคือหัวใจของจิตวิทยาการเทรด คุณต้องยอมรับให้ได้

เมื่อยอมรับได้แล้ว ให้เริ่มต้นติดตามหาจุดบอกพร่องของตนเองให้เจอที่ละเรื่อง แล้วค่อย ๆ แก้

จุดอ่อน เห็นได้ง่ายจากการขาดทุน 

เมื่อคุณขาดทุนให้ลงรายละเอียดที่มา สาเหตุ ว่าคุณซื้อหุ้นตัวนั้นเพราะอะไร

ส่วนใหญ่ 80% มาจากตัวคุณเอง

อย่ามัวเสียเวลาโทษตลาด แต่จงถามว่า เราทำอะไรผิดไป

หาให้เจอ แล้วแก้ คนที่ลดจุดอ่อนได้มากกว่า คนนั้นจะรวยจากการเทรด


6. ฝึกฝนให้ร่างกายจำ เพื่อสร้างความเชื่อ และลดนิสัยเสีย

การเทรดที่แม่นยำ จะเกิดจากการตัดสินใจที่ถูก

การตัดสินใจที่ถูกต้อง เกิดจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด

คุณขะเก่ง จะเชี่ยวชาญ ทักษะจะเกิด ก็ต่อเมื่อคุณมีการฝึกฝนที่มากพอ

ฝึกให้สายตา มีจุดโฟกัสในเบาะแสของหุ้นดาวรุ่ง ดูกราฟก็เห็น price pattern / price action ทำเงิน อ่านข่าวก็เห็นโอกาส เห็นหุ้นดาวรุ่งตัวใหม่ ทักษะทองคำเหล่านี้ไม่ได้สร้างมาได้ง่าย ต้องใช้เวลาฝึกฝน

นอกจากนั้น การฝึผฝนทำให้คุณ "ใจนิ่ง" เข้าใจธรรมชาติของตลาด และตัวเอง

ประสบการณ์จะทำให้คุณไม่ร้อนรน ไม่ถูกกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม หรือ สิ่งรบกวน

เมื่อใจนิ่ง จิตวิทยาการเทรด ก็เข้มแข็งไปด้วย


7. ติดตามพัฒนาการที่ดีของตนเอง

พัฒนาการนักเทรด มีหลายขั้น เหมือนทหาร

ทหารฝึกใหม่ ที่ไร้เดียงสา ไม่เข้าใจโลก มีแต่ความหวัง

ทหารเพิ่งผ่านการฝึก มีความรู้แต่ยังขาดประสบการณ์

ทหารผ่านศึก มีทั้งความรู้และประสบการณ์

กว่าจะบรรลุผ่าน 3 ขั้น ต้องใช้เวลาหลายปี อย่าได้รีบร้อนกดดันตนเองมากไป

แต่จงค่อย ๆ เรียนรู้ ค่อย ๆ พัฒนา ค่อย ๆ เติบโต

มองว่าในช่วงแรกเป็นการลงทุนเพื่อสร้างทักษะให้ดีพอ ให้มีอาวุธทำเงินให้ได้ก่อน

ถ้าคุณมองการเทรดเป็นการเรียนรู้ คุณจะไม่เครียดไม่กดดันมาก


8. มองเกมการเทรดในระยะยาว

นักเทรดส่วนใหญ่ที่พัง และเจ๊งตั้งแต่ปีแรก ๆ มาจากความต้องการรวยด่วนรวยไว

จึงกดดันตนเอง ให้เสี่ยงเกินความเหมาะสม และคาดหวังเกนความสามารถของตนเอง

เมื่อคาดหวังสูง ก็กดดันตนเอง ใจก็ร้นรน ทำอะไรก็ขาด ๆ เกิน ๆ เพราะหวั่นไหว

ถ้าอยากมีจิตใจที่นิ่งและเย็น ต้องมองเกมยาวไว้ 10 ปี ค่อย ๆ เรียนรู้

เมื่อคุณไม่ร้อนรน ใจก็จะนิ่ง จะเย็นขึ้นเอง

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน