คิดและเทรด ให้รอดและรวย ด้วยแนวคิด โทกุงาวะ อิเอยาสึ "ยอมแพ้แต่ไม่ศิโรราบ"

Image
คำกล่าวที่ว่า โทกุงาวะ อิเอยาสึ "ยอมแพ้แต่ไม่ศิโรราบ" สะท้อนถึงกลยุทธ์หัวใจสำคัญที่ทำให้เขาเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายในยุคเซ็นโกกุ นั่นคือ "การอดทนรอคอยและการยอมก้มหัวเพื่อรักษาตัวรอด"  ดังตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญต่อไปนี้: ยอมเป็นตัวประกันแต่เด็ก: เขาต้องไปเป็นตัวประกันของตระกูลอิมะงาวะนานหลายปี แทนที่จะขัดขืนจนถูกฆ่า เขาเลือกเรียนรู้ศิลปวิทยาการและสร้างเครือข่ายรอเวลาที่ตระกูลเดิมจะล่มสลาย  ยอมทำตามคำสั่งที่โหดร้ายของโนบุนางะ: เมื่อครั้งเป็นพันธมิตรกับ โอดะ โนบุนางะ เขาถูกสั่งให้ประหารชีวิตภรรยาและให้ลูกชายคนโตทำเซ็ปปูกุ (คว้านท้อง) เนื่องจากถูกสงสัยว่าเป็นกบฏ อิเอยาสึยอมทำตามเพื่อรักษาตระกูลโทกุงาวะไว้ ไม่ยอมหักด้ามพร้าด้วยเข่าในขณะที่กำลังยังไม่พอ ยอมสวามิภักดิ์ต่อฮิเดโยชิ: หลังจากโนบุนางะตาย เขาเคยรบกับ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ในยุทธการโคมากิและนากากุเตะ แม้จะไม่แพ้ในสนามรบ แต่เขามองเห็นว่าฮิเดโยชิมีอำนาจเหนือกว่ามาก จึงยอมรับใช้ฮิเดโยชิและยอมย้ายฐานที่มั่นไปยังเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) ตามคำสั่ง เพื่อสะสมกำลังไฟอย่างเงียบเชียบ  สรุป: การยอมแพ้ของอิเอยาสึไม่ใช่ความพ่ายแพ้ถาวร...

คนรวยเจอกันย่อมมีข้อมูลสำหรับคนรวย

คนรวยเจอกันย่อมมีข้อมูลสำหรับคนรวย

ประเด็นนี้น่าสนใจ 

จะแยกหัวข้อย่อยออกได้ไง

ที่สำคัญคือ นี่เป็นข้อแนะนำที่สำคัญสำหรับคนที่แสวงหาความก้าวหน้า

เพราะคุณคือสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมสะท้อนความเป็นตัวคุณ

ถ้าเราอยากมีความคิดที่จะส่งเสริมให้เกิดความมั่งคั่งมากขึ้น

ก็ต้องพาและหาโอกาสตัวเองไปพูดคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงิน นั่นก็คือคนรวย

คนรวยเจอกันย่อมมีข้อมูลสำหรับคนรวย

ตรงนี้มันเลยชวนให้นึกถึงประเภทของการสื่อสาร ที่ มี 4 ระดับ

1. แลกเปลี่ยน ในส่วนนี้คนส่วนใหญ่มักใช้กัน พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบ บ่น ด่า นินทา ชื่นชม ซึ่งไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้ชีวิต นอกจากระบายหรือแลกเปลี่ยน เป็นการสื่อสารระดับล่างสุด

เกิดผลกระทบหนึ่งต่อหนึ่งเป็นส่วนมาก นึกถึงภาพการคุยกันของแม่บ้านที่บังเอิญเจอกันในตลาด พูดคุยเม้ามอยกันระยะสั้นๆ

2. ติดต่อกันเพื่อความเป็นทางการ ขั้นนี้จะเป็นการเป็นงาน เพื่อความชัดเจน หวังผล ให้ได้งาน เพื่อสร้างความหมายและคุณค่าในสายสัมพันธ์ที่เขามี ชั้นนี้นักทำงานที่ดีจะสื่อสารกัน

เกิดผลกระทบหนึ่งต่อหนึ่งเป็นส่วนมาก นึกถึงภาพพนักงานแผนกหนึ่งไปขอความร่วมมือกับอีกแผนก

3. กระตุ้นให้เกิดการลงมือทำ ชั้นนี้จะมีสำนวนประโยคที่ปลุกเร้า มีแนวคิดทางจิตวิทยาเข้ามาอยู่ในประโยค วัตถุประสงเพื่อให้นักทำงานทำตามที่ต้องการ 

ระดับนี้เริ่มเกิด เกิดผลกระทบหนึ่งต่อหนึ่ง-ต่อสอง-ต่อสิบ ที่กว้างกว่าเดิม นึกภาพหัวหน้าแผนกคุยกับลูกน้องในควบคุม

4. สร้างแรงบันดาลใจ ผู้นำของผู้นำอีกทีสื่อสาร นอกจากจะมีโวหาร แผงคำคม จิตวิทยาแล้ว ต้องมีท่วงท่าการพูดที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นผู้พูดเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ และระบบความคิดที่รัดกุม

.

ถ้าเราเลือกใช้ระดับการสื่อสารให้เป็น ก็สามารถมีความมั่งคั่งได้

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

Grok? $IREN หุ้นอเมริกาตัวนี้ ถูกเชียร์เกินเหตุหรือเปล่า?

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า