แนวทางที่ Dan Zanger กับ Chris Kacher ทำเงินจากการเทรดที่ชนะ

Image
https://x.com/AsymTrading/status/1997859120230109302?s=20 โพสต์นี้จาก @AsymTrading เป็นบทความย่อเปรียบเทียบสไตล์การเทรดของสองตำนาน momentum trader คือ Dan Zanger (เคยเปลี่ยน $11K → $42M ใน 2 ปี) และ Chris Kacher (ทำกำไร +18,000% ใน 7 ปี อดีต PM ของ William O’Neil)แก่นหลักที่ทั้งคู่ใช้เหมือนกันเป๊ะ:ไม่เคย all-in ทีเดียว แต่เริ่มตำแหน่งเล็ก ๆ ก่อน (pyramiding) ทดลองซื้อหลายตัวพร้อมกัน → ตัดตัวที่อืด/ไม่วิ่งทันที → ทุ่มเพิ่มเฉพาะตัวที่วิ่งแรงจริง ๆ ให้ “พฤติกรรมราคาและวอลุ่ม” เป็นคนตัดสินใจว่าจะใส่เงินเพิ่ม ไม่ใช่ความหวังหรือการทำนาย รายละเอียดวิธีการ: Dan Zanger  ซื้อตอน breakout ผ่าน pivot + วอลุ่มพุ่ง (ไม่ chase เกิน 5%)   เลือก 5-6 ตัวที่ breakout พร้อมกัน → ขายตัวที่ไม่ออกตัว → double up ตัวที่วิ่งแรง   ตัดขาดทุนทันทีถ้ากลับลงใต้ pivot → ปรัชญา “This is a numbers game – be in the stocks that move” Chris Kacher  ซื้อ 50% ตอน breakout ที่มีวอลุ่ม    +25% ถ้าปิดวันแรง (close ใกล้ high)   +อีก 25% ตอนย่อตัวแบบ healthy (low volume pullback)...

คนรวยเจอกันย่อมมีข้อมูลสำหรับคนรวย

คนรวยเจอกันย่อมมีข้อมูลสำหรับคนรวย

ประเด็นนี้น่าสนใจ 

จะแยกหัวข้อย่อยออกได้ไง

ที่สำคัญคือ นี่เป็นข้อแนะนำที่สำคัญสำหรับคนที่แสวงหาความก้าวหน้า

เพราะคุณคือสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมสะท้อนความเป็นตัวคุณ

ถ้าเราอยากมีความคิดที่จะส่งเสริมให้เกิดความมั่งคั่งมากขึ้น

ก็ต้องพาและหาโอกาสตัวเองไปพูดคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงิน นั่นก็คือคนรวย

คนรวยเจอกันย่อมมีข้อมูลสำหรับคนรวย

ตรงนี้มันเลยชวนให้นึกถึงประเภทของการสื่อสาร ที่ มี 4 ระดับ

1. แลกเปลี่ยน ในส่วนนี้คนส่วนใหญ่มักใช้กัน พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบ บ่น ด่า นินทา ชื่นชม ซึ่งไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้ชีวิต นอกจากระบายหรือแลกเปลี่ยน เป็นการสื่อสารระดับล่างสุด

เกิดผลกระทบหนึ่งต่อหนึ่งเป็นส่วนมาก นึกถึงภาพการคุยกันของแม่บ้านที่บังเอิญเจอกันในตลาด พูดคุยเม้ามอยกันระยะสั้นๆ

2. ติดต่อกันเพื่อความเป็นทางการ ขั้นนี้จะเป็นการเป็นงาน เพื่อความชัดเจน หวังผล ให้ได้งาน เพื่อสร้างความหมายและคุณค่าในสายสัมพันธ์ที่เขามี ชั้นนี้นักทำงานที่ดีจะสื่อสารกัน

เกิดผลกระทบหนึ่งต่อหนึ่งเป็นส่วนมาก นึกถึงภาพพนักงานแผนกหนึ่งไปขอความร่วมมือกับอีกแผนก

3. กระตุ้นให้เกิดการลงมือทำ ชั้นนี้จะมีสำนวนประโยคที่ปลุกเร้า มีแนวคิดทางจิตวิทยาเข้ามาอยู่ในประโยค วัตถุประสงเพื่อให้นักทำงานทำตามที่ต้องการ 

ระดับนี้เริ่มเกิด เกิดผลกระทบหนึ่งต่อหนึ่ง-ต่อสอง-ต่อสิบ ที่กว้างกว่าเดิม นึกภาพหัวหน้าแผนกคุยกับลูกน้องในควบคุม

4. สร้างแรงบันดาลใจ ผู้นำของผู้นำอีกทีสื่อสาร นอกจากจะมีโวหาร แผงคำคม จิตวิทยาแล้ว ต้องมีท่วงท่าการพูดที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นผู้พูดเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ และระบบความคิดที่รัดกุม

.

ถ้าเราเลือกใช้ระดับการสื่อสารให้เป็น ก็สามารถมีความมั่งคั่งได้

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

เส้น EMA ที่เทรดเดอร์เทพนิยมใช้

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า