กับดักอันตรายของการซื้อหุ้นราคาถูก

Image
กับดักอันตรายของการซื้อหุ้นราคาถูก "หุ้นราคาถูก" ในความหมายของพี่มาร์ค ที่เป็นนักเก็งกำไร คือ "หุ้นขาลง ที่ลงหนักจนคุณเทียบระยะห่างจากราคาที่จุดสูงสุดกับราคาปัจจุบันแล้วพบว่าตอนนี้มันลดราคาเยอะมาก" นะครับ แกไม่ได้ให้นัยเกี่ยวกับมูลค่าแต่อย่างใด (ถ้าคุณมั่นใจว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการคำนวณมูลค่าหุ้นชนิดหาตัวจับยาก ก็ให้ข้ามไปนะครับ ประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ) . ความอันตรายของหุ้นขาลง ที่มือใหม่คิดว่ามันลงจนราคาถูกมากแล้วก็คือ  ๑) คุณเชื่อว่าตอนนี้มันราคาถูกมากแล้ว ๒) พอมันร่วงลงต่อ คุณจะไม่กล้าขาย เพราะเชื่อว่ามันถูกมากแล้ว ไม่น่าลงต่อไปได้อีกมากหรอก ๓) ยิ่งราคาร่วงลงต่อไปอีก คุณจะรู้สึกว่าราคาที่ถูกกว่านั้นมันดึงดูดให้คุณ "ซื้อเพิ่ม" โดยไม่ลังเล และชอบธรรมที่จะซื้อ ๔) ไป ๆ มามา คุณก็ได้ซื้อถัวเฉลี่ยด้วยเงินที่ก้อนโตมากเกินไป Position Sizing โตเกินไป โตจนจนละเมิดการบริหารความเสี่ยงที่ดีไป -- คุณกำลังเพิ่มความเสี่ยงในการทำลายตนเอง(Risk of Ruin)มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ๕) และถ้าคุณโชคร้าย หุ้นตัวนั้นเป็นตัวซวย การถัวเฉลี่ยผู้แพ้แค่ตัวเดียว ก็ทำลายพอร์ตของคุณได้อย่างง

ผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่นักเทรดสมบูรณ์แบบ ยังคงขายหมู ตกรถ ตัดขาดทุน

(ผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่นักเทรดสมบูรณ์แบบ)

มีคนสงสัยว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังคงขายหมู ตกรถ ตัดขาดทุนด้วยเหรอ?

คำตอบก็คือ ใช่ครับ ผู้เชี่ยวชาญก็ยังมีการขายหมู คัทแล้วเด้ง ตกรถ เหมือนมือสมัครเล่นนั่นแหละ

ความต่างระหว่างนักเทรดมือสมัครเล่น(เม่า) กับ นักเทรดผู้เชี่ยวชาญ(มืออาชีพ)

๑) ถ้าคุณไม่เชื่อ ให้กลับไปอ่านหนังสือ Momentum Master,  หนังสือชุด Market Wizards ก็มีบอกความผิดพลาดเรื่องนี้เช่นกัน แม้แต่เซียนหุ้นบ้านเราเองคุณลองไปดูคลิปให้สัมภาษณ์เขาให้ดีครับ ว่าทุกคนล้วนมีปัญหาเรื่องเหล่านี้กันทั้งสิ้น ไม่มีใครเลี่ยงได้หรอก

.

๒) เหตุผลที่เขา ขายหมู คัทแล้วเด้ง ตกรถ เพราะเขาเทรดตามระบบของเขา ที่โฟกัสกระบวนการตามระบบ ที่มี Risk reward ตามระบบของเขาเอง ถ้าระบบสั่งให้ตัดขาดทุนเขาก็มีวินัยทำตามโดยไม่อิดออด ส่วนจะคัทแล้วเด้งไม่ใช่ปัญหาของเขา เพราะเขาควบคุมผลลัพธ์ไม่ได้ เขาไม่รู้อนาคตหรอก ก็แค่ทำตามระบบเท่านั้น

.

๓) การขายหมู คัทแล้วเด้ง ตกรถ เป็นสิ่งที่เม่าเอามาบูลลี่กันเองทั้งนั้นแหละ มืออาชีพเขาไม่สนหรอก เพราะเขาโฟกัสไปที่กระบวนการ มากกว่าผลลัพธ์

.

๔) ความสมบูรณ์แบบ คลีนชีต เป็นความเชื่อที่มือสมัครเล่นเข้าผิดมาก ว่ามืออาชีพนั้นต้องไม่พลาดเลย(เม่าเลยเทรดแบบกดดันตัวเองไง) ความจริงแล้วไม่ใช่ครับ นักเทรดที่ทำเงินได้สม่ำเสมอนั้นมี win rate 40-60% เท่านั้นเองครับ ตัดสินใจถูกครึ่งผิดครึ่งเป็นเรื่องปกติ ตัดขาดทุนเป็นเรื่องปกติ

.

๕) ตัวชี้วัดว่าใครจะทำกำไรสม่ำเสมอ ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบหรอกนะครับ แต่มันคือ การบริหาร Risk Reward ที่เป็นธุรกิจ เฉลี่ยแล้วได้กำไร เขามาทำธุรกิจ ไม่ใช่พิสูจน์ว่าตัวเองถูก/สมบูรณ์แบบ

.

๖) เซียนเขารู้เรื่องนี้ดี ว่าเขาไม่จำเป็นต้องชนะ/คิดถูกทุกครั้งก็ปั้นพอร์ตให้รวยได้ เขาจึงกล้าตัดขาดทุน โฟกัสที่กระบวนการ และบริหารความเสี่ยงอย่างจริงจังไงครับ

.

๗) มันไม่สำคัญว่าคุณชนะกี่ครั้งแพ้กี่หน

แต่มันสำคัญตรงที่ว่า ตอนคุณชนะ คุณได้กำไรมากแค่ไหน ตอนคุณแพ้คุณเสียน้อยแค่ไหน

การรู้ตัวไวว่าเมื่อไหร่ที่คิดผิด คือกุญแจสำคัญครับ

.

๘) ลองเปลี่ยนจากการพยายามกดดันตัวเอง "ไม่ให้ขายหมู ไม่ให้คัทแล้วเด้ง ไม่ให้ตกรถ" ไปเป็นทำตามกระบวนการตามแผนการเทรดของตนเองเท่านั้นดูครับ สภาพจิตของคุณจะโล่งโปร่งสบายกว่าเดิม และคุณจะได้ผลงานที่ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ

.

๙) ผู้เชี่ยวชาญ ก็มีความเป็นมนุษย์เหมือนมือสมัครเล่น

เพียงแต่ใช้ mindset คนละชุด โฟกัสคนละจุดกับเม่า

เป็นด้านที่ขัดกับธรรมชาติมนุษย์ทั่วไนี่เป็นเหตุผลว่าทำไม  "จิตวิทยาการเทรด" จึงสำคัญ เป็นสิ่งมือสมัครเล่นควรทำความเข้าใจให้ดี




7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ถ้าคุณต้องการรู้จักนิสัยของตลาดให้มากที่สุด ให้เดินไปที่ชายหาด ก้าวลงไปในน้ำทะล