เทรดเดอร์ 90% ล้มเหลว เพราะทำสิ่งนี้ผิดซ้ำๆ โดยไม่รู้ตัว คุณอาจจะกำลังทำสิ่งนี้อยู่โดยไม่รู้ตัว...

Image
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM3MzIxNzt9 เทรดเดอร์ 90% ล้มเหลว เพราะทำสิ่งนี้ผิดซ้ำๆ โดยไม่รู้ตัว คุณอาจจะกำลังทำสิ่งนี้อยู่โดยไม่รู้ตัว... และมันอาจเป็น เหตุผลหลักที่ทำให้พอร์ตของคุณไม่โตสักที ลองดูสิว่าเคยเป็นแบบนี้ไหม: เทรดแพ้แล้วรีบเปลี่ยนระบบ เทรดชนะแล้วมั่นใจเกินเหตุ เทรดผิดพลาดซ้ำๆ ทั้งที่รู้ว่า “ไม่ควรทำ” ถ้าใช่ คุณไม่ได้พลาดที่ “กลยุทธ์” แต่คุณกำลังติดอยู่ใน “วงจรพฤติกรรมเดิมๆ” ที่ไม่มีใครสอนให้รู้ตัว วงจรที่พาคนเทรดล้มเหลวแบบไม่รู้ตัว ❌ แพ้แล้วไม่รีวิว → เทรดพลาดซ้ำ เพราะไม่เคยวิเคราะห์สิ่งที่ทำผิด ❌ เปลี่ยนระบบเร็วเกินไป → ไม่เคยให้โอกาสระบบได้พิสูจน์ผลในระยะยาว ❌ ใช้แค่ความรู้สึกนำการตัดสินใจ → กลายเป็น “นักเสี่ยงโชค” มากกว่านักลงทุน ❌ ไม่วางเป้าหมายระยะยาว → เทรดไปวันๆ หวังโชคดี แต่ไม่มีทิศทาง สิ่งเหล่านี้ฟังดูเล็กน้อย แต่เมื่อสะสมทุกวัน มันคือ “สูตรสำเร็จของความล้มเหลว” ที่ซ่อนตัวเงียบๆ ถ้าอยากเปลี่ยนผลลัพธ์ ต้องเริ่มเปลี่ยน “Mindset” การเทรดที่ดีไม่ได้เริ่มจากหาสูตรลับ แต่...

Learning curve ของการเทรดที่ต้องยอมรับให้ได้

 Learning curve คือ gap ระยะเวลาที่คุณใช้ในการสร้างทักษะ หรือ สะสมความรู้ เพื่อให้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น สิ่งที่พิสูจน์ว่าคุณมีความเชี่ยวชาญคือ สามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องกัน equity curve เป็นขาขึ้น



Learning curve เป็นสิ่งที่นักเทรดผู้แพ้(ที่ล้มเลิก/ถอดใจไปก่อน)ไม่รู้จัก เพราะเขาคาดหวังการได้โฮมรัน(ผลลัพธ์ชั้นเลิศ-เหมือนถูกรางวัลที่หนึ่ง)ตั้งแต่การตีครั้งแรกเลย ทั้ง ๆ ไม่สำเหนียกว่าตนเองยังไม่รู้ไม่มีทักษะที่ควรคู่เลย


ขาดทุนซ้ำซาก - ปล่อยกำไรให้กลายเป็นขาดทุน - รักษากำไรก้อนโตเอาไว้ไม่ได้ - เปลี่ยนกลยุทธ์ไปมา - พอร์ตไม่โตเสียที ฯลฯ นี่คือลักษณะของการอยู่ในช่วง learning curve ผลงานจะเป็นตัวชี้วัด ไม่ใช่ความรู้สึกของคุณ  (ความซื่อสัตย์ต่อตนเองสำคัญมาก)

.

การรู้จัก Learning curve ช่วยให้นักเทรดมีมุมมองที่ถูกต้องกับระยะเวลามากขึ้น ไม่รีบร้อนกดดันตัวเองมากเกินไป ไม่คาดหวังผลเลิศตั้งแต่ครั้งแรก แต่เปิดใจอ้าแขนรับความผิดพลาดเอามาเป็นบทเรียนเพื่อพัฒนาตนเองให้ดีกว่าเก่า โฟกัสไปที่การพัฒนาตนเองเป็นหลัก คนที่มี mindset เป็นน้ำไม่เต็มแก้วแบบนี้แหละที่มีศักยภาพต่อความสำเร็จในระยะยาว

.

ถึงกระนั้น อย่าเหนียมอายที่จะยอมรับว่าตนเองอยู่ในช่วง Learning curve 

เพราะการยอมรับโดยดุษฏี จะช่วยให้คุณเปิดใจสำหรับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ upside ของคุณเปิดกว้างอย่างไร้เพดาน

แต่ถ้าคุณยอมรับไม่ได้ คุณก็เป็นเหมือนน้ำเต็มแก้ว พัฒนาได้ยากแล้ว

.

อย่าเพิ่งถามว่าจะสำเร็จเมื่อไหร่ แต่จงบอกตัวเองว่าฉันจะเรียนรู้จากมันให้มากที่สุด ฉันจะลดจุดอ่อนเหล่านี้ได้อย่างไร โฟกัสไปที่การเรียนรู้ สะสมประสบการณ์ไปก่อน ค่อย ๆ ปรับทัศนคติ(จิตวิทยา)ให้สอดคล้อง ถ้าคุณดีพอ-เงินจะมาหาคุณเองครับ




7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?