นักเทรดต้องเรียนรู้ที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของตนเอง

การเทรด ดูเหมือนง่าย แต่แท้จริงแล้วโคตรยาก มันจึงควรเป็น “กระบวนการเรียนรู้” ระยะยาว อย่าทำร้ายตนเอง ในวันแย่ ๆ แต่จงเปิดใจมองหาบทเรียนเพื่อเรียนรู้แทน อย่าไปแคร์นักเทรดขี้โม้บนสื่อโซเชียล ที่ชอบอวดว่าตนรู้ทุกอย่าง ทั้งที่แท้จริงแล้ว แม้แต่สุดยอดนักเทรดก็ยังพลาดได้ในธุรกิจนี้ – แมท คารูโซ . มนุษย์ สามารถผิดพลาดได้เสมอ แม้แต่มือโปร ก็ยังตัดสินใจโง่ ๆ โดยขาดสติบางครั้ง เมื่อผิดพลาด... มือใหม่: ทำร้ายตัวเอง/ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ และ ทำความผิดพลาดซ้ำเติม มือโปร: ยอมรับและเข้าใจความผิดพลาดของตนเอง/รักษาทัศนคติเชิงบวกไว้/ตั้งสติและโฟกัสให้ดีขึ้น/รักษาสภาพจิตใจที่มั่นคงเป็นกลางไว้ - เทรดดิ้งคอมโพเชอร์ . ทุกคนล้วนทำความผิดพลาดกันได้ ผมคิดว่าผู้คนจำนวนมากทำร้าย(และโทษตัวเอง)มากเกินไปเมื่อทำผิดพลาด – วอร์เรน บัฟเฟตต์ . บทเรียนสำคัญของการเทรดที่คุณควรรู้: คุณต้องเรียนรู้ที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของตัวเอง อย่าเป็นศัตรูกับตัวเอง เพราะคุณมีคู่แข่งเยอะแล้ว ทั้งมือโปร ทั้งตลาด  และพวกขี้โม้ ดังนั้นอย่าเพิ่มคู่แข่งที่อันตรายที่สุดด้วยการ เป็นปฏิปักษ์กับตัวเองอีกเลย

การเทรดคือการบริหารจัดการจิตใจตัวเอง



การเล่นหุ้นมันเป็นการบริหารจัดการสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างหน้ากับความฝันที่เรามี

คืออย่างที่บอกไปว่าเราซื้อหุ้นน่ะเราก็หวังให้มันวิ่งขึ้นทำกำไรให้เราใช่ไหมครับ
แต่ว่าบ่อยครั้งมากที่ราคาหุ้นมันไม่ทำตัวตามที่ใจเราหวังไง
มันพร้อมที่จะทำให้เราขาดทุนอยู่ตลอดทุกครั้งที่เราซื้อ
นี่แหละคือปัญหา

มันเป็นความท้าทายว่าใครสามารถบริหารจัดการกับ
สิ่งที่เกิดขึ้นที่มันเป็นความจริง
กับความฝันที่เราอยากจะได้กำไรดีกว่ากัน

คือถ้าเราคิดว่าตลาดหุ้นมันต้องทำให้เราได้กำไรตลอดเวลานี้
ผมว่าคิดแบบนี้ไม่รอด มีโอกาสขาดทุนเละเทะสูงมาก

ซึ่งนี่เป็นความเชื่อของนักเล่นหุ้นมือใหม่ส่วนใหญ่ที่ยังไม่มีประสบการณ์
อ่านหนังสือมามันก็มีแต่ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จใช่ไหมครับ
พอเราเล่นหุ้นเราก็คิดว่าตัวอย่างมันก็ต้องเป็นไปตามทฤษฎีที่เขาบอกในหนังสือแหละ
แต่ทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น
มันมีความเหมือนกับทฤษฎีแค่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์นั้นมันไม่ตรงเลย

แต่เราไม่รู้ไง
เพราะเราไม่รู้ก็เกิดความลำเอียงเอาตำรามาอ้างทำให้เราเสียหายมากขึ้น

ดังนั้นผมเลยอยากนำเสนอท่านแบบนี้ว่า
ให้มองว่าตลาดหุ้นมันมีโอกาสเกิดได้ 2 อย่าง ก็คือว่า
ทำตามใจเรา กับขัดความรู้สึกเรา

ซึ่งมันเป็นเหมือนชีวิตเราอ่ะครับ
เพราะว่าชีวิตเรามันก็ไม่มีอะไรที่มันได้ดั่งใจเราทุกอย่างหรอก
ส่วนใหญ่มักจะขัดใจเราตลอดแหละ

หน้าที่เราก็คือว่าถ้าเกิดความขัดใจแล้วเราจะอยู่กับมันได้ยังไง
เราจะถอยออกมาเพื่อที่จะลดความเจ็บปวดเราดีไหม
หรือว่ายอมทนสู้ต่อไป
ตรงนี้แหละสำคัญ

ซึ่งผมว่าในมุมมองนะ การถอยออกมาจะดีกว่า
เพราะว่ามันมันเป็นสิ่งที่ผมเจอมาโดยตลอดในช่วงเวลา 5-6 ปีที่เล่นหุ้นมา

ก็คือว่าตลาดหุ้นมักจะทำตัวตรงข้ามกับสิ่งที่เราคาดหวังเสมอไง
ดังนั้นแทนที่เราจะสู้แล้วก็พยายามทนดู
มีความหวังว่าราคาหุ้นจะต้องวิ่งทำให้เรามีกำไรนั้น
ผมว่าเป็นวิธีการที่ผิด

ยิ่งทนยิ่งมีความหวัง
ยิ่งเสียหายเยอะ

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว การยอมรับชะตากรรมว่าเราคิดผิดมันเป็นสิ่งที่สมควรทำมากกว่า
ตรงนี้ล่ะครับที่มันเป็นเหมือนกับเปลี่ยนวิธีคิดของเรา

ว่าแทนที่เราจะสู้กับตลาด ก็เป็นการยอมรับตลาด
โดยการให้ความเสี่ยงนำก่อนโอกาส

คือถ้าเราซื้อแล้วราคาหุ้นไม่ยอมไปต่อทำให้ขาดทุน
เรายอมชักเงินออกมาก่อน
ถ้าทำแบบนี้ได้ผมว่าเราจะมีความสบายใจกับตลาดมากขึ้น
และทำให้เงินต้นของเราไม่เสียหายมาก
เท่ากับการทนสู้ด้วยความหวังว่าตลาดหุ้นจะเข้าข้างเรา


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

7 นิสัย ของนักเทรดมืออาชีพ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง

ใช้ EMA 200 เทรด จะเป็นเศรษฐีได้มั้ยหนอ (EMA200 Trading)

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แนะนำอีบุ๊ก เล่มใหม่ "Trader's Journey: กว่าจะสำเร็จ...นักเทรดต้องเจออะไรบ้าง"