ถ้าคุณต้องการสร้างผลตอบแทนจากการสวิงเทรดหุ้นให้ได้ กำไรเฉลี่ยระดับร้อยเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มีอยู่ 2 หลักการสำคัญ ที่คุณจำเป็นต้องเข้าใจให้ลึก

Image
ถ้าคุณต้องการสร้างผลตอบแทนจากการสวิงเทรดหุ้นให้ได้ กำไรเฉลี่ยระดับร้อยเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มีอยู่ 2 หลักการสำคัญ ที่คุณจำเป็นต้องเข้าใจให้ลึก โมเมนตัม (Momentum) การหด–ขยายตัวของความผันผวน (Volatility Contraction / Expansion) หัวใจของการทำกำไร คือ 👉 ค้นหาหุ้นที่กำลังจะเข้าสู่ช่วง “การขยายตัว” ของราคา 👉 และต้องเป็นการขยายตัว ไปในทิศทางเดียวกับโมเมนตัม ถ้าคุณทำได้ เงินจะเป็นเพียงผลลัพธ์ที่ตามมา

(สำหรับอเมริกา) ตลาดกระทิงและขาขึ้นรอบใหญ่ เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"  https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9


(สำหรับอเมริกา) ตลาดกระทิงและขาขึ้นรอบใหญ่ เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

แปลจาก https://x.com/Trader_mcaruso/status/1928807700944577011

ตลาดยังไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่เลย และมีเพียงหุ้นไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ทำได้ ส่วนใหญ่เวลาตลาดหยุดพักเล็กน้อยตามปกติ แทนที่คนจะใช้โอกาสนี้สะสมหุ้นดีๆ กลับกลายเป็นว่าพวกเขาเริ่มวิตก ขายหุ้นหนี แล้วก็ไม่กล้าซื้อกลับเข้ามาใหม่


สาเหตุหลักๆ ก็มาจากความกังวลเรื่องต่างๆ ทั้งภาษีสงคราม, ตลาดพันธบัตร หรือข่าวร้ายอีกสารพัดอย่างที่ล้วนแต่ทำให้ใจสั่น


มี "ข้อผิดพลาดไม่กี่อย่าง" ที่คอยขัดขวางคนส่วนใหญ่ไม่ให้ไปถึงเป้าหมาย และหนึ่งในข้อผิดพลาดร้ายแรงที่สุด ก็มักเกิดขึ้นหลังจากตลาดปรับฐานลงแรง — คือเราจะเริ่มคิดว่า "แย่แล้ว ตลาดคงไปต่อไม่ได้ ความเสี่ยงสูงเกินไป"


ผมพูดได้เพราะผมเคยเจอมากับตัวเอง...


ย้อนกลับไปปี 2011 — ตอนนั้นผมเพิ่งมีช่วงเวลาทอง 3 ปีแรกของชีวิตเทรดเดอร์มืออาชีพ และโฟกัสหลักของผมอยู่ที่หุ้นทองคำกับกลุ่มเหมืองทอง ถ้าคุณย้อนดูกราฟ GDX ปี 2011 คุณจะนึกว่าเป็นกราฟของดัชนีเทคโนโลยีล้ำยุคเลยทีเดียว


แต่ปัญหาคือ เทรดทองมักจะยึดโยงกับแนวคิดว่าเศรษฐกิจกำลังมีปัญหา ผมเข้ามาเทรดทองก็เพราะผลพวงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตการเงิน แต่หลังจากได้กำไรมาเยอะหลายปี ผมเริ่มตกหลุมพรางของ “กระแสทอง” ที่ใครๆ ก็พูดถึง


นักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Peter Schiff และคนอื่นๆ มีเหตุผลที่ฟังดูดีมาก ว่าโลกกำลังจะแย่จริงๆ พอตลาดทองเริ่มร่วงในปี 2011 ผมก็ยิ่งจมลึกในความคิดลบ ทุกข่าวร้ายยิ่งตอกย้ำให้ผมเชื่อว่าสิ่งเลวร้ายกำลังจะมาแน่นอน


ผลลัพธ์ก็คือ...ผมเริ่มมองโลกในแง่ร้าย มองไม่เห็นเทรนด์ใหม่ๆ ไม่กล้าถือหุ้นที่กำลังขึ้นดีๆ และใช้เวลานานกว่าหนึ่งปี กว่าจะ “ล้างความลำเอียง” ออกจากใจตัวเองได้


ผมสาบานเลยว่า หลังจากนั้นจะไม่ยอมให้ความคิดลบควบคุมผมอีก


ความคิดลบจะมาเยือนทุกคน โดยเฉพาะตอนที่ต้องเจอกับภาวะตลาดหมี หรือขาดทุนหนักครั้งแรกในชีวิต


ความจริงคือ — ใช่ครับ มีหลายเรื่องแย่ๆ ที่ "อาจ" เกิดขึ้นได้...แต่โลกและระบบเศรษฐกิจนี้ ก็มีแนวโน้มจะ “แก้ปัญหา” และ “เดินหน้าต่อ” เสมอ


สังเกตมั้ยครับ? ตอนแรกทุกคนกังวลเรื่องภาษีการค้า (Tariff) แล้วพอปัญหานั้นเริ่มคลี่คลาย คนก็หันไปกลัวปัญหาตลาดพันธบัตรแทน ราวกับหายนะกำลังจะเกิดขึ้นซ้ำอีก


ลองนึกดูว่าผมอ่านข่าวอะไรบ้างในปี 2011 หลังวิกฤตการเงิน แล้วยังมีวิกฤตหนี้ยุโรปกำลังรออยู่ มาถึงตอนนี้ — โลกยังอยู่ดีถึงปี 2025 ได้ยังไงเนี่ย! (พูดแบบขำๆ นะครับ)


เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากได้ผลตอบแทนที่เปลี่ยนชีวิต หรือแค่เพียงอยากคว้า “หุ้นเติบโต” ตัวหนึ่งที่พุ่งแบบยิ่งใหญ่


มันเริ่มต้นที่ “ทัศนคติ” ครับ


คุณต้อง “คิดบวก” และพยายามปิดกั้นพลังลบรอบตัว เพราะคนที่มองลบตลอดเวลา จะยังคงมองลบตลอดไป ดูง่ายๆ จากประวัติของพวกเขา — ถ้าคนๆ หนึ่งมองลบมาตลอด 5 ปี เขาก็จะยังมองลบไปอีก 20 ปี


แม้แต่นาฬิกาเสีย ยังบอกเวลาถูกได้วันละ 2 ครั้ง แล้วคนที่มองโลกในแง่ลบล่ะ คุณจะเชื่อเขาได้แค่ไหน?


AI กำลังเปลี่ยนโลก และนี่คือจุดเริ่มต้นของโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้น


ลองนึกภาพว่าคุณอยู่ในปี 1995 แล้วมองว่า “หุ้นอินเทอร์เน็ตไม่น่าสนใจ” เพราะปี 1994 เศรษฐกิจดูมีปัญหา...คุณจะพลาดอะไรไปมากแค่ไหน?


เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับปัจจุบัน ด้วยการศึกษาอดีต และที่สำคัญที่สุด — เริ่มต้นด้วยการปกป้องจิตใจของคุณ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Grok? $IREN หุ้นอเมริกาตัวนี้ ถูกเชียร์เกินเหตุหรือเปล่า?