การเทรดมี สองส่วนหลัก: ช่วงเวลานอกเวลาซื้อขาย (วางแผน/คิดกลยุทธ์) + ช่วงเวลาขณะเทรดจริง (ปฏิบัติตามแผน)

Image
สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9   สวัสดีนักเทรดทุกคน ผมคือ Cororey Mitch จากเว็บไซต์ tradethatswing.com แปลจาก  https://www.youtube.com/watch?v=TC-KYcTjXRc ในวิดีโอนี้ ผมอยากจะพูดถึงการ “แบ่งหน้าที่ในใจ” ของคุณเวลาเทรด ให้ออกเป็น 2 บทบาท หรือ 2 กรอบความคิดหลักๆ จะเรียกว่าวิธีคิดแบบสองโหมดก็ได้ เพราะผมเห็นคนจำนวนมากพยายาม “ทำทุกอย่างพร้อมกัน” ขณะเทรด และนั่นทำให้เกิดปัญหา เช่น คิดทบทวนกลยุทธ์กลางสนามรบ หรือปรับเปลี่ยนวิธีเล่นไปเรื่อยโดยไม่มีทิศทาง สิ่งที่ผมอยากให้คุณลองคิดก็คือ...การเทรดมี สองส่วนหลัก: 1) ช่วงเวลานอกเวลาซื้อขาย (วางแผน/คิดกลยุทธ์) 2) ช่วงเวลาขณะเทรดจริง (ปฏิบัติตามแผน) 1. ช่วง “นอกเวลาซื้อขาย” – คิดเหมือนผู้บริหาร ให้คุณคิดว่าตัวเองคือ “ผู้จัดการ” หรือ “ฝ่ายบริหารของบริษัทเทรด” ในช่วงนี้ หน้าที่ของคุณคือ วางระบบให้รัดกุม หาวิธีทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คุณจะต้อง: ตั้งกฎ ศึกษากลยุทธ์ ...

การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.)


eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger)
มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9




ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ


"เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร?

การเทรดในตลาดไม่ได้มีแค่คนที่ชนะ ยังมีคนที่แพ้เสมอ และเมื่อนำทุกกำไรและขาดทุนมารวมกัน มักจะมีผลลบเพราะค่าธรรมเนียมต่างๆ

คุณไม่ได้แข่งขันแค่กับนักเทรดคนอื่น แต่ยังต้องต่อสู้กับ "ต้นทุน" ของการเทรดด้วย เช่น ค่าสเปรด ค่าธรรมเนียม และความผิดพลาดจากการตัดสินใจ


"ดีกว่าค่าเฉลี่ย" ยังไม่พอ เพราะอะไร?

การเป็น "ดีกว่าค่าเฉลี่ย" อาจทำให้คุณอยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้ขาดทุนมากนัก แต่ไม่สามารถสร้างกำไรที่ยั่งยืนได้ (Boom and Bust Trader)

หากคุณต้องการชนะในระยะยาว คุณต้องไม่ใช่แค่ดีกว่าคนทั่วไป แต่ต้องเป็นคนที่ โดดเด่นอย่างแท้จริง มีความรู้ ทักษะ และวินัยที่สูงกว่ามาตรฐานของนักเทรดส่วนใหญ่




"โดดเด่นกว่าใครๆ" ต้องทำอย่างไร?

ศึกษาอย่างจริงจัง: เรียนรู้ทั้งพื้นฐานและเทคนิคของการเทรด อ่านหนังสือ ดูวิดีโอ และทดลองฝึกฝน

วางแผนและมีวินัย: สร้างระบบการเทรดที่เหมาะกับตัวคุณ และทำตามแผนโดยไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง

ยอมรับการขาดทุน: ไม่ใช่ทุกการเทรดจะมีกำไร แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องจัดการความเสี่ยงเพื่อปกป้องพอร์ตของคุณ

ปรับปรุงตัวเองตลอดเวลา: ตลาดเปลี่ยนแปลงเสมอ คุณต้องพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง


คำแนะนำจากประโยคนี้:

แม้การเป็น "โดดเด่นกว่าใครๆ" อาจฟังดูน่ากลัวสำหรับมือใหม่ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หากคุณเริ่มต้นด้วยการพัฒนาทีละเล็กทีละน้อย ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และเรียนรู้จากทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว คุณจะค่อยๆ ก้าวขึ้นมาเป็นนักเทรดที่โดดเด่นได้

ดังนั้น อย่ามองหาความธรรมดา จงตั้งเป้าหมายเพื่อความยอดเยี่ยม เพราะในเกมการเทรด ความธรรมดาไม่ได้ทำให้คุณชนะ แต่ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาจนโดดเด่นต่างหากที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ!


“อย่ามัวแต่หวังว่าสิ่งต่างๆ มันจะง่ายขึ้น แต่จงหวังว่าคุณจะเก่งขึ้น 

อย่ามัวแต่หวังว่าปัญหาจะลดลง แต่จงหวังว่าคุณจะมีทักษะที่มากขึ้น 

อย่ามัวแต่หวังว่าอุปสรรคจะลดลง แต่จงหวังว่าคุณจะมีปัญญาที่มากขึ้น” 

- จิม โรห์น (Jim Rohn)




Zero to Hero ภารกิจเปลี่ยนนักเทรดขาดทุนซ้ำซากให้ได้กำไรสม่ำเสมอ... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=317619

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

(มือใหม่เล่นหุ้น) แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่