สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ
![Image](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjziPw0iRNtRi-kEDbQ3P-5qkHbCb9d-VHnhmAySwYnO-mkgwiDDUHDeFYHUI3BrOT55qoN6CD2sUlMzfa_u0LImGQYe0CI4M93WAWq4-XTPp_xbdqsgiUORxWyRKibEie_fWMU2MlYCFLRlQ-Vu-9Fhyphenhyphenrl1OjvD19z0Ad_YirkVtMn1yAUqwukqRorD5Y/w640-h602/Screenshot%202024-07-26%20074007.png)
Asymmetric risk เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์...ของนักเทรดผู้ชนะทุกคน
เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดผู้ชนะ ยิ่งเทรดยิ่งรวย
.
Asymmetric risk คือ หน้าเทรดที่ให้ ขนาดความเสี่ยง-น้อยกว่า-ขนาดของโอกาส...อย่างผิดปกติ
.
ยอดนักเทรดแต่ละคน ก็มีหน้าเทรดที่ให้ Asymmetric risk ต่างกันไป
ที่ชัดเจนและเห็นภาพง่ายที่สุด คือ ลุงจิม โรเจอร์ส ที่บอกว่า
"ผมจะ(อยู่เฉย ๆ) รอจนกว่าเงินไปกองที่มุม
และสิ่งเดียวที่ผมจะทำก็คือ เดินไปเก็บมัน"
.
มันก็จะทำให้เราเข้าใจคำที่พี่มาร์คบอกว่า
“เป้าหมายของผมคือเข้าร่วมในตลาด Easy dollar
จากนั้นจะนั่งเฉย ๆ ถือเงินสดอย่างปลอดภัย ปล่อยให้พวกเสพติดการเทรดต่อสู้เพื่อเงินเพนนีในระหว่างตลาดพักฐาน
การรู้ว่าเมื่อใดควรบุกหนักหรือเมื่อใดควรเหยียบเบรกเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างผลตอบแทนมหาศาลให้กับตลาดหุ้น”
Easy dollar ของพี่มาร์ค ก็คือ Asymmetric risk หรือ "เงินไปกองที่มุม" ในอุปมาของลุงจิม โรเจอร์ส นั่นเอง
.
พอล ทิวดอร์ โจนส์ ก็บอกว่า
"ปรัชญาการลงทุนของผม คือ ผมจะไม่เสี่ยงแบบโง่ ๆ
ผมจะมองหาโอกาสที่ - มีโอกาสในการให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่
บิดเบือนอย่างมาก(มันก็คือ Asymmetric risk นั่นเอง)"
และ...
"[ผมจะมองหา] (รางวัล:ความเสี่ยง ที่ 5:1)
5:1 หมายความว่าผมเสี่ยง $1 แล้วมีโอกาสได้กำไร $5
5:1 ทำให้คุณมีความแม่นยำ 20% ซึ่งผมสามารถคิดผิดได้ถึง 80% (ของการเทรดทั้งหมด) แต่ผมก็ยังคงอยู่รอดได้"
.
คุณสามารถค้นหา Asymmetric risk ผ่านวิธีการต่างๆ มากมาย (เช่น เทคนิคอล พื้นฐาน มาโคร ความรู้สึก ฯลฯ) จากนั้นจึงสร้าง Asymmetric risk ให้มากขึ้นผ่าน Position Size และการจัดการ Risk/Reward
.
การค้นหาและการสร้าง Asymmetric risk จึงเป็นหน้าที่สำคัญของนักเทรดผู้ต้องการ "เป็นผู้ชนะ" ทุกคน