เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?

Image
เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?  Dr. Van K. Tharp พูดเสมอว่า “นักเทรดไม่เทรดตามที่ตลาดเป็นหรอก  แต่พวกเขาเทรดตามความเชื่อของพวกเขา”   เรื่องนี้ผมเห็นด้วยอย่างสมบูรณ์   ความเชื่อของผมมีดังนี้:  1) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลไกการซื้อ/ขายที่สมเหตุสมผลและช่วยให้เขาลงมือตามสัญญาณได้ทันที   2) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีแนวทางที่สมเหตุสมผลในการกำหนด Position Size ของเขาอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยลดความน่าจะเป็นที่จะถูกทำลาย   3) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลยุทธ์ที่ช่วยลด Drawdown ของ Equity Curve เพื่อทำให้เขาเครียดน้อยลง   4) ตลาดจะเปลี่ยนแปลงเสมอ มันจะขึ้น, ลง, และไซด์เวย์ 5) การลอกกลยุทธ์คนอื่นมาใช้ทั้งดุ้น มักจะไม่เวิร์ค  การสร้างกลยุทธ์หรือพัฒนากลยุทธ์ที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณคือแนวทางที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า 6) ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบในการเทรด   7) ตลาดจะทำในสิ่งที่มันอยากจะทำ - Tom Basso จากหนังสือ The All-Weather Trader

ชวน "เขียนหนังสือ" กันครับ


จากที่ได้เขียนหนังสือมา 3 เล่ม และกำลังสนุกกับการโม้เล่มที่ 4 อยู่นี้
ผมรู้สึกว่าตัวเองได้ประโยชน์จากการเขียนหนังสือมาก
จึงอยากชวนท่านหาเวลาเขียนออกมาสักเล่ม ด้วยเหตุผลดังนี้
๑) การเขียนหนังสือทำให้เรามีเป้าหมายในการหาความรู้มากขึ้น
เหมือนเราตั้งธงว่า อยากรวบรวมประเด็นใดประเด็นหนึ่งไปแล้ว เราจะมีโฟกัสในการ
- รวบรวมหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นมารวมไว้ให้มากที่สุด
- จากนั้นจะเป็นการเอามาต่อประเด็นให้มันร้อยเรียง
- จากนั้นก็เป็นการย่อยเนื้อออกมาให้ได้ใจความ
- และหาข้อมูลมาสนับสนุนยังไงให้เกิดความน่าเชื่อถือ
๒) การเขียนทำให้เรามีพัฒนาการในการเรียนรู้มากขึ้น
ผมว่านะ การเทรดแค่อ่าน แค่ทำ ไม่พอครับ
ต้องสรุปและกลั่นมันออกมา เพื่ออธิบายให้ตัวเองเข้าใจ
และถ้าทำให้คนอื่นเข้าใจด้วย ยิ่งดีใหญ่
๓) การเขียน พัฒนาการสื่อสารให้ดีขึ้น
การเขียนจะทำให้เกิดคำถามระหว่างการเขียน ซึ่งเราต้องหาคำตอบมาอธิบายสิ่งนั้นให้ได้ ตรงนี้แหละที่จะทำให้เราเกิดทักษะการสื่อสารที่ดี
.
แค่ ๓ ข้อนี้ก็สุดยอดแล้วครับ สำหรับคนไฝ่รู้ และอยากเป็นนักเทรดที่มีทักษะระดับท็อปให้ได้
.
ไม่เก่งก็เขียนได้
เคยคุยกับหลายคน ที่สนใจเขียน แต่พอยุไป เขาตอบว่ายังไม่เก่ง
นั่นเป็นมุมมองของคน "ไม่มั่นใจในตัวเอง" และตั้งธงผิด
ให้ท่านเปลี่ยนจาก "ความกลัวขายไม่ได้" ไปเป็น "เขียนเพื่อให้เข้าใจประเด็นนั้นมากขึ้น" หรือ "เขียนเพื่อให้ตัวเองเข้าใจมากขึ้น"
ท่านไม่จำเป็นต้องขายมันก็ได้ ถ้ากลัวมากก็แชร์มันไปซะ (เหมือนผมที่เขียนบทความลงบล็อกแล้วรวมเป็นอีบุคฟรี)
อย่ารอให้เก่งครับ เพราะพอคุณเก่งขึ้น แต่ความไม่มั่นใจยังติดตัวอยู่ ยังไงก็ไม่ได้เขียน วิธีการแก้ความกลัวก็คือการลงมือทำครับ

คิดว่ามันเป็นวิทยานิพนธ์
คนที่เรียนปริญญาโท ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้เขียนวิทยานิพนธ์เพื่อตัวเองหรอกครับ ทำตามคำแนะนำอาจารย์ สิ่งที่ได้ก็คือใบปริญญาไปแลกเงินเดือนเท่านั้น แต่ถ้าหากท่านเขียนหนังสือสูตรการเทรดของตัวเองได้นะ ท่านจะได้ทักษะที่จำเป็นสำหรับการสร้างความมั่งคั่ง ซึ่งสูงกว่าเงินเดือนเยอะเป็นสิบเป็นร้อยเท่าเลยนะครับ

แนะนำครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดหุ้น คุณไม่ต้องรอบรู้ไม่ต้องเก่งทุกเรื่องและทุกอย่างหรอก ทำแค่ 7 เรื่องนี้ให้ได้ก็พอ....

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ศาสตร์และศิลปะของการปั้นพอร์ต ให้เติบโตสม่ำเสมอ Art & Science of Trading