สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

Why Moats Matters หุ้นดีต้องมีปราการ

ถ้าใครชอบอ่านหนังสือธุรกิจ เปิดเล่มนี้จะผ่านไปได้อย่างสนุก เพราะมีเคสบริษัทที่ประสบความสำเร็จด้วยวิธีเจ๋งๆ ได้ไอเดีย ใหม่ๆ วิธีคิดที่น่าสนใจมากมาย
เป็นเอกสารอ้างอิงได้ดี เอาไว้ดูโอกาสของหุ้นที่เราสนใจว่ามีจุดอ่อน/แข็งตรงไหนบ้าง
โดยเฉพาะบทที่ ๙-๑๖ มีเนื้อหาที่เอาไว้เช็คกับบริษัทในตลาดบ้านเราได้เลย

ไอเดียหลักของการลงทุน ๒ ทาง ที่จะเอาชนะตลาดได้จริงๆ
๑. ซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และรอจนกว่าตลาดรับรู้มูลค่านั้น
๒. ซื้อหุ้นบริษัทที่เพิ่มพูนมูลค่าที่แท้จริงได้ไวกว่าที่อื่น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะบริษัทเหล่านั้นมีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งและเติบโตดีกว่า


ป้อมปราการ หรือความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจทั้ง 5 ประเภท + วิธีการตั้งคำถามเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มความแข็งแกร่ง
๑) ความได้เปรียบทางต้นทุน
ซัพพลายเออร์ มีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นหรือไม่?
บริษัทมีขั้นตอนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมั้ย?
มีสินค้าทดแทนที่ทำได้ถูกกว่าหรือไม่?

๒) สินทรัพย์ไม่มีตัวตน
ลูกค้าเต็มใจที่จะซื้อสินค้าเพราะแบรนด์มากน้อยแค่ไหน?
สิทธิบัตรนั้นง่ายต่อการลอกเลียนแบบหรือเปล่า?

๓) ต้นทุนการเปลี่ยนย้าย
พัฒนาการทางเทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมของอุตสาหกรรมและทำให้ต้นทุนการเปลี่ยนย้ายโดยรวมลดลงหรือไม่?
เงื่อนไขในสัญญายาวขึ้นหรือสั้นลง?
ผลิตภัณฑ์มีการปรับให้เข้ากับลูกค้าเฉพาะรายมากน้อยเพียงใด?

๔) ขนาดที่มีประสิทธิภาพ
ถ้าขนาดตลาดโตขึ้น คู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาได้ง่ายหรือยาก?

๕)พลังของเครือข่าย
ผู้ใช้มีความผูกพันต่อแบรนด์มากน้อยแค่ไหน?
ลูกค้าสามารถได้รับประโยชน์อย่างเดียวกันนี้จากแบรนด์อืนๆหรือไม่
ตลาดของธุรกิจนั้นถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมตลาดแบบผู้ชนะกินเรียบหรือไม่?
ผู้ใช้สามารถสร้างเครือข่ายขึ้นมาเองโดยการร่วมมือกันตัดคนกลางออกไปได้หรือไม่?

การประเมินตำแหน่งในการแข่งขันให้ถูกต้องนั้น สำคัญยิ่งที่จะดูว่า "ที่มาของป้อมปราการของบริษัท" เปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปหรือไม่ มากกว่าที่จะดูเพียง "การเติบโตของรายได้เท่านั้น"


สินค้าโภคภัณฑ์ ผลิตสินค้าที่ไม่มีความแตกต่าง, "ราคา" คือทุกสิ่งสำหรับผู้บริโภค    ดังนั้น, ความสามารถที่จะผลิตด้วยต้นทุนต่ำกว่าราคาตลาดขณะนั้น ก็แทบจะเป็นวิธีเดียวที่จะได้ผลตอบแทนเหนือต้นทุนได้ เช่น มาจากขนาดการผลิตที่ใหญ่เครือข่ายครอบคลุม และกระบวนการผลิตที่ให้ประสิทธิภาพสูง
ความได้เปรียบจากต้นทุนต่ำที่ยั่งยืน คือหัวใจของผู้ชนะ

สินค้าและบริการเพื่อผู้บริโภค (Consumer Products)
แบรนด์ คือหัวใจของธุรกิจนี้ ให้นึกถึง โค้ก ไฮนส์ มาร์โบโร่  ลูกค้าเต็มใจจ่ายราคาแพงเพื่อให้ได้ใช้แบรนด์ที่ต้องการ
การประหยัดต่อขนาด (economy of scale) และได้อำนาจต่อรองที่ทำให้ต้นทุนของตนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีขนาดเล็กกว่า ระบบการกระจายสินค้าทำได้ดีก็มีส่วนช่วย ขยายส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น ที่สำคัญต้องหมั่นพัฒนาสินค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคต้องรู้สึกว่าการพัฒนานี้ได้เพิ่มคุณค่าเข้าไปในผลิตภัณฑ์ด้วย

พลังงาน ราคาโภคภัณฑ์มีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมพลังงาน และเป็นเหตุให้อุตสาหกรรมนี้มีความผันผวนตามวัฏจักรสูง โดยที่การเปลี่ยนแปลงของอุปทานและอุปสงค์เพียงเล็กน้อยสามารถมีผลกระทบวงกว้างต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และกำไรของบริษัทในระยะสั้น ดังนั้น #ความได้เปรียบทางต้นทุน จึงเป็นหัวใจของ ผู้ชนะ

ธุรกิจการเงิน มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ตั้งราคาเองไม่ได้ มีการตัดราคากันรุนแรง สิ่งที่บอกความได้เปรียบคือ เครือข่ายสาขาที่กว้างขวาง สะดวก หรือ มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นลึกซึ้งกับลูกค้า #ความได้เปรียบทางต้นทุน ก็ยังมีความสำคัญยิ่ง เพราะอำนาจการตั้งราคามีจำกัด จึงต้องอาศัยการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงจะได้เปรียบกว่าบริษัทอื่น

การดูแลสุขภาพ (Healthcare) สิทธิบัตรยาคือป้อมปราการที่เด่นชัดสำหรับบริษัทยา การวิจัยและพัฒนาคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังนั้น  แต่ก็ต้องไม่ลืมในเรื่องของขนาดที่มีประสิทธิภาพ และความได้เปรียบทางด้านต้นทุนด้วย

การจัดการขยะและของเสีย จะได้เปรียบก็ต่อเมื่อมีการควบคุมวงจรได้ครบ ต้องเป็นเจ้าของหลุมฝังกลบ เตาเผา และศูนย์รีไซเคิล
ความหนาแน่นของจุดเก็บตามเส้นทางเก็บขยะก็ถือเป็นอีกหนึ่งความได้เปรียบ

สาธารณูปโภค  ป้อมปราการคือ  สัมปทานจากภาครัฐ

แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม
หุ้นดีต้องมีคู สรุปเล่มนี้จากมุมมองของ ดร.นิเวศน์ http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/604950
กลยุทธ์ หุ้นดีต้องมีคู โดย ดร.นิเวศน์  http://mcot-web.mcot.net/fm965/site/streaming?id=5416b734be04705e2d8b45bc&type=audio#.VlwAp1grK8o

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks