สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

หุ้นกลุ่มเดินเรือจะกลับมาหรือยัง?


สืบเนื่องจากคลิปนี้นะครับ Asia Plus Securities เขาทำ Live ประเด็นเรื่องของหุ้นกลุ่มเดินเรือ
อัดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2560 แต่ผมเพิ่งได้ดูตอนปลายเดือนกุมภาพันธ์ นี่เอง
ซึ่งมันชวนให้ผมอยากดูกราฟว่าที่เขาให้ข้อมูลมานี้น่ะ มันสะท้อนอะไรไปบ้าง
โดยใจความหลักๆก็คือ เขาบอกว่าปีนี้ commodity เป็นขาขึ้น กลุ่มเดินเรือก็จะได้ประโยชน์ด้วย
โดยให้ความสำคัญกับดีมานด์จากจีนที่จะขนส่งพวกถ่านหิน สินแร่เหล็ก เหล่านี้ที่เป็นรายได้หลักของกลุ่มขนส่งทางเรือ ที่พี่จีนชอบใช้บริการเรือเทกอง

โดยให้รอดูหลังตรุษจีน จีนจะนำเข้าเพิ่มขึ้น

จริงแล้วกูรูเขาเน้นเชียร์หุ้น TTA นะ เพราะมองว่ามันมีสายป่าน แขนขาเยอะ มีธุรกิจเรือขุดเจาะน้ำมัน+วิศวกรรมสำรวจใต้น้ำ ถ้าราคาน้ำมันฟื้นตัว ธุรกิจนี้ก็ต้องเด้งตาม แถมยังมี UMS อีกตัวที่ทำธุรกิจถ่านหิน ซึ่งถ้าทุกอย่างลงล็อก TTA จะได้ประโยชน์มากมาย

อีกตัวที่กูรู พูดถึงคือ PSL ซึ่งก็ไม่ได้ให้ราคาอะไรนักเพราะมองว่าแพงไปแล้ว คือราคาวิ่งไปเกิน book value แถมต้นทุนหลักที่ใช้เดินเรือก็เป็นน้ำมัน เมื่อน้ำมันราคาขึ้นก็ต้องแบกค่าใช้จ่าย ซึ่งผลักให้ลูกค้าไม่ได้ด้วย จึงมองว่าไม่น่าจะกำไรใน 1-2 ปีนี้

RCL นี่ก็ถือว่ายังต่ำกว่า book value (11.34 บาท) พอสมควร

แต่เมื่อดูกราฟ จะเห็นว่า ตัวจี๊ดน่ะ ไม่ใช่ TTA กลายเป็น PSL กับ RCL
แม้กูรูจะมองว่า PSL มีราคาเหมาะสมคือเท่ากับ bookvalue เท่ากับ 8.50 แต่เมื่อดูราคาตอนนี้ก็ไม่หยุดที่ตรงนั้นนะ มันวิ่งเลยมาแล้ว โดยล่าสุดปิดที่ 10.50 (ตที่อัดคลิป แค่ 9 บาทเอง)
หากมองในมุมของนักลงทุน ก็เกินมูลค่า upside ไม่มี
แต่ถ้าจะมองแบบนักเก็งกำไร มันสื่อว่า หุ้นตัวนี้โมเมนตัมดีกว่า TTA เสียอีก

กราฟ PSL

เทียบกับ TTA

อีกตัว RCL

ที่ผมทำวงเล็บนั้น่ะ เป็นการนับเวฟแบบมั่วๆนะครับ อย่าใส่ใจมาก ลองดูเฉยๆ

จากทั้งสามชาร์ท จะเห็นเลยว่า PSL กับ RCL ออกตัวเข้าเกียร์เดินหน้าไปแล้วนะครับ แต่พี่ TTA ยังแค่สตาร์ทเครื่องเบาๆ เหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง

บางคนพอดูกราฟแล้วอาจรู้สึกว่าดูเหมือนมันจะวิ่งแรงไปแล้วมั้ง
แต่นี่เป็นกราฟ 1 ปีเท่านั้นนะครับ เดี๋ยวผมจะ wide ออกให้ท่านดูภาพใหญ่ 5 ปี

PSL นี่ถือว่ายังมีอุปสรรคใหญ่ขวางอยู่คือ gap ที่สร้างเอาไว้ตอนกลางปี 2015 คิดว่ามีชาวดอยเฝ้าคอยเวลาขายกันอีกมหาศาลแน่นอนครับ ระดับ 13.50 นี่คงไม่น่าจะผ่านได้ภายในครั้งเดียว

ส่วน TTA นี่ล่ะ หุ้นมหาชน ก็ไม่แพ้กันเลยครับ ชาวดอย รอคอยขอชีวิตคืนอีกเป็นล้าน

กลายเป็น RCL เสียอีกที่ดูเหมือนจะเบากว่าใคร แต่ก็ไม่ได้ง่ายเกินไปนัก


สุดท้ายมาดูสิว่าขนาดของตลาด ตัวไหนจะเบา หรือหนักกว่าใคร ผมดูที่จำนวนหุ้นกับ free float

PSL นี่ หุ้นก็เยอะพอสมควร free float 48% ก็เอาเรื่องพอใช้


TTA สมกับเป็นหุ้นมหาชน หุ้นเยอะกว่าใคร(แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก) ปัญหาคือรายย่อยถือเพียบ


RCL หุ้นน้อยสุด แถม free float ก็น้อยกว่าใครอีก



ก็มีเท่านี้แหละครับ ทำเอาไว้เป็นข้อมูลอ่านกันสนุกๆ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks