ทำไม PLTR มีศักยภาพที่จะเป็น true market leade

Image
เคล็ดลึกเทรดหุ้น True Market Leader จำหน่ายที่ https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM2MTk3ODt9 Randy Opper : “ผมยังเชื่อว่า PLTR เป็นผู้นำตลาดที่แท้จริง เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะขายหุ้นตัวนี้ออกไป” สรุปและอธิบายแบบเข้าใจง่ายสำหรับนักเทรดมือใหม่: PLTR คืออะไร? เป็นชื่อย่อของหุ้นบริษัท Palantir ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ บริษัทนี้ทำงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ซึ่งหลายองค์กรระดับโลกใช้งาน Randy กำลังบอกอะไร? เขากำลังเตือนนักลงทุนว่า อย่าเพิ่งตัดสินใจขายหุ้น PLTR แบบรีบร้อน เพราะเขายังเชื่อว่าบริษัทนี้ มีศักยภาพในระยะยาว และเป็น "ผู้นำตลาด" หรือ Market Leader ในกลุ่มของมัน สำหรับนักเทรดมือใหม่ควรคิดอย่างไร? ไม่ควรตัดสินใจจากแค่ราคาขึ้นหรือลงในระยะสั้น ควรศึกษาธุรกิจของบริษัทที่เราลงทุนให้ดีว่าเขามีศักยภาพระยะยาวไหม ฟังความคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ เช่น Randy ได้ แต่อย่าลืมวิเคราะห์ด้วยตัวเองด้วยนะ ข้อคิดที่ได้: "การเทรดไม่ใช่...

40 หลักไมล์ของเส้นทางนักเทรด จากนักเทรดมือใหม่สู่นักเทรดที่ร่ำรวย



40 หลักไมล์ของเส้นทางนักเทรด จากนักเทรดมือใหม่สู่นักเทรดที่ร่ำรวย
เรียบเรียงจาก 40 steps in the trader’s journey from new trader to rich trader. โดย Steve Burns

1. เรารวบรวมข้อมูล เราเรียนรู้ - ซื้อหนังสือ ถามคำถาม อาจจะไปสัมมนาและค้นคว้าว่าอะไรได้ผลจริงในการซื้อขาย

2. เราเริ่มซื้อขายด้วยความรู้ใหม่ที่เราค้นพบ

3. เราทำกำไรได้ แต่ก็คืนมันกลับอย่างรวดเร็ว และตระหนักว่าเราอาจต้องการความรู้หรือข้อมูลเพิ่มเติม

4. เรารวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม

5. เราเปลี่ยนตัวหุ้นที่เรากำลังติดตามและซื้อขายอยู่

6. เรากลับเข้าสู่ตลาดและทำการซื้อขายด้วยระบบที่ปรับปรุงใหม่ของเรา คาดหวังว่าครั้งนี้มันจะได้ผล

7. เรากลับเสียเงินมากขึ้น และเริ่มสูญเสียความมั่นใจว่าเราคงไม่อาจเป็นนักนักเทรดที่ดีได้ เราเข็ดต่อการขาดทุนแล้ว

8. เราเริ่มฟังนักเทรดคนอื่นและแนวทางที่เหมาะกับพวกเขา เราจำและเตรียมเอาไปใช้ตาม

9. เรากลับเข้าสู่ตลาดด้วยการเทรดตามแนวทางคนอื่น แต่ยังคงสูญเสียเงินมากขึ้น

10. เราตัดสินใจจะเปลี่ยนสไตล์ และวิธีการโดยสิ้นเชิง

11. เราตั้งหน้าตั้งตาค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมอีก

12. เรากลับเข้าสู่ตลาด และเริ่มเห็นพัฒนาการเล็กน้อย

13. เรารู้สึก 'มั่นใจมากเกินไป' ในการซื้อขายครั้งเดียวและลงเงินก้อนโตเกินไปโดยเชื่อว่ามันชัวร์ แต่แล้วตลาดก็ทำลายเงินของเราอย่างรวดเร็ว

14. เราเริ่มเข้าใจว่าการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จนั้นต้องใช้เวลาและความรู้มากกว่าที่เราคาดไว้ คนส่วนใหญ่จะยอมแพ้ ณ จุดนี้ เนื่องจากพวกเขาตระหนักว่างานนี้ต้องตั้งใจจริงเท่านั้น และที่สำคัญก็คือกำไรไม่ได้มาง่ายๆเลย

15. เราจริงจังและเริ่มจดจ่อกับการเรียนรู้ "กระบวนการเทรดที่ตั้งอยู่บนความคาดหวังที่สมจริง"

16. เราเทรดตามวิธีการของเราและได้กำไรมาบ้าง แต่ก็ยังตระหนักว่ามีจิ๊กซอว์บางอย่างที่ขาดหายไป

17. เราเริ่มเข้าใจถึงความจำเป็นในการมีกฎการเทรดสำหรับวิธีการของเรา

18. เราใช้วันหยุดเพื่อพัฒนาและศึกษากฎการเทรดของเราให้รัดกุมขึ้น

19. เราเริ่มเทรดอีกครั้ง คราวนี้ด้วยกฎที่รัดกุม ช่วยให้ได้กำไรมากขึ้น แต่โดยรวมแล้ว เรายังคงลังเลเมื่อต้องลงมือ

20. เราเพิ่ม ลด และแก้ไขกฎ เนื่องจากเราเห็นว่าจำเป็นต้องเชี่ยวชาญกฎของเรามากขึ้น

21. เรารู้สึกว่าเราใกล้จะผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของการเทรดที่ประสบความสำเร็จแล้ว

22. เราเริ่มรับผิดชอบต่อผลการซื้อขายของเรา เนื่องจากเราเข้าใจว่าความสำเร็จของเราขึ้นอยู่กับความสามารถของเราในการดำเนินการตามวิธีการของเรา

23. เรายังคงซื้อขายและมีความเชี่ยวชาญมากขึ้นด้วยวิธีการและกฎเกณฑ์ของเรา

24. ในขณะที่เราเทรด เรายังคงมีแนวโน้มที่จะละเมิดกฎของเรา และผลลัพธ์ของเรายังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้

25. เรารู้สึกว่าเราเข้าไกล้ความสำเร็จมากขึ้น

26. เรากลับไปศึกษากฎของเราอีกครั้ง

27. เราสร้างความมั่นใจในกฎของเราและกลับเข้าสู่ตลาดและทำการเทรด

28. ผลการซื้อขายของเราดีขึ้น แต่เรายังคงลังเลที่จะปฏิบัติตามกฎของเรา

29. ตอนนี้เราเห็นความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎของเรา เมื่อเห็นผลลัพธ์ของการเทรดเมื่อไม่ปฏิบัติตามกฎ

30. เราเริ่มเห็นว่าความล้มเหลวมาจากตัวเราเอง (การขาดวินัยในการปฏิบัติตามกฎเพราะความกลัวบางอย่าง) และเราเริ่มทำงานหนักเพื่อรู้จักตนเองดีขึ้น ด้วยการเรียนรู้จิตวิทยาการเทรด

31. เรายังคงเทรด และตลาดสอนเราเกี่ยวกับตัวเรามากขึ้นเรื่อย ๆ

32. เราเชี่ยวชาญวิธีการและกฎการซื้อขายของเรา

33. เราเริ่มทำเงินได้อย่างสม่ำเสมอ

34. เรามีความมั่นใจมากเกินไป และตลาดก็ทำให้เราขาดทุนหนักอีกครั้ง

35. เรายังคงเรียนรู้บทเรียนของเราต่อไป

36. เราเรียนรู้ที่จะลดขนาดการเทรดให้เล็กลงเพื่อลดดีกรีอารมณ์ของเราลง ดังนั้นเราจึงเทรดน้อยลงและสิ่งนี้ทำให้เราได้ผลงานดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจด้วยวินัยของเรา

37. เราเรียนรู้ว่าการจัดการความเสี่ยงเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการชนะในฐานะนักเทรด เราเริ่มเข้าใจว่าการขาดทุนครั้งใหญ่จะทำให้เราต้องเสียเวลา/ยากลำบากในการทำกำไรคืน ดังนั้นเราจึงเทรดด้วยขนาดที่เล็กลงและสม่ำเสมอ

38. เราหยุดเทรดตามความเห็น และเทรดตามแผนและกฎของเราเท่านั้น (ตอนนี้เราพบว่าการเทรดกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่กลับได้กำไรสม่ำเสมอ) และพอร์ตของเรายังคงเติบโตเมื่อเราเพิ่มขนาดเงินลงทุนเมื่อเราคิดถูกเท่านั้น

39. เราทำเงินได้มากกว่าที่เราเคยฝันไว้

40. ชีวิตการเทรดของเรายังดำเนินต่อไปและบรรลุเป้าหมายมากมายที่เราใฝ่ฝันมาตลอด เงินกลายเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้เราทำในสิ่งที่เราต้องการมาตลอด






7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap หุ้น & ทฤษฎี Gap หุ้น

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่