อีกแนวทางหา Relative Strength

Image
Alternate to Relative Strength Analysis — ฉบับแปลและเล่าเรื่องเข้าใจง่ายสำหรับนักเทรด แปลจาก  https://x.com/TannersTrades/status/1989117914021253218 เวลาที่กลุ่มหุ้นเติบโตหรือหุ้นธีมที่ผมเทรดอยู่เริ่มย่อตัว ผมมักถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วกลับมาโฟกัสกับการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ เพื่อมองหาว่ากระแสโมเมนตัมรอบถัดไปอาจเกิดขึ้นตรงไหน ในช่วงที่ตลาดยังไม่นิ่งและทุกอย่างดูคลุมเครือ แนวทางนี้ประกอบด้วยตัวชี้วัด 3 ส่วนสำคัญ: 1. ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงจุดสูงสุด (YTD Return to Highs) 2. เปอร์เซ็นต์การปรับตัวลงจากจุดสูงสุด (% Off Highs) 3. คะแนน Risk Adjusted Leadership Performance Heuristic หรือ RALPH เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมได้จัดทำภาพประกอบแสดงขั้นตอนทั้งหมดของการวิเคราะห์นี้ --- 1) เริ่มจากการดู % ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงจุดสูงสุด ข้อมูลชุดแรกช่วยให้เห็นว่าแต่ละตัวทำผลงานได้ดีแค่ไหนในช่วงปีที่ผ่านมา 2) จากนั้นดู % การย่อตัวจากจุดสูงสุด ทันทีที่ดูข้อมูลนี้ เราจะเห็น “การจัดลำดับใหม่” ของหุ้นแต่ละตัว ผมมักมองหาหุ้นที่ วิ่งแรงมาก แต่ย่อตัวกลับมาเพียงเล็กน้อย — หุ้นแบบนี้สะท้อนความแข็งแกร่งที่...

เซียนนักเทรดได้ได้เทรดเก่งแต่เกิด กฎการเทรดที่ผมช่วยยกมาตรฐานการเทรดที่สูงขึ้น


๑) ผมไม่ได้เทรดกำไรทันทีตั้งแต่วันแรกและปีแรก

๒) ผมก็ทำความผิดพลาดแบบเดียวกับที่มือใหม่ทำกัน เช่น

- ไล่ซื้อหุ้นที่วิ่งไกลจากจุดซื้อที่ดีมากเกินไป

- ไม่รีบตัดขาดทุนหุ้นผู้แพ้ในตอนที่ยังเสียหายน้อย ๆ

- ไม่มีการขายเก็บกำไรจากหุ้นผู้ชนะเมื่อได้กำไรก้อนงามและไม่มีการปกป้องเงินทุนในหุ้นผู้ชนะตัวนั้นด้วย

- ขยันเทรดในสภาวะตลาดที่เสียเปรียบ

- ไม่บุกหนักในยามที่ตลาดได้เงินง่าย

- หลงรักหุ้นจนไม่กล้าขายออกแม้มันจะขาดทุนยับก็ตาม

- ซื้อถัวเฉลี่ยขาดทุน

.

๓) หลังจากที่ผมประสบความสำเร็จ ปั้นพอร์ตมหาศาลจากตลาดหุ้น ก็มักจะมีคำถามว่า “ทำยังไงถึงก้าวผ่านช่วงเวลาที่ขาดทุนซ้ำซากในช่วง ๖ ปีแรกมาได้? โดยไม่หมดใจเลิกไปก่อนเหมือนคนอื่น”

ผมตอบเขาไปว่า “ผมเรียนรู้จากผลการเทรดของผม มองว่ามันเป็นบทเรียนที่ทรงคุณค่า โดยผมก็ยอมรับว่าเกมนี้มันยากแน่และควรจะยากด้วย 

แทนที่จะหมดใจหมดไฟเลิกล้มไปเมื่อหมดตัว ผมกลับใช้มันเป็นแรงใจให้ผมต้องพากเพียร เรียนรู้จากความผิดพลาดและยกระดับมาตรฐานตนเองให้สูงขึ้น”

.

๔) นี่คือกฎการเทรดที่ผมใช้ แล้วช่วยให้ผมมีมาตรฐานการเทรดที่สูงขึ้น

- ผมจะถือเงินสดรอคอยหน้าเทรดที่ผมได้เปรียบ โดยไม่ตั้งคำถาม เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น

- ผมจะเทรดโดยมี stop loss เสมอ และต้องเสียให้น้อยเท่านั้น

- ผมจะไม่ขยันเทรดในช่วงตลาดแย่

- ผมจะล็อกกำไรจากหุ้นผู้ชนะและจะไม่ปล่อยกำไรให้กลายเป็นขาดทุนเด็ดขาด

- ผมจะไม่มีทางถัวเฉลี่ยขาดทุนเด็ดขาด

.

๕) ไม่มีใครเกิดมาแล้วเทรดเก่งได้กำไรสม่ำเสมอทันที

ต้องใช้เวลากันทั้งนั้น

ถ้าคุณให้เวลามากพอ คุณก็มีโอกาสเทรดได้กำไรสม่ำเสมอแน่นอน

ไม่ว่าตอนเริ่มต้น-คุณจะเป็นครู คนขับรถ วิศวกร หมอ ทนายความ ช่างซ่อม หรือแม้แต่ยังตกงานอยู่ - คุณก็ต้องนับหนึ่งในระดับอนุบาลเหมือนกัน - คุณก็ต้องเจอช่วงเวลาที่ขาดทุนซ้ำซากเหมือนกัน

.

ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ชี้วัดใครจะประสบความสำเร็จ จึงไม่ใช่แค่ความรู้ แต่มันเป็น "ขวัญกำลังใจ" เป็น "ความศรัทธาในตนเอง"

"คุณคือสิ่งที่คุณเชื่อ"

เชื่อผม ว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะสำเร็จได้

ขอแค่คุณเชื่อมั่นในตนเอง คุณก็มีดีพอที่จะสำเร็จได้แน่นอน

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น