สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

What I Learned Losing a Million Dollars : สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการขาดทุน

โดย เซียว จับอิดนึ้ง : facebook.com/zyoit


หนังสือเล่มนี้เขียนถึงเรื่องราวของ Jim Paul เทรดเดอร์ใน wallstreet ที่เริ่มต้นจากการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นก็ขาดทุนมากกว่าล้านดอลล่าร์ในการเทรดถั่วเหลือง(soybean-oil spread trade)

ซึ่งจากความผิดพลาดในครั้งนั้น เขาก็ได้บทเรียนจากมันอย่างมากมาย เขาพบว่าแม้ว่ามีหลายวิธีการหลายตลาดที่แตกต่างกันในการทำเงินจากการเทรด แต่นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จทุกรายมักจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมความสูญเสีย

จากประสบการณ์นี้เขาได้สรุปถึงความจำเป็นในการพัฒนาและทำตามแผนการที่เหมาะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกำหนดแนวทางการหนี(exit)ก่อนที่จะมีการเข้าซื้อ(enter) จนกลายเป็นหนังสือเล่มนี้

เล่มนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีแผนการเทรดและเป็นมืออาชีพแล้ว แต่มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรดก็ควรจะอ่าน เพราะจะได้มุมมองไปใช้ในการเข้าเทรดของคุณ
ถ้าคุณนำอารมณ์ไปใช้ร่วมกับการเทรดโดยที่ไม่มีการวางแผนที่เหมาะสม คุณก็อาจจะประสบกับหายนะแบบเขา

การเรียนรู้วิธีการไม่ให้ขาดทุนมีความสำคัญมากกว่าการเรียนรู้ที่จะทำกำไร
- ในตลาดมีวิธีการมากมายในการทำเงินอย่างต่อเนื่อง เพราะมีคนแนะนำบอกแนวทางกันมากมาย แต่แนวทางของการขาดทุนนั้นมีไม่มาก
- การขาดทุนในตลาดหุ้นมาจากสาเหตุ 2 อย่างนี้
๑) ความผิดพลาดจากการวิเคราะห์
๒) ความผิดพลาดจากการประยุกต์ใช้
การวิเคราะห์ตลาดเพื่อทำเงินไม่มีวิธีการใดที่ดีที่สุด ดังนั้นอย่าเสียเวลาเพื่อศึกษาหาแนวทางวิเคราะห์มากมาย แล้วคัดเอาสิ่งที่ดีที่สุดเลย สิ่งที่ควรศึกษาคือปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้หรือแนวทางในการวิเคราะห์ต่างหาก

นักเทรดขาดทุนได้อย่างไร?
๑) ขาดทุนเพราะนักเทรดเอง
- มันเป็นเรื่องง่ายที่จะทนถือหุ้นที่ขาดทุนเอาไว้ เพราะว่าพวกเขาคิดว่าการขาดทุนนั้นทำให้เขาสูญเสียชื่อเสียงและความภาคภูมิใจนี่คือ Egoซึ่งมันมักจะชักนำให้นักเทรดต้องขาดทุนอยู่ตลอดเวลา
๒) เมื่อนักเทรดประสบกับการขาดทุนมันจะนำพาพวกเขาก้าวไปสู่อารมณ์ 5 ระยะ ที่จะทำให้พวกเขาขาดทุนมากกว่าเดิม

- ปฏิเสธ : พวกเขามองหาความเห็นที่สอง และพยายามบังคับตัวเองให้เชื่อใครก็ได้ที่ยืนยันว่าความคิดที่ไม่ขายขาดทุนของเขายังถูกต้องอยู่
- โกรธ : เริ่มแสดงความไม่พอใจต่อตลาดหรือคนอื่นๆที่ทำให้เขาต้องซื้อหุ้นตัวนั้น
- ต่อรอง : มีการต่อรองว่าจะขายหุ้นออกเมื่อราคาดีดกลับไปถึงต้นทุน
- ซึมเศร้า : แยกตัวเองออกจากคนอื่น หมดความสนใจในทุกๆสิ่ง หมดความสามารถในการโฟกัส
- ยอมรับ : ในที่สุดก็ยอมรับตัวเองว่าไปต่อไม่ไหว และต้องขายขาดทุน หรือถูกบังคับให้ขายขาดทุนโดย margin call

พัฒนาแผนและปฏิบัติตามแผน
- คุณต้องมีวิธีการที่จะถอนตัวเองไม่ให้ฝังใจประสบการณ์เลวร้าย(ขาดทุนยับ)ในครั้งก่อน คุณต้องพยายามเข้าใจตลาดในขณะที่คุณกำลังตัดสินใจจะลงมือ และต้องรักษาความเป็นกลางในขณะที่คุณกำลังเทรด นั่นคือคุณต้องมีแผน
- คนทั่วไปมักจะล้มเหลวในการประยุกต์ใช้แนวทางของตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาไม่มีการวางแผนในการควบคุมความเสี่ยง
- ถ้าคุณไม่ได้มีการคิดวางแผนก่อนที่จะเทรด คุณก็แค่เป็นนักพนันหรือนักแทงหวย ตอนนั้น Ego จะเป็นผู้มีอิทธิพลในการควบคุมแนวทางในการตัดสินใจของคุณ มันจะเป็นการใช้อารมณ์ล้วนล้วนๆ ถ้าอารมณ์เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจคุณก็จะกลายเป็นแมลงเม่าที่เป็นเหยื่อของคนฉลาด

องค์ประกอบของแผน
๑) คุณต้องเลือกว่าคุณเป็นนักเทรดประเภทไหน
- คุณเป็นนักลงทุน หรือนักเก็งกำไร?
- ตลาดที่คุณจะเข้าไปเทรดเป็นแบบไหนมันต้องสอดคล้องกับการใช้ชีวิต และเวลาที่เหมาะสมกับคุณด้วย
๒) เลือกวิธีการวิเคราะห์
- ต้องเอาสักอย่าง ไม่ข้ามไปข้ามมาใช้หลายวิธี โดยเฉพาะใช้เป็นหลักฐานที่จะสนับสนุนให้ต้องทนถือหุ้นที่ขาดทุน
๓) พัฒนากฎ
- กำหนดกฎที่เหมาะสมกับตัวคุณ และมันต้องได้รับการพิสูจน์จากตัวคุณว่ามันเอาไปใช้หาโอกาสที่สามารถใช้ซ้ำได้ ที่สำคัญก็คือคุณต้องสามารถระบุจุดเข้าและจุดออกได้ก่อนที่จะใช้เงินเทรดจริง
๔) สร้างแนวทางการควบคุมให้ทำตามกฎ
- กำหนดกฎเกณฑ์ของการขายหุ้นตัวนั้น ที่มีทั้งการขายทำกำไรและขายตัดขาดทุน เอาไว้ล่วงหน้า
- ก่อนที่คุณจะใช้เงินจริงเพื่อเทรดคุณต้องตัดสินใจได้ว่า จะซื้อที่ราคาไหน, ซื้อเมื่อไหร่ และทำไมถึงซื้อ รวมถึงเมื่อไหร่ที่คุณจะต้องขายออก

ที่มา https://whatheheckaboom.wordpress.com/2015/09/27/book-review-of-what-i-learned-losing-a-million-dollars-by-jim-paul-and-brendan-moynihan/


-------------------------------------------
----------------------
----------------------
สนับสนุนโดยหนังสือหุ้นเทคนิคอลที่ปล่อยของแบบไม่มีกั๊ก
หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่ และ หุ้นซิ่ง สวิงเทรด



ทำไมใครๆต่างบอกว่าหนังสือหุ้นทั้งสองเล่มเป็นการปล่อยของแบบไม่กั๊ก?
อ่านที่มาจากบทความนี้ครับ หนังสือหุ้นเทคนิคอลที่ปล่อยของแบบไม่มีกั๊ก

สนใจติดต่อสั่งซื้อหนังสือหุ้นทั้งสองเล่ม
ที่เพจ Zyo Books : facebook.com/zyoboooks


"ส่งข้อความ" สั่งได้ที่เพจ zyobooks : facebook.com/zyobooks ครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks