นักเทรดทุกคนสามารถหาผู้ชนะได้ แต่เหตุใดจึงมีเพียงไม่กี่รายที่ทำเงินได้ในระยะยาว? (ส่วนใหญ่รู้วิธีทำเงินแล้ว แต่ทำไมปั้นพอร์ตไม่ได้เสียที?) เหตุผลหลักสำหรับผมคือ พวกเขาไม่มี Mindset ในการรักษาขนาดความสูญเสียให้น้อยกว่าขนาดของกำไรที่ได้มา (นี่คือเรื่องของ Positive Expectancy) เมื่อเรามีปัญหาในการยอมรับเบสิคของการเทรด ..เราก็คิดผิดไปครึ่งหนึ่งแล้ว อย่าทำให้เบสิคในการทำเงิน...ซับซ้อนเกินไป - Anthony Crudele Positive Expectancy คือเบสิคที่สำคัญของการเทรดครับ มันช่วยให้งานการเทรดของคุณง่ายขึ้น โดยเฉพาะ Mindset (((เรื่องของ Positive Expectancy มีอยู่ในหนังสือ เทรดแบบทำธุรกิจ, จิตวิทยานักเทรด และ ปั้นพอร์ต)))
ความต่างของนักเทรดที้เปลี่ยนกลยุทธ์ไปเรื่อย กับ คนที่มุ่งมั่นเชี่ยวชาญกลยุทธ์เดียว
- Get link
- Other Apps
ความต่างของนักเทรดที้เปลี่ยนกลยุทธ์ไปเรื่อย vs คนที่มุ่งมั่นเชี่ยวชาญกลยุทธ์เดียว
๑) (เส้นสีดำ) นักเทรดที่ไล่ล่าหา Holy Grail ด้วยการเปลี่ยนกลยุทธ์ไปเรื่อย ใช้แล้วขาดทุนก็เปลี่ยนใหม่ ใครว่าดีก็เปลี่ยนไปตามเขา พอใจระยะสั้นที่ได้เปลี่ยน เสียเงินเสียเวลา ย่ำอยู่กับที่ไม่มีพัฒนาการที่จำเป็นต่อความสำเร็จระยะยาว ต่ผลสุดท้ายคือ "เจ๊งยับ"
๒) (เส้นสีแดง) นักเทรดที่ยืนหยัด เลือกสไตล์เดียว โฟกัสไปที่เรียนรู้และพัฒนา ให้เวลาในการปรับปรุง ลดจุดอ่อน เสริมจุดแข็ง ในที่สุดเมื่อทุกอย่าลงตัว เขาสามารถทำกำไรได้ซ้ำ ๆ ในกลยุทธ์เดิมที่ถูกพัฒนามาให้เหมาะสมกับตัวเองที่สุด เขาจะมีผลงานการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ #ปั้นพอร์ต ให้เติบโต มั่งคั่งในที่สุด
- Get link
- Other Apps
7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา
รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave
อัพเดทไอเดีย อีเลียตเวฟทุกวันที่ facebook.com/tradernumber7books แนะนำบล็อกใหม่ของผม https://moneyezway.com/ วิธีการใช้ RSI ประกอบการนับเวฟ โดยคุณ Kitty63 http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2008/09/I6994935/I6994935.html Impulsion Pattern - จะประกอบด้วย 5 คลื่นหลัก คือ 1-2-3-4-5 ( ผมขอใช้ขาขึ้นเป็น model นะครับ ส่วนขาลงก็จะเหมือนกันแต่มีทิศทางลง) โดยคลื่นที่ 1 จะเริ่มวิ่งขึ้นไปหลังจากจบ wave-C ของ รอบก่อนแล้ว มักจะวิ่งขึ้นเร็ว แต่ volume ยังไม่มากนัก ค่า RSI-14 มักจะวิ่งขึ้นมาจากแถว 30 ขึ้นไปแถว 65-70 ซึ่งผมมักจะใช้ค่า RSI และนับจำนวนคลื่นย่อยว่าเป็น 5 คลื่นย่อยใช่หรือไม่ หากครบทั้ง 2 กรณี ก็อาจจะเป็น wvae-1 ได้ แต่หากค่า RSI-14 สูงสุดได้แค่ 50-60 ก็อย่าหวังว่าจะเป็น wave-1 เลยน่าจะเป็น wave-X แล้วจะลงไปทำ wave-a ต่อไปแทน อันนี้แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน ผมไม่ยืนยันว่าถูกหรือผิด ขอเป็นความเห็นส่วนตัวแล้วกันนะครับ ******** แนะนำบทความรวมคลิป = คอร์สหุ้นออนไลน์ ชมฟรีครับ ที่ช่องยูทูปของ zyo https://www.zyo71.com/2021/11/free-full-trading-course-by-zyo.ht
ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo
มีคนถามมาเหลือเกินว่า "คุณ zyo มีคอร์สสอนมั้ย?" มีครับ ท่านสามารถ/เรียนออนไลน์ จากยูทูปได้เลย ฟรีด้วยครับ ไม่มีราคาที่ต้องจ่ายเลย ถือเป็น " ความรู้การเทรด/การเล่นหุ้น " ที่ " รุ่นพี่ ส่งต่อให้รุ่นน้อง " ก็แล้วกันนะ เพราะผมเองก็มีวันนี้ได้เพราะ ความรู้การเทรดฟรี ๆ จากโลกออนไลน์นี่แหละ ผมเอาไปเป็นครูพักลักจำ เรียนรู้ ด้วยตนเองล้วน ๆ ครับ วันนี้ ผมพอตั้งหลักได้แล้ว จึงอยากส่งต่อความรู้ให้รุ่นน้องเอาไปประยุกต์ใช้ต่อไปครับ ใครอยาก เรียนหุ้นออนไลน์ฟรี เรียนหุ้นแนวเทคนิค คอร์สหุ้นราคาถูก (เพราะฟรี) คอร์สเรียนหุ้นมือใหม่ ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ และ มีประสบการณ์อยู่บ้าง รับรองว่าคุ้มค่ากว่าจ่ายเงินแน่นอน นักเทรด/เล่นหุ้นที่มือใหม่ที่เจอบทความนี้ โคตรโชคดี ผมบอกเลย แต่ทั้งนี้ ต้องบอกท่านแบบแฟร์ ๆ ก่อนนะ ว่าความรู้ในการเล่นหุ้น/เทรดที่ผมส่งต่อให้ท่านต่อไปนี้ มันเป็นเสมือนเรือที่มีรูรั่วอยู่ทั้งลำ มันไม่สามารถพาคุณไปถึงฝั่งได้แน่ ถ้าคุณไม่หารูรั่วให้เจอด้วยตัวเอง หาให้เจอแล้วอุดให้ได้มากที่สุด ผ่านการปฏิบัติจริง ใครอุดได้มาที่สุด เขาก็จะไปถึงฝั่ง(ความสำเร็จ)ได้ไวกว
อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ
ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนถึง Dan Zanger ที่ใช้ความรู้ของ Wyckoff ในการทำเงิน เลยมีอีกบทความที่ต่อเนื่องกันมาเพิ่มเติม ซึ่งเชือว่าส่วนใหญ่น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วเพราะเป็นความรู้พื้นฐานของการเก็งกำไร ก็ถือเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนก็แล้วกัน ******** แนะนำบทความรวมคลิป = คอร์สหุ้นออนไลน์ ชมฟรีครับ ที่ช่องยูทูปของ zyo https://www.zyo71.com/2021/11/free-full-trading-course-by-zyo.html *********** Wyckoff Method เป็นการนำเสนอภาพของวงจรการทำราคาหุ้น เริ่มตั้งแต่ สะสม-ไล่ราคา-แจกจ่าย-ทุบ แล้วกลับไปเริ่มที่ สะสมเพื่อไล่ราคาอีกครั้ง เพราะคุณ Richard D. Wyckoff เจ้าของทฤษฎีเขามองว่า การเล่นหุ้นก็เหมือนกับธุรกิจซื้อมาขายไปดีๆนี่เอง คือกว้านซื้อของราคาถูกๆเอาไว้เยอะๆเพื่อเก็บเอาไปขายในตอนที่ราคาแพงๆ โดยสิ่งที่จะทำให้ของราคาแพงก็คือ "ข่าว" เพราะคนจะมีความต้องการซื้อมากก็จะไล่ราคากัน ดังนั้น main idea ของทฤษฏีนี้ก็คือการทำความเข้าในช่วง "สะสม" หรือ Accumulation เป็นหลัก เพราะมันเป็นสาเหตุ(Cause) อันจะนำไปสู่ผล(Effect)คือ ไล่ราคาและแจกจ่าย อันเป็นหนึ่งในกฎพื้นฐาน 3 ข
กว่าจะเป็น Dan Zanger นักสวิงเทรด ผู้ปั้นพอร์ตจาก $10,775 ไปเป็น $18,000,000
Daniel J. Zanger เกิดที่ Los Angeles แม้ว่าพ่อแม่ของเขาจะเป็นมืออาชีพ(พ่อเป็นแพทย์, แม่เป็นนักจิตวิทยา) แต่เขากลับเรียนไม่จบวิทยาลัย ต้องออกไปทำงานเป็นผู้รับเหมาสระว่ายน้ำ เขาเริ่มให้ความสนใจในการเล่นหุ้นในปี 1978 แล้วจากนั้นก็ให้ความตั้งใจต่อการเล่นหุ้นอย่างจริงจัง เขาซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อเทรดและศึกษากราฟหุ้น ตั้งแต่ปี 1998 จนถึง 2000 คุณสามารถเห็นหนุ่มแดนเกาะติดหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนๆร่วมครึ่งโหล สายตาจับจ้องกราฟหุ้น 40-60 ตัว เพื่อรอดูการ Breakout แพทเทิร์นต่างๆ ที่มาพร้อมกับวอลลุ่ม เพื่อที่เขาจะใช้โอกาสนั้นเป็นจุดซื้อ และจะขายเมื่อราคาหุ้นนั้นทะลุ pattern ลง เมื่อเขาตัดสินใจซื้อหรือขาย กลุ่มเพื่อนก็จะทำตามเขา แต่มาวันนี้เพื่อนๆเหล่านั้นก็หายหมด จนเหลือเขาเพียงคนเดียวที่ยังเทรดอยู่ ซึ่งเพื่อนเขาโดยส่วนใหญ่นั้นมักจะถอดใจไปก่อน หรือหมดความมุ่งมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่ขาดทุนหรือพบว่าตลาดเล่นยาก ทำงานหนัก ทุ่มเทเพื่อที่จะเอาดีให้ได้ เขาใช้เวลานับ 10 ปีในการเรียนรู้วิธีการที่จะเทรดให้ได้กำไรแน่นอนว่าเขาต้องขาดทุนเป็นจำนวนมาก แต่กระนั้นเขาก
Positive Expectancy คือเบสิคที่สำคัญของการเทรด
นักเทรดทุกคนสามารถหาผู้ชนะได้ แต่เหตุใดจึงมีเพียงไม่กี่รายที่ทำเงินได้ในระยะยาว? (ส่วนใหญ่รู้วิธีทำเงินแล้ว แต่ทำไมปั้นพอร์ตไม่ได้เสียที?) เหตุผลหลักสำหรับผมคือ พวกเขาไม่มี Mindset ในการรักษาขนาดความสูญเสียให้น้อยกว่าขนาดของกำไรที่ได้มา (นี่คือเรื่องของ Positive Expectancy) เมื่อเรามีปัญหาในการยอมรับเบสิคของการเทรด ..เราก็คิดผิดไปครึ่งหนึ่งแล้ว อย่าทำให้เบสิคในการทำเงิน...ซับซ้อนเกินไป - Anthony Crudele Positive Expectancy คือเบสิคที่สำคัญของการเทรดครับ มันช่วยให้งานการเทรดของคุณง่ายขึ้น โดยเฉพาะ Mindset (((เรื่องของ Positive Expectancy มีอยู่ในหนังสือ เทรดแบบทำธุรกิจ, จิตวิทยานักเทรด และ ปั้นพอร์ต)))
ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?
ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆสมาชิกมีความสงสัยหรือไม่เคลียร์เกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าฐานราคา "Cup with Handle" แบบผมหรือเปล่า ยอมรับออกสื่อเลยว่าผมเป็นคนหนึ่งที่มองไม่ออกว่าแบบไหนที่ใช่ แบบไหนที่เรียกว่าสมบูรณ์ คือผมรู้สึกว่ามันเป็นแพทเทิร์นที่ " อาร์ต " มากครับ งงมาตลอดว่าเซียนเขามองออกได้ไง ******** แนะนำบทความรวมคลิป = คอร์สหุ้นออนไลน์ ชมฟรีครับ ที่ช่องยูทูปของ zyo https://www.zyo71.com/2021/11/free-full-trading-course-by-zyo.html *********** จึงขอใช้พื้นที่นี้รวบรวมข้อมูลมาอ่านและศึกษาพร้อมกัน ออกตัวก่อนว่านี่เป็นข้อสังเกตุแบบมั่วๆเม่าๆของผมเท่านั้นนะ ใครมีไอเดียที่นอกเหนือจากนี้แชร์มาทางคอมเมนต์ทางเฟสบุคได้เลยนะครับ ทำไมต้องเป็น Cup with Handle? เพราะปู่โอนีลบอกว่ามันเป็นฐานราคาที่ทรงประสิทธิภาพมาก(คือมีโอกาสไปต่อสูง) ดังนั้นถ้าเรารู้จักมัน โอกาสในการเจอหุ้นดี วิ่งแรงและเร็ว ก็น่าจะมากขึ้นก็ได้ แล้ว Cup with Handle มีหน้าตายังไง? ดูรูปข้างล่างเลยครับ แล้วแบบไหนที่จะเรียกว่า "สมบูรณ์"? ตรงนี้ก็ถือเป็นเครืองหมายคำถามตัวใหญ่เหมือนกันครับ ถ้าคัด
มโน Darvas Box หน้าตาจะเป็นยังไง?
จากบทความที่แล้ว ผมได้ สรุปหนังสือ How I Made $2,000,000 In The Stock Market ที่เป็นงานของทวด Darvas ไว้ให้เรียกน้ำย่อยไป ก็อยากจะเสริมส่วนที่เป็นไอเดียทางเทคนิคอลเอาไว้ให้คิดต่อเล่นๆในบทความนี้ โดยส่วนตัวมองว่า สิ่งที่ทวดดาร์วาสได้ค้นพบนั้น มันมีประโยชน์ต่อการจุดประกายแนวคิดในทางเทคนิคอลเป็นอย่างมาก นี่คือหนึ่งในต้นเทรนด์ของการเทรดแนวเทคนิคอลเลยก็ว่าได้ แต่กระนั้น, ปัญหาคือถ้าเราอ่านหนังสือของเขา เราจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับกราฟน้อยมาก คือเดาหน้าตาของมันไม่ออกเลย เพราะผมคิดว่าในช่วงนั้นกราฟน่าจะยังไม่เป็นที่แพร่หลาย หรืออาจจะยังไม่มีใครใช้ด้วยซ้ำ แกก็เลยต้องอธิบายเป็นคำพูดแทน จึงทำให้คนรุ่นหลังได้แต่นึกเดาเอาว่าสิ่งที่แกสังเกตุเจอแล้วตั้งเป็นทฤษฎีกล่องนั้น มันจะเป็นยังไง เมื่อเป็นเช่นนี้, งานมโน ต้องมาครับ เดี๋ยวผมจะลองฝันกลางวันแบบระเบิดภูเขาเผากระท่อมให้ท่านได้อ่านกัน โดยจะเริ่มต้นจากไอเดียต้นตำรับ ต่อไปจะเอาไปชนแกะกับการ follow buy และออกทะเลไปสู่ทฤษฎีดาว รวมถึง price pattern ที่อยู่ในกล่องนั้น ก็ไม่ต้องไปจริงจังอะไรมากนะ ผมก็โม้ไปเรื่อย เอาเท่าที่ได้ หลักการของแ