สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ
![Image](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjziPw0iRNtRi-kEDbQ3P-5qkHbCb9d-VHnhmAySwYnO-mkgwiDDUHDeFYHUI3BrOT55qoN6CD2sUlMzfa_u0LImGQYe0CI4M93WAWq4-XTPp_xbdqsgiUORxWyRKibEie_fWMU2MlYCFLRlQ-Vu-9Fhyphenhyphenrl1OjvD19z0Ad_YirkVtMn1yAUqwukqRorD5Y/w640-h602/Screenshot%202024-07-26%20074007.png)
ผมได้เรียนรู้บางสิ่งจากการทำธุรกิจ คือ ถ้าผมทำการบ้าน และควบคุมอารมณ์ได้ดี
ผมสามารถได้ทุกอย่างที่ต้องการ
- แดน แซงเจอร์
งานของนักเทรดคือการรอโอกาสที่ดีที่สุด
เงินกำไรได้มาจากการติดตามและนั่งดู ไม่ใช่การไล่ล่าหุ้นร้อนทุกตัวทุกวัน
- แดน แซงเจอร์
นักเทรดบางคนเชื่อว่าปัจจัยสำคัญของการเทรดก็คือการเทรดชนะทุกตา
ซึ่งมันตลกมากเลย เพราะกำไรของผมมาจากการเทรดชนะไม่ถึง 30% ของทั้งหมดเท่านั้น
- แดน แซงเจอร์
ผมต้องยอมรับว่าผลของการขาดทุนต่อเนื่องในช่วงนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมันทำให้เกิดการปรับปรุงกระบวนการความคิดและวิธีการเทรดของผมตอนนี้ผมจึงไม่เชื่อสตอรี่หรือเรื่องราวใดๆของหุ้นไม่เชื่อข่าวลือและไม่เชื่อข่าวตามหนังสือพิมพ์อีกต่อไปทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมจะต้องรู้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของราคาหุ้นและ volume เท่านั้นข้อมูลที่เหลือเป็นแค่สิ่งรบกวนสำหรับผม
ถ้าคุณไม่สามารถยอมรับการตัดขาดทุนเล็กๆน้อยๆได้ ให้หางานใหม่ทำซะ
เพราะการตัดขาดทุนมันเป็นส่วนหนึ่งของเกม
การถือหุ้นข้ามวันประกาศผล ถือเป็นเรื่องเสี่ยงอย่างยิ่ง
นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมขายมันออกไปก่อน
เพราะอย่างน้อยคุณก็สามารถเลี่ยงการเปิด gap ลงแรงได้
การเจ๊งหุ้นได้ให้บทเรียนผม ว่าผมต้องพยายามสู้ เพื่อกลับมารวยให้ได้
นั่นเป็นต้นตอให้ผมทำเงินจาก $10,775 เป็น $18,000,000 ในเวลา 2 ปี และทำให้ผมมีวันนี้
แนะนำบทความรวมคลิป = คอร์สหุ้นออนไลน์