อีกแนวทางหา Relative Strength

Image
Alternate to Relative Strength Analysis — ฉบับแปลและเล่าเรื่องเข้าใจง่ายสำหรับนักเทรด แปลจาก  https://x.com/TannersTrades/status/1989117914021253218 เวลาที่กลุ่มหุ้นเติบโตหรือหุ้นธีมที่ผมเทรดอยู่เริ่มย่อตัว ผมมักถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วกลับมาโฟกัสกับการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ เพื่อมองหาว่ากระแสโมเมนตัมรอบถัดไปอาจเกิดขึ้นตรงไหน ในช่วงที่ตลาดยังไม่นิ่งและทุกอย่างดูคลุมเครือ แนวทางนี้ประกอบด้วยตัวชี้วัด 3 ส่วนสำคัญ: 1. ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงจุดสูงสุด (YTD Return to Highs) 2. เปอร์เซ็นต์การปรับตัวลงจากจุดสูงสุด (% Off Highs) 3. คะแนน Risk Adjusted Leadership Performance Heuristic หรือ RALPH เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมได้จัดทำภาพประกอบแสดงขั้นตอนทั้งหมดของการวิเคราะห์นี้ --- 1) เริ่มจากการดู % ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงจุดสูงสุด ข้อมูลชุดแรกช่วยให้เห็นว่าแต่ละตัวทำผลงานได้ดีแค่ไหนในช่วงปีที่ผ่านมา 2) จากนั้นดู % การย่อตัวจากจุดสูงสุด ทันทีที่ดูข้อมูลนี้ เราจะเห็น “การจัดลำดับใหม่” ของหุ้นแต่ละตัว ผมมักมองหาหุ้นที่ วิ่งแรงมาก แต่ย่อตัวกลับมาเพียงเล็กน้อย — หุ้นแบบนี้สะท้อนความแข็งแกร่งที่...

ทำไมคุณเทรดมานาน…แต่ผลลัพธ์ยังไม่ต่างจากวันแรก?


https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM3MzIxNzt9


ทำไมคุณเทรดมานาน…แต่ผลลัพธ์ยังไม่ต่างจากวันแรก?

คุณอาจเริ่มเทรดมาหลายเดือน หรือบางคนหลายปี

เปิดกราฟทุกวัน ดูคลิปเทรดวันละหลายชั่วโมง

ลองระบบนับไม่ถ้วน — แต่สิ่งหนึ่งกลับไม่เปลี่ยน…


“พอร์ตยังไม่โต กำไรยังไม่มั่นคง และความมั่นใจก็ยังแกว่งเหมือนเดิม”


ถ้าใช่… คุณไม่ได้เป็นคนเดียวครับ

แต่นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า คุณกำลังติดอยู่ใน “วงจรลวงของการเรียนรู้”


วงจรลวงของคนเทรดขยัน (แต่ไม่โต)

เทรด-แพ้-เปลี่ยนระบบ-ลองใหม่

เสพความรู้มากกว่าการพัฒนาตัวเองจริงๆ

มองหาทางลัด แทนที่จะวางระบบระยะยาว

สิ่งเหล่านี้ไม่ผิด…แต่มันไม่พอ


เพราะการจะเก่งขึ้น ไม่ได้มาจาก “ทำมากขึ้น”

แต่มาจาก “ทำอย่างถูกต้อง” แล้ว พัฒนาแบบสม่ำเสมอ


จุดบอดที่มือใหม่ (และบางคนที่เทรดมานาน) มักมองข้าม

✅ ไม่เคยรีวิวการเทรดของตัวเอง

เทรดไปแต่ไม่เคยหันกลับมาดูว่า “เราเทรดตามแผนไหม?”

พอไม่รีวิว = ไม่รู้ว่าควรปรับตรงไหน


✅ วัดผลแบบไม่มีระบบ

ดูแค่กำไร-ขาดทุน โดยไม่เข้าใจว่า "คุณภาพการตัดสินใจ" ดีขึ้นไหม


✅ ไม่มีนิสัยที่ช่วยให้เติบโตในระยะยาว

เช่น การบันทึกการเรียนรู้ การเขียน Journal หรือการวางเป้าหมายประจำสัปดาห์


แล้วจะพัฒนาผลลัพธ์ให้ดีขึ้นได้ยังไง?

คำตอบอาจไม่ใช่คอร์สราคาแพง หรือระบบใหม่ล่าสุด

แต่มันคือการใช้หลัก Kaizen — การพัฒนาแบบ 1% ต่อวัน


หลักการง่ายๆ ที่ใช้ได้จริง:

ทุกวันจบการเทรด: ให้เวลาตัวเอง 5 นาทีรีวิวการตัดสินใจ

ทุกสัปดาห์: ประเมินว่าเราทำอะไรได้ดีขึ้นจากสัปดาห์ก่อน

ทุกเดือน: วางเป้าหมายใหม่เล็กๆ ที่ท้าทาย แต่ทำได้จริง


อย่าเทรดเพียงเพราะ “ต้องเทรด” — ให้มีเป้าหมายการฝึกทุกครั้งที่เข้าออเดอร์

ฟังดูเรียบง่าย แต่ เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์จะเปลี่ยนแบบพลิกหน้ามือ


เปลี่ยนจาก “เทรดมานาน” → “เทรดแล้วโตขึ้นจริง”

ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ และรู้สึกว่า

“ใช่เลย นี่แหละคือสิ่งที่ผมยังไม่ได้ทำ”

ผมอยากแนะนำให้คุณลองอ่านอีบุ๊ก Kaizen Trader ครับ


หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกคุณว่าจะ “รวยไว”

แต่มันจะช่วยคุณวาง “ระบบการพัฒนาตัวเองแบบยั่งยืน”

ให้คุณเทรดได้ดีขึ้นจริง แม้ยังไม่ได้เปลี่ยนกลยุทธ์เลยสักนิด


เพราะในระยะยาว… คนที่เติบโตทุกวัน ย่อมแซงหน้าคนที่ “พยายามฮึดครั้งเดียว”


📘 ดาวน์โหลดอีบุ๊ก “Kaizen Trader” ได้ที่นี่ → 

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM3MzIxNzt9


อย่าเสียเวลาอีกปี ไปกับการเทรดแบบเดิม

เริ่มพัฒนาแค่วันละ 1% แล้วคุณจะทึ่งกับตัวเองในอีก 3 เดือนข้างหน้า

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น