แนะนำฟรีอีบุ๊ก "สโตอิกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลับ"

Image
  (อ่านฟรี) e-book : สโตอิกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย https://mebmarket.com/?action=book_details&book_id=327348 สโตอิกช่วยนักศึกษาได้อย่างไรบ้าง สโตอิกเป็นปรัชญาที่ช่วยให้เรารับมือกับความกดดัน ความเครียด และการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักศึกษาต้องเจออยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การสอบ หรือการปรับตัวกับชีวิตในมหาวิทยาลัย ผมอยากอธิบายว่าทำไมสโตอิกถึงเป็นแนวคิดที่สามารถช่วยคุณได้ครับ หลักสำคัญของสโตอิกคือ การแยกแยะสิ่งที่เราควบคุมได้กับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้  การฝึกให้เข้าใจเรื่องนี้จะช่วยลดความเครียดได้มาก ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณกังวลเกี่ยวกับการสอบ สิ่งที่คุณควบคุมได้คือการเตรียมตัวให้ดี อ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน แต่ผลการสอบหรือความคิดเห็นของอาจารย์ เป็นสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ การโฟกัสเฉพาะสิ่งที่คุณทำได้จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกเครียดกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการควบคุมครับ นอกจากนี้ สโตอิกยังสอนเรื่อง การควบคุมอารมณ์  และ การมองโลกอย่างเป็นกลาง  ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อคุณเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหรือสถานการณ์ที่ท้าทาย เช่น หากคุณเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ผลสอบไม่เป็นไปตา

5 ทักษะที่นักเทรดต้องมี ถ้าอยากชนะตลาด



1. การวิเคราะห์
ท่านต้องรู้จักแยกแยะข้อมูลที่ท่านได้รับในแต่ละวัน ซึ่งมีอย่างมหาศาล
ท่านต้องคุ้ยหาความจริง หรือโอกาส และความเสี่ยงที่มาพร้อมกับข้อมูล
เพราะทุก ๆข้อมูลที่คนในแวดวงปล่อยออกมา มักจะเป็นข่าวลวง ล่อให้เราเสียเงิน
หากวิเคราะห์ไม่เป็น แยกแยะไม่ออก ก็อยู่ยาก
นอกจากแยะแยะได้ ก็ต้องเลือกให้ถูกตัวด้วย
ซึ่งมันก็หนีไม่พ้นความสามารถในการวิเคราะห์ อยู่ดี
การรู้จักวิเคราะห์ คือความเป็นผู้ใหญ่
มันเป็นการสื่อว่าเราสามารถตัดสินใจเองได้ และกล้ารับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจลงไป
ถ้าไม่มีความเชื่อที่ว่านี้ ก็ไม่กล้าวิเคราะห์ เราก็จะไปขอความเห็นจากคนอื่น
ว่าหุ้นตัวนี้น่าซื้อมั้ย ซื้อได้หรือยัง นั่นเองที่เราได้บอกโลกว่า "ฉันคือเหยื่อ"
ชักนำให้คนที่ประสงค์ร้ายเข้ามาล่อลวงให้เสียเงินในที่สุด


2. การหาข้อมูล
เป็นสิ่งที่ต้องมี เพื่อสอบทานข้อมูลที่ได้มา ว่าจริงหรือเท็จ
อีกอย่างคือ นักเทรดอย่างเราต้องหาข้อมูลเพื่อหาเบาะแสหุ้นดาวรุ่งตัวถัดไปของเราให้เจอก่อนใคร ซึ่งเราต้องใช้หลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการหาข่าว ค้นข่าว อ่านรายงานประจำปี ดูคลิปที่ผู้บริหารให้ข้อมูลในงาน Oppday ไหนจะเปิดกราฟไล่หาหุ้นที่ได้สร้างฐานสวยๆอีก
เหล่านี้แหละครับที่เป็นการหาข้อมูล ยิ่งหาข้อมูลได้มากเท่าไหร + รู้จักวิเราะห์ข้อมูลได้
ท่านจะเป็นนักเทรดที่มีผลงานการเทรดที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยแน่อนอนครับ


3. โฟกัส
การเลือกทำในสิ่งที่จำเป็นที่สุด ก็สำคัญไม่น้อย
เพราะคนที่เก่ง คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่พวกจับฉ่าย
เขาเลือกที่จะเก่งสักอย่างเท่านั้น
เพราะข้อมูลที่ท่านได้แต่ละวันมันมีมหาศาล หากท่านไม่รู้จักเลืกหยิบเอาเฉพาะที่จำเป็นต่อตัวเอง และเอาไปใช้งานได้ดีจริง ๆ เท่านั้น ท่านก็จะเป็นพวก "ข้อมูลท่วมหัว เอาตัวไม่รอด"
ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการเทรด ให้เลืกสักสไตล์ครับ จะวีไอ ก็วีไอไปเลย หรือจะเทคนิคอลก็เลือกเอาว่าจะแบบไหน ดูกราฟ ใช้อินดิเคเตอร์แบบไหน ซื้อตอนวิ่งหรือรับตอนย่อ ทุกวิธีมันมีดีมีเสียทั้งนั้นครับ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายจนเน่า หากท่านรู้จักมันจริง ๆ ก็จะใช้งานได้ถูกเวลาและสถานการณ์ ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่เขาบอกว่า "รู้อะไรให้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว"
เลือกตลาดเล่นก็เช่นกัน เอาให้ดีสักที่ก่อน ไม่ใช่เทรดมั่วทุกตลาด เพราะอยากรวยเร็ว แต่เชื่อเถอะแทนที่จะรวยเร็ว คุณต้องซวยเร็วเป็นแน่ เพราะฐานยังไม่แน่นเลย ทำอะไรก็ไม่รอดแน่


4. ควบคุม
จำเป็นมากครับ เรื่องนี้ หากท่านรู้จักควบคุมในสิ่งต่อไปนี้ ท่านเป็นคนพิเศษทันที
- ควบคุมอารมณ์ ไม่หลงระเริง มือลั่นไปตามอารมณ์
- ควบคุมตัวเองให้ทำตามแผน ซึ่งสิ่งที่ชักนำให้หลุดแผนก็คืออารมณ์นั่นเอง
ความสามารถในการควบคุม ท่านต้องสร้างมันขึ้นมาครับ
มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้ติดตัวเรามาแต่เกิด
ทำไมถึงพูดแบบนี้?
การเทรดที่ดี คือการ "ฝืนธรรมชาติมนุษย์" ไงครับ
ใครก็ตามที่เทรดตามอารมณ์ ก็มักจะตกเป็นเหยื่อของตลาดอบ่างง่ายๆ
ซึ่งคนที่เก่งกว่า เขาได้วากับดัก รอเราอยู่แล้ว
ดังนั้น ถ้าหากอยากหลุดพ้นจากการอยู่ในฝูงเหยื่อ ท่านต้องฝึกการควบคุม
โดยเริ่มจากการมีเป็าหมายที่ชัดเจน ว่าเทรดเพื่ออะไร เพื่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
ถ้ายึดมั่น ว่าการเทรดคือผลงานที่พิสูจน์กันในระยะยาว
มันจะทำให้ท่านไม่เร่งรีบ เมื่อไม่รีบ ก็จะไม่มีอารณ์มากดดัน
เมื่อไม่มีอะไรมากดดัน ก็จะลงมือทำตามแผนได้อย่างราบรื่นครับ


5. บันทึกผลการเทรด
สิ่งนี้คือกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จ ที่นักเทรด 80% ไม่คิดจะทำมัน
เพราะเขาไม่รู้ หรือไม่ก็คิดว่ามันไม่จำเป็น
แต่เขาหารู้ไม่ว่า การบันทึกผลการเทรดมันเป็นอาวุธลับช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น
เพราะการเทรดมันคือ การหาตัวเองให้เจอ ว่า
- อาวุธแบบไหนดีต่อเรา
- ใช้แบบไหนถึงจะดีที่สุด
- ไม่ควรใช้ตอนไหน
- ใช้ยังไง
ฯลฯ
ซึ่งพวกนี้มันต้องเกิดจากการลงมือทำจริง และคอยปรับแก้ให้มันเหมาะกับตัวเอง
อุปมาเหมือน อาวุธปืน

มันยิงได้จริง แต่ปัญหาคือ ผู้ยิง  จะยิงยังไง ยิงแบบไหนถึงจะเข้าเป้า ยิงท่าไหนถึงจะไม่บาดเจ็บ พวกนี้เราต้องลงมือทำเองถึงจะรู้

ซึ่งการจะเรียนรู้หาตัวเองเจอแบบรวดเร็ว ไวที่สุด ก็มาจากการติดตามผล วิเคราะห์การลงมือทำของตัวเอง สังเกตจุดแข็งจุดอ่อน และจุดปรับแก้ พวกนี้ถ้าไม่มีการบันทึก ท่านจะมืดบอดไม่รู้จุดเริ่มว่าต้องดูตรงไหนก่อน ดังนั้น หากอยากเห็นพัฒนาการของตัวเอง ต้องบันทึกผลการเทรดครับ ไม่มีทางเลือกอื่น แรก ๆ อาจยาก แต่ทำไปเถอะ ทำไปเรื่อย ๆ มันจะสร้างผลกระทบทางบวกแก่ท่าน ทำให้ท่านรู้สึกดีกับผล และทำเป็นนิสัยในที่สุดครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Setup เงินล้านของ Kristjan Kullamägi

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo