3 Chart Patterns น่าเชื่อถือ และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง

Image
บทเรียนที่ 3: วิธีอ่านกราฟอย่างมืออาชีพ  และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง รูปแบบกราฟ (Chart Patterns) คู่มือในการค้นหาหุ้นเด่นของวันพรุ่งนี้ ในตลาดหุ้น สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ: ปีแล้วปีเล่า หุ้นที่ชนะตลาดมักจะสร้างรูปแบบกราฟบางอย่างก่อนที่ราคาจะพุ่งแรง และการสังเกตรูปแบบเหล่านี้ง่ายกว่าที่คุณคิด เริ่มจากการเรียนรู้ 3 รูปแบบกราฟที่พบได้บ่อยและสร้างกำไรได้ดีที่สุด: สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9 Cup With Handle (ถ้วยมีหูจับ) - การจับโอกาสทำกำไรใหญ่ เริ่มจากการรู้จักรูปแบบ “ถ้วยมีหูจับ” ซึ่งมีลักษณะเหมือนถ้วยชาเอียงเล็กน้อย โดยหูจับจะอยู่ด้านขวาของกราฟ - หุ้นที่มีแนวโน้มขึ้นแรงมักจะสร้างรูปแบบนี้ก่อนเริ่มการพุ่งขึ้นรอบใหม่ - จุดซื้อ (Buy point) มักเกิดเมื่อราคาทะลุขึ้นจากหูจับ พร้อมปริมาณการซื้อขาย (volume) ที่สูงขึ้น --- Double Bottom (รูปตัว W) - รูปแบบ Double Bottom คล้ายกับตัว “W” กลับหัว โดยจุดต่ำสุดรอบที่สอ...

แนวทางหาหุ้นผู้นำ เมื่อตลาดเริ่มฟื้นจากขาลง

ถ้าคุณกำลังลำบากในการหาหุ้นดีๆ ช่วงตลาดหมีเพิ่งฟื้นตัว ลองพิจารณาไอเดียเหล่านี้ดู

(แปลและขยายความจากคำแนะนำของ Leif Soreide; แชมป์การลงทุนในสหรัฐฯ ปี 2019)


1. ในช่วงที่ตลาดผันผวนและไม่แน่นอน เม็ดเงินมักไหลเข้าสู่หุ้นที่ “ปลอดภัย” และ “สภาพคล่องสูง”

นักลงทุนจำนวนมากจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยเลือกซื้อหุ้นใหญ่ หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูง หรือที่เรียกว่า “หุ้นผู้นำ” เพราะสามารถเข้า-ออกได้ง่าย ไม่ติดดอยง่าย

.

ดังนั้น: เวลาตลาดยังไม่แน่นอน อย่าเพิ่งไปเสี่ยงกับหุ้นเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะให้ผลตอบแทนสูง เพราะถ้าหลุดแนวรับหรือไม่มีแรงซื้อ คุณอาจขายออกไม่ได้ หรือขายแล้วขาดทุนหนัก การเลือกหุ้นที่ “คนอื่นก็สนใจ” หรือมี “กองทุนใหญ่เข้า” มักจะปลอดภัยกว่า

.

.

2. อย่าไปหลงกับหุ้นตัวเล็กที่ดูเหมือนตั้งท่าจะพุ่ง แม้จะมีรูปแบบกราฟ “สมบูรณ์แบบ” ก็ตาม

อย่าไว้ใจแค่เพียงกราฟดูสวย หรือมีสัญญาณเทคนิคดี หากหุ้นนั้นไม่มีสภาพคล่อง

.

ด้วยเหตุนี้: หุ้นบางตัวอาจจะดูเหมือนพร้อมจะพุ่งแรง เช่น เบรกขึ้นจากฐาน หรือทำ new high แต่ถ้าไม่มีปริมาณการซื้อขายรองรับ (volume บางๆ) หรือมันเป็นหุ้นที่สภาพคล่องต่ำ มันจะกลายเป็นกับดัก เพราะคุณเข้าไปแล้วไม่มีใครมาซื้อออกจากคุณ ถ้าหุ้นลง คุณจะติดดอยแบบไม่มีทางหนี

.

.

3. ถ้าคุณมีหุ้นที่กำไรแล้ว ให้คอยมองหาผู้นำใหม่ที่เริ่มเด่นขึ้นมา แล้ว “หมุนพอร์ต” เข้าไปหาตัวที่มีแนวโน้มดีกว่า

พอหุ้นที่ถือไว้เริ่มทำกำไรได้ ควรใช้โอกาสนี้เข้าไปหาหุ้นใหม่ที่กำลังกลายเป็น “ผู้นำหน้าใหม่”

.

หมายความว่า: ตลาดที่ฟื้นจากภาวะหมีมักจะมีผู้นำใหม่ ไม่ใช่หุ้นเดิมที่เคยดังตอนตลาดกระทิงรอบก่อน ถ้าเรารู้จัก “สลับตัว” จากหุ้นเก่าไปหุ้นใหม่ที่เริ่มแสดงพลัง เราจะสามารถรักษาผลกำไร และเพิ่มโอกาสทำกำไรต่อเนื่องได้ อย่ายึดติดกับหุ้นตัวเดิมเกินไป



4. ไม่เป็นไรถ้าจะถือหุ้นเพิ่มอีก 1-2 ตัว เพื่อยืนยันแนวโน้ม เพราะส่วนใหญ่จะวิ่งใกล้เคียงกันหลังตลาดหมีสิ้นสุด

การถือหุ้นหลายตัวในช่วงนี้อาจช่วยเพิ่มความมั่นใจ และหลายตัวก็มีแนวโน้มจะขึ้นคล้ายกัน


ดังนั้น: เมื่อตลาดเริ่มฟื้นจริงๆ หุ้นหลายตัวจะ “ตื่น” พร้อมกัน และมีโอกาสขึ้นไปด้วยกัน คุณสามารถถือหุ้นหลายตัวเพื่อจับโอกาสไว้ ไม่จำเป็นต้องเลือกแค่ตัวเดียว ขอแค่ไม่กระจายเกินไป และยังควบคุมความเสี่ยงได้


เคล็ดลึกเทรดหุ้น True Market Leader จำหน่ายที่

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM2MTk3ODt9


สรุป

การเทรดหลังตลาดหมี (Bear Market) เป็นช่วงสำคัญที่หลายคนอาจ “พลาด” โอกาส เพราะกลัว หรือยังไม่มั่นใจ แต่ถ้าคุณวางแผนดี เลือกหุ้นที่ถูกต้อง และรู้จักปรับพอร์ตตามผู้นำตัวใหม่ คุณก็สามารถเปลี่ยนช่วงที่คนส่วนใหญ่ยังลังเล ให้กลายเป็น “จุดเริ่มต้นของกำไรระยะยาว” ได้


จำไว้ว่า: ช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ยังกลัว อาจเป็นช่วงเวลาทองของคนที่ “กล้าพอที่จะเตรียมตัวและรับความเสี่ยง”

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ