3 Chart Patterns น่าเชื่อถือ และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง
บทเรียนที่ 3: วิธีอ่านกราฟอย่างมืออาชีพ
และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง
รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)
คู่มือในการค้นหาหุ้นเด่นของวันพรุ่งนี้
ในตลาดหุ้น สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ: ปีแล้วปีเล่า หุ้นที่ชนะตลาดมักจะสร้างรูปแบบกราฟบางอย่างก่อนที่ราคาจะพุ่งแรง และการสังเกตรูปแบบเหล่านี้ง่ายกว่าที่คุณคิด เริ่มจากการเรียนรู้ 3 รูปแบบกราฟที่พบได้บ่อยและสร้างกำไรได้ดีที่สุด:
สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ" https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9
Cup With Handle (ถ้วยมีหูจับ)
- การจับโอกาสทำกำไรใหญ่ เริ่มจากการรู้จักรูปแบบ “ถ้วยมีหูจับ” ซึ่งมีลักษณะเหมือนถ้วยชาเอียงเล็กน้อย โดยหูจับจะอยู่ด้านขวาของกราฟ
- หุ้นที่มีแนวโน้มขึ้นแรงมักจะสร้างรูปแบบนี้ก่อนเริ่มการพุ่งขึ้นรอบใหม่
- จุดซื้อ (Buy point) มักเกิดเมื่อราคาทะลุขึ้นจากหูจับ พร้อมปริมาณการซื้อขาย (volume) ที่สูงขึ้น
---
Double Bottom (รูปตัว W)
- รูปแบบ Double Bottom คล้ายกับตัว “W” กลับหัว โดยจุดต่ำสุดรอบที่สองจะต่ำกว่าจุดต่ำสุดรอบแรก
- เหมือนกับถ้วยมีหูจับ รูปแบบนี้อาจเป็นสัญญาณของการพุ่งขึ้นรอบใหญ่
- คุณสามารถซื้อได้ทันทีที่หุ้นทะลุกรอบ
---
Flat Base (ฐานเรียบ)
- รูปแบบฐานเรียบมักเกิดขึ้น หลังจากหุ้นได้พุ่งทะลุจากถ้วยมีหูจับหรือ double bottom ไปแล้ว
- เป็นช่วงพักฐานรอบใหม่ที่มั่นคง ก่อนจะมีโอกาสพุ่งขึ้นอีกครั้ง
- ให้โอกาสนักลงทุนในการซื้อเพิ่ม หรือซื้อรอบใหม่
---
คำถาม-คำตอบเกี่ยวกับการอ่านกราฟ
Q: รูปแบบกราฟคืออะไร?
A: ไม่มีหุ้นตัวไหนขึ้นตลอดเวลา! รูปแบบกราฟเกิดขึ้นเมื่อหุ้นพักฐาน (pullback) จากการพุ่งขึ้นแรง แล้วค่อยๆ ฟื้นตัวอีกครั้ง การพักฐานนี้เป็นจังหวะให้หุ้น "สะสมแรง" ก่อนขึ้นรอบใหม่ การซื้อหุ้นในช่วงที่กำลังหลุดกรอบพักฐาน จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสกำไร
Q: ควรใช้กราฟรายวันหรือรายสัปดาห์?
A: ใช้ทั้งคู่! กราฟรายสัปดาห์แสดงพฤติกรรมระยะยาว ช่วยให้มองภาพใหญ่ได้ชัด ส่วนกราฟรายวันช่วยดูจังหวะเข้าออกในแต่ละวัน
Q: จุดซื้อ (Buy Point) คืออะไร?
A: จุดที่หุ้นมีโอกาสขึ้นต่อสูงสุด โดยคำนวณจากรูปแบบกราฟแต่ละแบบ หุ้นสามารถซื้อได้ในช่วงราคาสูงสุดไม่เกิน 5% จากจุดซื้อ