3 Chart Patterns น่าเชื่อถือ และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง

Image
บทเรียนที่ 3: วิธีอ่านกราฟอย่างมืออาชีพ  และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง รูปแบบกราฟ (Chart Patterns) คู่มือในการค้นหาหุ้นเด่นของวันพรุ่งนี้ ในตลาดหุ้น สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ: ปีแล้วปีเล่า หุ้นที่ชนะตลาดมักจะสร้างรูปแบบกราฟบางอย่างก่อนที่ราคาจะพุ่งแรง และการสังเกตรูปแบบเหล่านี้ง่ายกว่าที่คุณคิด เริ่มจากการเรียนรู้ 3 รูปแบบกราฟที่พบได้บ่อยและสร้างกำไรได้ดีที่สุด: สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9 Cup With Handle (ถ้วยมีหูจับ) - การจับโอกาสทำกำไรใหญ่ เริ่มจากการรู้จักรูปแบบ “ถ้วยมีหูจับ” ซึ่งมีลักษณะเหมือนถ้วยชาเอียงเล็กน้อย โดยหูจับจะอยู่ด้านขวาของกราฟ - หุ้นที่มีแนวโน้มขึ้นแรงมักจะสร้างรูปแบบนี้ก่อนเริ่มการพุ่งขึ้นรอบใหม่ - จุดซื้อ (Buy point) มักเกิดเมื่อราคาทะลุขึ้นจากหูจับ พร้อมปริมาณการซื้อขาย (volume) ที่สูงขึ้น --- Double Bottom (รูปตัว W) - รูปแบบ Double Bottom คล้ายกับตัว “W” กลับหัว โดยจุดต่ำสุดรอบที่สอ...

การพัฒนาตนเองเป็นนักเทรดที่สำเร็จและเทคนิคสวิงเทรด สูตร Marios Stamatoudis

e-book : วินัย:ผลพลอยได้ของ Edge... ในรูปแบบ ebook

บทสัมภาษณ์ที่ Marios Stamatoudis ให้กับ @TraderLion_

เกี่ยวกับแนวทางการเทรดและการพัฒนาตนเองในการเป็นนักเทรด :

แปลจาก https://x.com/Hydra_XT/status/1753794850510491921

---


ศึกษาและติดตามการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อการเทรดที่ทำกำไร

- ใช้พื้นฐานเป็นแนวทาง และดูการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อยืนยันแนวโน้ม

- ใช้รูปแบบและสัญญาณการเทรดที่เรียนรู้จากทฤษฎีเพื่อหาโอกาสที่ดี


การตระหนักถึงความสำคัญของการค้นคว้าและเรียนรู้ด้วยตัวเอง

- การศึกษาและเรียนรู้เป็นเหมือนการฝึกฝน ทำให้คุณรักการเทรด

- แพลตฟอร์มการวิเคราะห์กราฟและการมีวินัยในการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ

- ตระหนักว่าการเทรดให้ได้ผลดีต้องเลิกพึ่งพาความรู้ของคนอื่น และเริ่มวิจัยและศึกษาเอง

- ใช้เวลาหลายเดือนในการศึกษาและทำความเข้าใจจากการเทรดของนักเทรดที่มีประสบการณ์ เพื่อพัฒนากลยุทธ์การเทรดของตนเอง

- เริ่มต้นจากการไม่อ่านหนังสือเทรด แต่ต่อมาได้ศึกษา “How to Make Money in Stocks” ของ William O'Neil

- หนังสือและประสบการณ์การเทรดช่วยให้เกิดความเข้าใจเชิงลึกและทำให้การเทรดดีขึ้น

- ค้นพบแรงบันดาลใจและแรงผลักดันจากนักเทรดชั้นนำเช่น Oliver Kell

- หนังสือทั้งด้านเทคนิคและปรัชญาเกี่ยวกับการเทรดช่วยเปลี่ยนจากการเทรดรายวัน (Day Trading) เป็นการเทรดระยะยาวขึ้น (Swing Trading)


ประเภทของหนังสือเกี่ยวกับการเทรด

- หนังสือเกี่ยวกับนักเทรดชั้นนำและเรื่องราวต่าง ๆ ของตลาดหุ้น

- หนังสือที่ให้เครื่องมือและความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง

- หนังสือส่วนตัวที่เขียนเพื่อตนเอง (บันทึกการเทรดของตัวเอง) ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจอย่างแท้จริง


ความหลงใหลเป็นสิ่งสำคัญในโลกการเทรด

- ความหลงใหลในด้านการเทรดเริ่มต้นจากการศึกษาและค้นพบสิ่งใหม่

- ความหลงใหลในด้านการเทรดต้องถูกเก็บรักษาไว้แม้ในช่วงที่ยากลำบาก


การเผชิญกับความเหนื่อยล้าและความเครียดจากการหมกมุ่นในไลฟ์สไตล์การเทรด

- เผชิญกับการหมดพลังจากการศึกษาการเทรดมากเกินไปและสูญเสียความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ จนรู้สึกเครียด

- พบกับความท้าทายในการเทรดรายวัน ต้องพึ่งอัตราการชนะมากกว่าการจัดการความเสี่ยง นำไปสู่การสูญเสียที่มากขึ้นเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นใจ

- รู้สึกท้อแท้และซึมเศร้าเมื่อต้องเจอกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อชีวิตส่วนตัวและครอบครัว

- รู้สึกไม่เป็นมืออาชีพและรู้สึกไม่เข้ากับการเทรดรายวันโดยเฉพาะเนื่องจากไม่มีหุ้นในพอร์ตโฟลิโอ


การปรับกลยุทธ์จากเดย์เทรดไปสู่การสวิงเทรดเพื่อทำกำไรที่รวดเร็วขึ้น

- ใช้กลยุทธ์เดิมจากการเทรดรายวันเพื่อค้นหาโอกาสการเทรดแบบ Swing ที่เร็วขึ้น

- สนุกกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และรู้สึกผ่อนคลายกับแนวทางใหม่


การเรียนรู้จากที่ปรึกษาและการรับมือกับความท้าทายในการเทรด

- ที่ปรึกษาอาจเป็นใครก็ได้ที่มีแนวคิดใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่คนที่มีประสบการณ์

- การเผชิญความท้าทายในการเทรดต้องอาศัยสภาพจิตใจที่เข้มแข็งและการจดบันทึกที่ดี

- อย่าหยุดเรียนรู้ เพราะการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญในทุกระยะของการเทรด



3 Setup หลักสำหรับการสวิงเทรดของเขา

1. Breakouts แบบคลาสสิก: กราฟแสดงการพุ่งขึ้นแรง (big leg up) ตามด้วยการสะสมราคาแน่น ๆ ทางขวา นักเทรดจะมองหาการเข้าซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สอดคล้องกับรูปแบบนี้

2. Pivot เป็นช่วงๆ หลังประกาศผลประกอบการ: มักเกิดจากปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ราคาหุ้นเกิดช่องว่าง (gap up) และมักจะขึ้นต่อในวันถัดไป

3. Parabolic Short: เป็นการเทรดระยะสั้นที่มองหาโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวแบบพาราโบลิก


การใช้โมเดลการประเมินมูลค่าของสถาบันและกองทุนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ

- หุ้นอาจถูกประเมินมูลค่าต่ำหรือสูงเกินไปหลังจากเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น การประกาศผลประกอบการหรือข่าวใหญ่

- สถาบันมักใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการสร้างตำแหน่งในหุ้น จึงสร้างโอกาสการเทรดให้กับนักลงทุนรายย่อย


การเตรียมตัวสำหรับการสวิงเทรด

- ใช้การสแกนหุ้นเพื่อวิเคราะห์การแกว่งของราคาหุ้น โดยเฉพาะในช่วง 10-20 นาทีก่อนตลาดเปิด

- มีหน้าต่างการสั่งการที่แสดงตำแหน่งและสแกนระหว่างวันเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงก่อนตลาดเปิด

- ตรวจสอบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของหุ้นในช่วงก่อนตลาดเปิด

- ใช้การสแกนเพื่อกรองหุ้นที่มีแรงซื้อที่แข็งแกร่งในช่วง 1 เดือน, 3 เดือน และ 6 เดือน

- พัฒนารายการหุ้นที่น่าสนใจและสแกนหาหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายสูง

- พัฒนาการสแกนเพื่อหาการเคลื่อนไหวของรูปแบบกราฟและความต่อเนื่องของแรงกระตุ้น

- ตรวจสอบรายการเทรดที่เป็นไปได้สำหรับสัปดาห์นี้และอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ

- วาดเส้นแนวโน้มและตั้งค่าเตือนสำหรับการ Breakout

- วิเคราะห์หุ้นก่อนตลาดเปิดสำหรับข่าวผลประกอบการ ปริมาณซื้อขาย และปัจจัยกระตุ้นต่างๆ

- ใช้การวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิคประกอบการตัดสินใจ

- มองหาปัจจัยกระตุ้น เช่น ข่าวแนะนำทางการเงิน ผลกำไรเร่งตัว และการเติบโตของยอดขาย

- เน้นเทรดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อวัน

- เลือกหุ้นที่มีราคาเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า $1 และค่าเฉลี่ยการเคลื่อนไหวรายวันเกินกว่า 5 จุด

- กระจายการเทรดแบบ Breakout ไปยังหุ้นที่เคลื่อนไหวเร็วที่มีโอกาสขึ้น 100-200%

- สร้างรายการเฝ้าดูหุ้นในรูปแบบและธีมต่าง ๆ เพื่อการเทรดที่สำเร็จ

- เฝ้าดูหุ้นที่มีแรงซื้อแข็งแกร่งเทียบกับตลาดโดยรวม

- เข้าใจความสำคัญของการเทรดหุ้นที่มีแรงซื้อมาก โดยเฉพาะในช่วงขาลงหรือตลาดขาขึ้น


---


การทบทวนประจำสัปดาห์ที่เน้นการสแกนเชิงลึกและปรับปรุงรายการเฝ้าดู

- การสแกนประจำสัปดาห์ควรมีรายละเอียดเพื่อตรวจหาหุ้นที่มีประสิทธิภาพต่ำหรือไม่เหมาะกับการเทรด

- ปรับปรุงรายการเฝ้าดูโดยลบหุ้นที่ไม่ทำกำไรออก และเน้นที่หุ้นที่มีศักยภาพ

- ทบทวนตลาดหุ้นและรายการเฝ้าดูจากสัปดาห์ก่อนเพื่อดูการ Breakout และการเปลี่ยนแปลงของตลาด

- รักษารายการเฝ้าดูเพื่อช่วยให้การติดตามหุ้นมีประสิทธิภาพ และพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด


---


โฟกัสที่การสร้างผลตอบแทนที่ไม่สมมาตร (Asymmetric Returns)

- อัตราการชนะโดยเฉลี่ยคือ 32% มีความผันผวนบ้าง

- กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่น้อยต่อการเทรดแต่ละครั้งประมาณ 0.25% ถึง 0.4%

- การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงการขาดทุนต่อเนื่องตามอัตราการชนะและความถี่ในการเทรด

- การลดสัดส่วนความเสี่ยงช่วยลดการผันผวนทางอารมณ์จากการขาดทุนที่หนัก

- ใช้กลยุทธ์ Stop-Loss อย่างรัดกุมเพื่อป้องกันการขาดทุนและรักษากำไร

- ตั้ง Stop-Loss ไว้สูงกว่าราคาตลาดเล็กน้อยเพื่อให้เพิ่มขนาดการลงทุนได้อย่างอิสระ


การมองหาและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวใหญ่ในตลาดหุ้น

- ใช้ปริมาณการซื้อขายและการเคลื่อนไหวของราคาสำหรับจับการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่และการสะสมตัวของหุ้น

- ใช้กลยุทธ์ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ของหุ้น

- ขายหุ้นเมื่อตลาดยังคงแข็งแกร่ง ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และเฝ้าดูรูปแบบการกลับตัว


การใช้กราฟรายนาทีเพื่อการเข้าและตั้ง Stop-Loss

- ใช้กราฟราย 1 นาที และ 5 นาทีเพื่อคาดการณ์จุด Pivot และ Breakout

- เข้าซื้อขายโดยใช้จุด Breakout และสัญญาณความแข็งแกร่งของราคา


การใช้มาร์จิ้นอย่างรอบคอบเป็นกุญแจสู่การจัดการความเสี่ยง

- ใช้มาร์จิ้นด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น

- ก่อนใช้มาร์จิ้น ควรประเมินคุณภาพของตำแหน่งการลงทุนและลดการเสี่ยงในหุ้นที่ไม่ทำกำไร


การถือครองตำแหน่งเยอะเกินไปทำให้เกิดอารมณ์และลดกำไร

- การถือครองหลายตำแหน่งอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นคงและทำให้เกิดความกลัวต่อการเคลื่อนไหวของตลาด

- การถือครองตำแหน่งน้อยทำให้ควบคุมได้ง่ายและตัดสินใจได้ดีกว่า


การเทรดที่ประสบความสำเร็จอาศัยเพียงการเทรดไม่กี่ครั้งที่มีผลกระทบสูง

- การเทรดหลายครั้งอาจไม่มีการเคลื่อนไหวหรือหยุดขาดทุน

- การเทรดเพียงไม่กี่ครั้งที่มีผลสูงแต่ละเดือนสามารถสร้างผลบวกต่อบัญชีการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ


หลีกเลี่ยงการให้เป้าหมายระยะสั้นกำหนดการเทรด มุ่งเน้นที่ระยะยาว

- เป้าหมายระยะสั้นอาจสร้างแรงกดดันและทำให้เกิดความผิดพลาดได้

- หลีกเลี่ยงการเทรดตามอารมณ์หรือการเพิ่มขนาดตำแหน่งเพียงเพื่อตอบโจทย์ระยะสั้น


มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแทนที่จะหวังผลตอบแทนสูง

- รักษาทั้งความเข้มแข็งทางจิตใจและเงินทุนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดเทรด

- รอช่วงการเรียนรู้ที่ราบรื่นก่อนที่จะก้าวอย่างรวดเร็ว (เริ่มจากเล็ก ๆ ก่อน)

- ศึกษาการตั้งค่าการเทรดในอดีตและมุ่งเน้นที่สิ่งที่ได้ผล (ศึกษาอย่างต่อเนื่อง)

- อย่าลืมพักผ่อนเพื่อสุขภาพจิตที่ดี และหลีกเลี่ยงการหมดไฟ


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ