ระบบเทรดระดับเทพ ก็พาพอร์ตพังได้ ถ้าไม่เข้าใจ "Position Sizing"

Image
อีบุ๊ก เคล็ดลึก Position Size ปั้นพอร์ตเล็กให้เติบใหญ่ อย่างมั่นคง มีจำหน่ายที่   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM1OTI2OTt9 “แม้คุณจะมีระบบเทรดที่ดีที่สุดในโลก ก็ยังสามารถทำพอร์ตพังได้ หากบริหารขนาดการเทรด (Position Sizing) ไม่เหมาะสม ในทางกลับกัน ถึงแม้ระบบเทรดจะธรรมดา แต่หากจัดการ Position Sizing ได้ดี คุณก็สามารถสร้างความมั่งคั่งได้เช่นกัน ดังนั้น... คุณต้องเรียนรู้เรื่อง Position Sizing ให้ลึกซึ้ง” — Dr. Van K. Tharp . ลองจินตนาการว่าคุณเป็นทหารในสนามรบ คุณมีปืนที่ดีที่สุดในโลก—แม่นยำ ยิงไกล ทรงพลัง นี่คือ “Holy Grail” หรือ “สุดยอดระบบเทรด” ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันถึง แต่ถ้าคุณวิ่งเข้าไปกลางสนามศัตรู โดยไม่วางแผน ไม่รู้จำนวนกระสุน ไม่รู้ว่าจะยิงเมื่อไหร่ หรือยิงยังไง ต่อให้ปืนดีแค่ไหน… คุณก็พลาดง่ายๆ และอาจ “โดนยิงกลับ” จนแพ้ . การเทรดก็เช่นกันครับ ระบบเทรดที่ดีแค่ไหนก็ตาม หากคุณ บริหารขนาดการเปิดออเดอร์ไม่ถูกต้อง (Position Sizing ผิดพลาด) มันก็สามารถ “ทำให้พอร์ตพัง” ได้อย่างง่ายดา...

การเทรดที่ยอดเยี่ยมประกอบด้วยอะไรบ้าง


ภาพนี้เป็นแผนภาพที่ประกอบด้วยสามวงกลมซ้อนกัน โดยมีจุดกึ่งกลางซึ่งเป็นการผสมผสานของเงื่อนไขสำคัญ 3 ข้อในการเทรดที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่:


1. Great Trade Setup (การตั้งค่าการเทรดที่ดี) 

   - รวมถึงการจัดการความเสี่ยง (Risk/Reward) และเงื่อนไข (Conditions) ต่างๆ ที่ชัดเจน เช่น การกำหนดจุดเข้าซื้อขาย และการประเมินสถานการณ์ว่ามีโอกาสสำเร็จมากน้อยเพียงใด

   - ข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น: หากขาดส่วนนี้ จะทำให้คุณ "ไม่รู้ว่าคุณจะทำกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่" ซึ่งเป็นการเทรดที่ขาดความแน่นอน


2. Proper Position Sizing (การจัดขนาดสถานะการเทรดที่เหมาะสม)

   - การจัดการจำนวนเงินหรือขนาดของตำแหน่งในการเทรด เช่น การกำหนดว่าแต่ละครั้งจะเสี่ยงเงินจำนวนเท่าไหร่ การรักษาความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้

   - ข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น: ถ้าขาดส่วนนี้ คุณอาจจะใช้กลยุทธ์ที่ไม่ผ่านการทดสอบหรือสุ่มเสี่ยง ซึ่งทำให้ไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ในระยะยาวได้


3. Proper Timing (จังหวะที่เหมาะสม)

   - การเข้าและออกจากการเทรดในช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร เช่น เข้าในเวลาที่ราคาสะท้อนเงื่อนไขทางเทคนิคที่ดี

   - ข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น: หากคุณเข้าออกช้าไปหรือเร็วเกินไป ("Too early or late") จะทำให้การเทรดไม่สมบูรณ์และอาจเสียโอกาสในการทำกำไร


จุดศูนย์กลางของทั้ง 3 วงกลม คือจุดที่ทุกองค์ประกอบมารวมกัน: การเทรดที่มีเงื่อนไขที่ดี มีการจัดการขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม และเข้าจังหวะเวลาที่ถูกต้อง ซึ่งการเทรดลักษณะนี้จะมี:

- Timing ที่เหมาะสม

- ขนาดที่เหมาะสม

- การคำนวณความเสี่ยง/ผลตอบแทนที่ดี

- สอดคล้องกับเงื่อนไขของตลาด


ในแต่ละพื้นที่ที่ไม่ครอบคลุมถึงจุดกึ่งกลาง คือการเทรดที่มีปัญหาขาดหนึ่งในองค์ประกอบ ทำให้ผลลัพธ์ไม่ดี เช่น:

- หากมีการจัดการขนาดสถานะการเทรดและจังหวะที่ดี แต่ขาดการตั้งค่าการเทรดที่ดี จะกลายเป็นการเทรดที่คุณ "ไม่รู้ว่าคุณจะได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่"

- หากคุณมีการตั้งค่าการเทรดที่ดีและจัดการขนาดการเทรดที่ดี แต่ขาดจังหวะที่เหมาะสม คุณอาจจะเข้าเทรด "เร็วไปหรือช้าไป" ทำให้ผลการเทรดไม่เต็มที่


สรุป: แผนภาพนี้แสดงให้เห็นว่าการประสบความสำเร็จในการเทรดต้องอาศัย 3 องค์ประกอบหลักในการเทรดที่ครบถ้วน ทั้งการตั้งค่าที่ดี การจัดการขนาดที่เหมาะสม และการเข้าจังหวะที่ถูกต้อง



7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

สรุปหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่"

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) แนวทางการซื้อหุ้นระหว่างขาขึ้น

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

ทำไมคุณเทรดมานาน…แต่ผลลัพธ์ยังไม่ต่างจากวันแรก?