ระบบเทรดระดับเทพ ก็พาพอร์ตพังได้ ถ้าไม่เข้าใจ "Position Sizing"

Image
อีบุ๊ก เคล็ดลึก Position Size ปั้นพอร์ตเล็กให้เติบใหญ่ อย่างมั่นคง มีจำหน่ายที่   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM1OTI2OTt9 “แม้คุณจะมีระบบเทรดที่ดีที่สุดในโลก ก็ยังสามารถทำพอร์ตพังได้ หากบริหารขนาดการเทรด (Position Sizing) ไม่เหมาะสม ในทางกลับกัน ถึงแม้ระบบเทรดจะธรรมดา แต่หากจัดการ Position Sizing ได้ดี คุณก็สามารถสร้างความมั่งคั่งได้เช่นกัน ดังนั้น... คุณต้องเรียนรู้เรื่อง Position Sizing ให้ลึกซึ้ง” — Dr. Van K. Tharp . ลองจินตนาการว่าคุณเป็นทหารในสนามรบ คุณมีปืนที่ดีที่สุดในโลก—แม่นยำ ยิงไกล ทรงพลัง นี่คือ “Holy Grail” หรือ “สุดยอดระบบเทรด” ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันถึง แต่ถ้าคุณวิ่งเข้าไปกลางสนามศัตรู โดยไม่วางแผน ไม่รู้จำนวนกระสุน ไม่รู้ว่าจะยิงเมื่อไหร่ หรือยิงยังไง ต่อให้ปืนดีแค่ไหน… คุณก็พลาดง่ายๆ และอาจ “โดนยิงกลับ” จนแพ้ . การเทรดก็เช่นกันครับ ระบบเทรดที่ดีแค่ไหนก็ตาม หากคุณ บริหารขนาดการเปิดออเดอร์ไม่ถูกต้อง (Position Sizing ผิดพลาด) มันก็สามารถ “ทำให้พอร์ตพัง” ได้อย่างง่ายดา...

อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด


คำว่า "อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด" มีความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นแนวทางการคิดที่แสดงถึงการสร้างแนวทางชีวิตของนักเทรดที่ไม่ได้ยึดติดแค่กับการทำอาชีพเทรด แต่เป็นการสร้างวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับการเป็นนักเทรดอย่างแท้จริง ซึ่งสามารถอธิบายได้เป็นขั้นตอนดังนี้:


1. ความแตกต่างระหว่าง "อาชีพเทรด" และ "ชีวิตแบบนักเทรด"

   - อาชีพเทรด: การมองการเทรดเป็นแค่ "งาน" หรือ "อาชีพ" หนึ่งที่คุณทำเพื่อหาเงิน คุณอาจจะเข้ามาเทรดในตลาดหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโตฯ เพื่อทำกำไร แต่เมื่อจบวัน คุณก็แค่ปิดหน้าจอและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ

   - ชีวิตแบบนักเทรด: การเทรดไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็น "วิถีชีวิต" ที่ผสมผสานเข้ากับตัวตนของคุณ คุณไม่ใช่แค่เทรดเพื่อหาเงิน แต่คุณคิดแบบนักเทรด ใช้ชีวิตและวางแผนแบบนักเทรด ซึ่งหมายถึงการเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเสี่ยง การจัดการอารมณ์ และการสร้างวินัยให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ


2. การสร้างความยั่งยืน

   การใช้ชีวิตแบบนักเทรดหมายถึงการมองการเทรดในระยะยาว คุณไม่เร่งรีบที่จะทำกำไรในระยะสั้นจนเสี่ยงที่จะเสียเงิน แต่คุณวางแผนและปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความยั่งยืน นักเทรดที่ใช้ชีวิตแบบนี้จะรู้จักการกระจายความเสี่ยง (Diversification) และมีการจัดการเงิน (Money Management) อย่างรอบคอบ


 3. การเรียนรู้และพัฒนาตนเองตลอดเวลา

   การเป็นนักเทรดที่แท้จริงหมายถึงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง คุณต้องศึกษาและพัฒนาทักษะของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิค การอ่านกราฟ การวิเคราะห์เศรษฐกิจ และอื่น ๆ เพราะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเตรียมพร้อมและปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ


4. การควบคุมอารมณ์และวินัยในตัวเอง

   ชีวิตของนักเทรดมีความเสี่ยงและความท้าทาย ซึ่งสิ่งสำคัญคือการควบคุมอารมณ์และรักษาวินัย หากคุณแค่ทำการเทรดเป็นงาน การควบคุมอารมณ์อาจเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคุณเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด คุณจะเรียนรู้การรับมือกับความกลัว ความโลภ และความไม่แน่นอนอย่างมีสติ


5. การมองหาความหมายที่มากกว่าการทำกำไร

   นักเทรดที่ใช้ชีวิตแบบนี้จะมองเห็นความหมายในการเทรดมากกว่าการทำกำไร เขาจะรู้สึกสนุกและหลงใหลในการเข้าใจตลาด การวิเคราะห์กราฟ และการพัฒนาทักษะตนเองไปเรื่อย ๆ ชีวิตของเขาจะไม่ยึดติดกับผลลัพธ์หรือเงินทอง แต่เป็นการเดินทางและการเติบโตทางจิตใจและทักษะที่สำคัญ


สรุป

คำว่า "อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด" จึงหมายถึงการไม่มองการเทรดเป็นแค่อาชีพที่ทำเพื่อหาเงิน แต่เป็นการเลือกสร้างวิถีชีวิตที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ การเติบโต และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในฐานะนักเทรด คุณจะไม่แค่ทำงานเพื่อเงิน แต่จะสนุกกับการพัฒนาตนเองและใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

สรุปหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่"

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) แนวทางการซื้อหุ้นระหว่างขาขึ้น

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

ทำไมคุณเทรดมานาน…แต่ผลลัพธ์ยังไม่ต่างจากวันแรก?