3 Chart Patterns น่าเชื่อถือ และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง

Image
บทเรียนที่ 3: วิธีอ่านกราฟอย่างมืออาชีพ  และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง รูปแบบกราฟ (Chart Patterns) คู่มือในการค้นหาหุ้นเด่นของวันพรุ่งนี้ ในตลาดหุ้น สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ: ปีแล้วปีเล่า หุ้นที่ชนะตลาดมักจะสร้างรูปแบบกราฟบางอย่างก่อนที่ราคาจะพุ่งแรง และการสังเกตรูปแบบเหล่านี้ง่ายกว่าที่คุณคิด เริ่มจากการเรียนรู้ 3 รูปแบบกราฟที่พบได้บ่อยและสร้างกำไรได้ดีที่สุด: สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9 Cup With Handle (ถ้วยมีหูจับ) - การจับโอกาสทำกำไรใหญ่ เริ่มจากการรู้จักรูปแบบ “ถ้วยมีหูจับ” ซึ่งมีลักษณะเหมือนถ้วยชาเอียงเล็กน้อย โดยหูจับจะอยู่ด้านขวาของกราฟ - หุ้นที่มีแนวโน้มขึ้นแรงมักจะสร้างรูปแบบนี้ก่อนเริ่มการพุ่งขึ้นรอบใหม่ - จุดซื้อ (Buy point) มักเกิดเมื่อราคาทะลุขึ้นจากหูจับ พร้อมปริมาณการซื้อขาย (volume) ที่สูงขึ้น --- Double Bottom (รูปตัว W) - รูปแบบ Double Bottom คล้ายกับตัว “W” กลับหัว โดยจุดต่ำสุดรอบที่สอ...

(ตอบคำถาม) มีข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่ในการเลือกหุ้นยังไงบ้างคะ

ตอบคำถามจากพันทิพ : มีข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่ในการเลือกหุ้นยังไงบ้างคะ

https://pantip.com/topic/42764948


การลงทุนในหุ้นอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักลงทุนมือใหม่

แต่ด้วยการเตรียมตัวและการศึกษาอย่างถูกต้อง

คุณสามารถทำให้การลงทุนของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น

นี่คือข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่ในการเลือกหุ้น:


1. **ศึกษาพื้นฐานของการลงทุนในหุ้น**:

   - ทำความเข้าใจว่าหุ้นคืออะไร และบริษัทใดบ้างที่คุณสามารถลงทุนได้

   - เรียนรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นและวิธีการทำงานของมัน


2. **เลือกหุ้นของบริษัทที่คุณเข้าใจ**:

   - เริ่มต้นด้วยการลงทุนในบริษัทที่คุณรู้จักและเข้าใจธุรกิจของพวกเขา

   - อ่านและศึกษารายงานการเงิน รายงานประจำปี และข้อมูลข่าวสารของบริษัท


3. **ดูที่ฐานะการเงินของบริษัท**:

   - ตรวจสอบกำไรสุทธิและรายได้ของบริษัท

   - พิจารณาการเติบโตของรายได้และกำไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

   - ตรวจสอบหนี้สินและสถานะทางการเงินอื่นๆ ของบริษัท


4. **วิเคราะห์ตัวชี้วัดทางการเงิน**:

   - P/E Ratio (Price to Earnings Ratio): บ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเมื่อเทียบกับราคาหุ้น

   - P/B Ratio (Price to Book Ratio): เปรียบเทียบมูลค่าตลาดของหุ้นกับมูลค่าทางบัญชีของบริษัท

   - Dividend Yield: อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ได้รับเมื่อเทียบกับราคาหุ้น


5. **ศึกษาสภาพคล่องของหุ้น**:

   - เลือกหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายสูง เพราะหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำอาจทำให้คุณขายหุ้นยากในเวลาที่ต้องการ


6. **วิเคราะห์แนวโน้มและการคาดการณ์อนาคต**:

   - ศึกษาทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมที่บริษัทอยู่

   - พิจารณาผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือเทคโนโลยี


7. **กระจายการลงทุน**:

   - อย่าลงทุนทั้งหมดในหุ้นตัวเดียว ควรกระจายการลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัว เพื่อลดความเสี่ยง


8. **ติดตามและปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุน**:

   - ติดตามข่าวสารและการประกาศของบริษัทที่คุณลงทุนอยู่

   - ปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนตามสถานการณ์และข้อมูลใหม่ๆ


9. **ศึกษาและเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ**:

   - อ่านหนังสือ บทความ และบทวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์การเงิน

   - เข้าร่วมสัมมนาและการอบรมเกี่ยวกับการลงทุน


10. **ระมัดระวังกับข่าวลือและคำแนะนำจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ**:

    - พยายามตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจจากข่าวลือ


การลงทุนในหุ้นต้องการการศึกษาค้นคว้าและการพิจารณาอย่างรอบคอบ

แต่หากคุณมีความรู้และการเตรียมตัวที่ดี

การลงทุนในหุ้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้ครับ


*** คลังความรู้การเทรดออนไลน์ ชมฟรี 1000++ คลิป เหมาะสำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่มากที่สุดครับ

https://www.zyo71.com/p/index-of-zyo.html


*** (อ่านฟรี!) คลังความรู้เรียนเทรดหุ้น 600 ++ บทความ

https://www.zyo71.com/p/index.html


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ