3 Chart Patterns น่าเชื่อถือ และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง

Image
บทเรียนที่ 3: วิธีอ่านกราฟอย่างมืออาชีพ  และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง รูปแบบกราฟ (Chart Patterns) คู่มือในการค้นหาหุ้นเด่นของวันพรุ่งนี้ ในตลาดหุ้น สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ: ปีแล้วปีเล่า หุ้นที่ชนะตลาดมักจะสร้างรูปแบบกราฟบางอย่างก่อนที่ราคาจะพุ่งแรง และการสังเกตรูปแบบเหล่านี้ง่ายกว่าที่คุณคิด เริ่มจากการเรียนรู้ 3 รูปแบบกราฟที่พบได้บ่อยและสร้างกำไรได้ดีที่สุด: สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9 Cup With Handle (ถ้วยมีหูจับ) - การจับโอกาสทำกำไรใหญ่ เริ่มจากการรู้จักรูปแบบ “ถ้วยมีหูจับ” ซึ่งมีลักษณะเหมือนถ้วยชาเอียงเล็กน้อย โดยหูจับจะอยู่ด้านขวาของกราฟ - หุ้นที่มีแนวโน้มขึ้นแรงมักจะสร้างรูปแบบนี้ก่อนเริ่มการพุ่งขึ้นรอบใหม่ - จุดซื้อ (Buy point) มักเกิดเมื่อราคาทะลุขึ้นจากหูจับ พร้อมปริมาณการซื้อขาย (volume) ที่สูงขึ้น --- Double Bottom (รูปตัว W) - รูปแบบ Double Bottom คล้ายกับตัว “W” กลับหัว โดยจุดต่ำสุดรอบที่สอ...

Position Sizing กับ Progressive Exposure คือจุดเปลี่ยนของยอดนักเทรด ผู้ปั้นพอร์ตโต 800% ในปีเดียว


2 กระบวนที่สำคัญมากที่คุณ Goverdhan Gajjala ยอดนักเทรดผู้ปั้นพอร์ตโต 800% ในปีเดียวใช้เพื่อให้บรรลุการจัดการความเสี่ยงอย่างปลอดภัย 

คือ Position Sizing กับ Progressive Exposure(ปรับขนาดตามโอกาสความเสี่ยง)

.

๑) ทุกครั้งที่คุณ Goverdhan Gajjala เข้าเทรดครั้งใหม่ เขาจะเริ่มต้นซื้อด้วยเงินที่เขาจะยอมเสียได้เท่านั้น(ซึ่งเป็นเงินก้อนเล็กมาก)

๒) จากนั้นเขาจะค่อยๆ เพิ่มหรือลดความเสี่ยงของบัญชีต่อการเทรด ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของหุ้นตัวนั้น

.

๓) เขาจึงเริ่มเทรดไม้แรกด้วยเงินเพียงเล็กน้อย โดยเสี่ยง 0.25% ของบัญชีทั้งหมดของเขาต่อการเทรด 

๔) หากการเทรดนั้นมันไปได้ดีและมีผลตอบแทนเป็นบวก เขาจะค่อยๆ เพิ่มขนาดและ % ความเสี่ยงต่อการเทรด

๖) แต่ถ้าหากการเทรดนั้นมันไม่ดีและขาดทุน เขาจะค่อยๆ ลดความเสี่ยงต่อการเทรดลง

(นี่คือหลักการ Progressive Exposure)

.

๗) แสดงว่าเขาจะเพิ่มเงินลงทุนให้ขนาดใหญ่ขึ้นในหุ้นผู้ชนะ และลงเงินให้น้อยที่สุดเมื่อการเทรดนั้นแย่ที่สุด (นี่คือหลักการ Progressive Exposure)

.

๘) การมีกระบวนการแบบนี้เอง ที่มันเพิ่มผลตอบแทนให้เขาแบบทวีคูณในเดือนที่ได้ผู้ชนะรอบใหญ่(Easy Dollars) และลดการสูญเสียของลงอย่างมากในเดือนที่ขาดทุนติดต่อกัน(Hard Penny)


๙) นี่คือวิธีคำนวณ Position Sizing ของคุณอย่างง่ายๆ:

สมมติว่าขนาดบัญชีของผมคือ $100,000: 

หุ้นที่ผมต้องการเทรดอยู่ที่ $37.43 และผมต้องการเสี่ยง 0.5% ของบัญชีของฉัน (เสียเงิน $500 ถ้ามันลงถึงจุดหยุดขาดทุนที่ $34.58) 

ผมจะรู้ว่า Position Size ของผมต้องเท่ากับ 175 หุ้น หรือ $6,566

.

๑๐) เครื่องคิดเลขจะดูแลคณิตศาสตร์ให้กับคุณ

เพียงปรับตามยอดคงเหลือ ราคาหุ้น ราคา SL และ %ความเสี่ยงต่อการเทรด

.

๑๑) ผมมักจะเทรดโดยรู้ว่าจะต้องเสี่ยงมากแค่ไหน และเพราะเหตุใด

.

๑๒) การเรียนรู้เกี่ยวกับ Position Sizing กับ Progressive Exposure เป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพการเทรดของผม และเป็นส่วนสำคัญของผลตอบแทน(ปั้นพอร์ตโต 800%)ของผมในปีที่แล้ว

- - Goverdhan Gajjala

.

.

ปล. ผมเห็นด้วยครับ Position Sizing กับ Progressive Exposure คือจุดเปลี่ยนของผมเช่นกัน



7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ