3 Chart Patterns น่าเชื่อถือ และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง

Image
บทเรียนที่ 3: วิธีอ่านกราฟอย่างมืออาชีพ  และหาจุดซื้อที่ถูกต้อง รูปแบบกราฟ (Chart Patterns) คู่มือในการค้นหาหุ้นเด่นของวันพรุ่งนี้ ในตลาดหุ้น สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ: ปีแล้วปีเล่า หุ้นที่ชนะตลาดมักจะสร้างรูปแบบกราฟบางอย่างก่อนที่ราคาจะพุ่งแรง และการสังเกตรูปแบบเหล่านี้ง่ายกว่าที่คุณคิด เริ่มจากการเรียนรู้ 3 รูปแบบกราฟที่พบได้บ่อยและสร้างกำไรได้ดีที่สุด: สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9 Cup With Handle (ถ้วยมีหูจับ) - การจับโอกาสทำกำไรใหญ่ เริ่มจากการรู้จักรูปแบบ “ถ้วยมีหูจับ” ซึ่งมีลักษณะเหมือนถ้วยชาเอียงเล็กน้อย โดยหูจับจะอยู่ด้านขวาของกราฟ - หุ้นที่มีแนวโน้มขึ้นแรงมักจะสร้างรูปแบบนี้ก่อนเริ่มการพุ่งขึ้นรอบใหม่ - จุดซื้อ (Buy point) มักเกิดเมื่อราคาทะลุขึ้นจากหูจับ พร้อมปริมาณการซื้อขาย (volume) ที่สูงขึ้น --- Double Bottom (รูปตัว W) - รูปแบบ Double Bottom คล้ายกับตัว “W” กลับหัว โดยจุดต่ำสุดรอบที่สอ...

เขาเทรดผลงานดีขึ้นผิดหูผิดตาเพราะ เปลี่ยนจาก “โฟกัสตลาด” เป็น "โฟกัส คณิตศาสตร์ และสถิติของการเทรด"



Peter Brandt เป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมาก และในปี 2014 เขาเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการเทรดไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เน้นไปที่ "ตลาด" (Market) เป็นหลัก เขาหันมาโฟกัสที่ "คณิตศาสตร์และสถิติของการเทรด" (Math/Stats of Trading) ซึ่งเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ที่แท้จริง




1. เปลี่ยนโฟกัสจาก "ตลาด" ไปสู่ "สถิติ" ของการเทรด

เทรดเดอร์มือใหม่มักจะพยายามทำนายตลาดว่ามันจะขึ้นหรือลง แต่ Peter Brandt บอกว่า 

จริง ๆ แล้วการพยายามทำนายตลาดเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ สิ่งที่เราควบคุมได้คือ "ตัวเลขและสถิติ" ที่อยู่เบื้องหลังระบบเทรดของเรา


2. กฎของ Peter Brandt สำหรับการบริหารความเสี่ยง

Brandt ไม่ได้ใช้กลยุทธ์ซับซ้อน แต่เขาให้ความสำคัญกับ "การควบคุมตัวเลขทางสถิติของการเทรด" โดยเขามีหลักเกณฑ์สำคัญดังนี้:


✅ (1) หลีกเลี่ยงช่วงที่มีอัตราชนะมากเกินไป (>50%)

- ฟังดูขัดแย้ง แต่ Brandt หมายถึงว่าถ้าเราเข้าใจสถิติของระบบการเทรดของตัวเองดีพอ จะรู้ว่าช่วงที่เราชนะติดกันมากเกินไปอาจทำให้เราประมาท และเพิ่มขนาดการเทรดมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนหนักในภายหลัง


✅ (2) จำกัดขนาดการขาดทุนในแต่ละการเทรด

- ขาดทุนเฉลี่ยต่อเทรดต้องไม่เกิน 20 basis points (BPs)  

  (1 BP = 0.01% ของพอร์ต)  

  หมายความว่า เขาพยายามให้ขนาดของการขาดทุนในแต่ละไม้ไม่เกิน 0.2% ของพอร์ต  

  → ตัวอย่าง: ถ้าพอร์ตมีขนาด $100,000 การขาดทุนเฉลี่ยต่อไม้ต้องไม่เกิน $200


- ถ้าเปิด 2 ไม้ (tranche) ในการเทรดเดียวกัน การขาดทุนรวมกันต้องไม่เกิน 60 BPs  

  → ตัวอย่าง: ถ้าเปิด 2 ไม้ต่อการเทรดเดียวกัน ขาดทุนรวมกันต้องไม่เกิน 0.6% ของพอร์ต


Position Sizing กับพัฒนาการนักเทรด 3 ระดับ... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง
  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=312087


✅ (3) ต้องมีการเทรดที่กำไรเยอะพอ

- 15% ของการเทรดทั้งหมดต้องมีกำไรเฉลี่ยมากกว่า 60 BPs  

  หมายความว่า แม้จะมีการขาดทุนเล็ก ๆ อยู่บ้าง แต่ต้องมีการเทรดที่มีกำไรใหญ่มากพอที่จะทดแทนขาดทุน และดึงค่าเฉลี่ยกำไรขึ้นมาได้  

  → ตัวอย่าง: ถ้าพอร์ตมีขนาด $100,000 เทรดที่ทำกำไรสูงควรทำได้มากกว่า $600 ต่อการเทรด


3. เป้าหมายหลักคือ "Profit Factor" ไม่ใช่ Return on Risk (ROR)

Brandt ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไปที่ อัตราผลตอบแทน (ROR) โดยตรง แต่เขาให้ความสำคัญกับ Profit Factor (อัตราส่วนกำไรต่อขาดทุน)

Profit Factor = กำไรรวม ÷ ขาดทุนรวม  

ถ้า Profit Factor สูงกว่า 1.5 หรือ 2 หมายความว่าระบบเทรดมีประสิทธิภาพดี


4. ถ้าตัวเลขทางสถิติเป็นไปตามแผน ROR ควรเกิน 35-40% ต่อปี
Brandt เชื่อว่าถ้าเขาสามารถควบคุมตัวเลขตามเกณฑ์ข้างต้นได้ เขาจะได้อัตราผลตอบแทน (ROR) มากกว่า 35-40% ต่อปี  โดยอัตโนมัติ



eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340


5. สรุป: คณิตศาสตร์การเทรดนั้นเรียบง่าย แต่การทำให้ได้จริงคือความท้าทาย
Brandt บอกว่า "ตัวเลขมันง่ายมาก" แต่ความท้าทายอยู่ที่ "การบริหารความเสี่ยงและการจับจังหวะเทรด"  
นี่คือจุดที่ทำให้เทรดเดอร์หลายคนล้มเหลว เพราะพวกเขาไม่ได้มีวินัยและความสม่ำเสมอในการทำตามแผน

ข้อคิดสำหรับนักเทรดมือใหม่
✅ เลิกพยายามทำนายตลาด แต่โฟกัสที่ตัวเลขของระบบเทรด  
✅ บริหารความเสี่ยงเป็นอันดับแรก ขาดทุนต้องถูกจำกัดอยู่เสมอ  
✅ มองภาพรวมระยะยาว ไม่สนใจแค่การเทรดเดียว แต่ดูที่ผลลัพธ์ของระบบทั้งหมด  
✅ ให้ความสำคัญกับ Profit Factor มากกว่าแค่ ROR  
✅ ต้องมีวินัยและทำตามแผน อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้อารมณ์นำการเทรด  

บทสรุป**Peter Brandt เปลี่ยนแนวคิดการเทรดโดยเน้นไปที่ ตัวเลขและสถิติของระบบ  มากกว่าการพยายาม "ทำนายตลาด" นี่คือแนวคิดที่เทรดเดอร์มือใหม่สามารถนำไปใช้ได้ เพราะสุดท้ายแล้ว "คณิตศาสตร์ของการเทรด"** เป็นสิ่งที่คุมได้ ส่วนตลาดเป็นสิ่งที่คุมไม่ได้

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ