ระบบเทรดระดับเทพ ก็พาพอร์ตพังได้ ถ้าไม่เข้าใจ "Position Sizing"

Image
อีบุ๊ก เคล็ดลึก Position Size ปั้นพอร์ตเล็กให้เติบใหญ่ อย่างมั่นคง มีจำหน่ายที่   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM1OTI2OTt9 “แม้คุณจะมีระบบเทรดที่ดีที่สุดในโลก ก็ยังสามารถทำพอร์ตพังได้ หากบริหารขนาดการเทรด (Position Sizing) ไม่เหมาะสม ในทางกลับกัน ถึงแม้ระบบเทรดจะธรรมดา แต่หากจัดการ Position Sizing ได้ดี คุณก็สามารถสร้างความมั่งคั่งได้เช่นกัน ดังนั้น... คุณต้องเรียนรู้เรื่อง Position Sizing ให้ลึกซึ้ง” — Dr. Van K. Tharp . ลองจินตนาการว่าคุณเป็นทหารในสนามรบ คุณมีปืนที่ดีที่สุดในโลก—แม่นยำ ยิงไกล ทรงพลัง นี่คือ “Holy Grail” หรือ “สุดยอดระบบเทรด” ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันถึง แต่ถ้าคุณวิ่งเข้าไปกลางสนามศัตรู โดยไม่วางแผน ไม่รู้จำนวนกระสุน ไม่รู้ว่าจะยิงเมื่อไหร่ หรือยิงยังไง ต่อให้ปืนดีแค่ไหน… คุณก็พลาดง่ายๆ และอาจ “โดนยิงกลับ” จนแพ้ . การเทรดก็เช่นกันครับ ระบบเทรดที่ดีแค่ไหนก็ตาม หากคุณ บริหารขนาดการเปิดออเดอร์ไม่ถูกต้อง (Position Sizing ผิดพลาด) มันก็สามารถ “ทำให้พอร์ตพัง” ได้อย่างง่ายดา...

Position sizing ที่ดี ช่วยลดปัญหา Trading psychology ได้แทบทั้งหมด

Steve Burns พูดได้น่าสนใจว่า "ส่วนใหญ่ของปัญหาด้านจิตวิทยาการเทรดสามารถแก้ไขได้ด้วยการลดขนาดของการเทรดลง และเฝ้าดูกราฟเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นสำหรับสัญญาณที่คุณใช้ ไม่ใช่การดูกราฟทั้งวัน"


Position Sizing กับพัฒนาการนักเทรด 3 ระดับ... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง
  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=312087


หมายความว่าไง:

1. ปัญหาด้านจิตวิทยาในการเทรดคืออะไร?

เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เช่น ความกลัว ความโลภ ความเครียด หรือความกังวล ที่อาจทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาด เช่น ขายเร็วเกินไป ซื้อเพิ่มโดยไม่ไตร่ตรอง หรือไม่กล้าปิดขาดทุน


2. ทำไมการลดขนาดการเทรดถึงช่วยได้?

ถ้าคุณเปิดออเดอร์ขนาดใหญ่ เช่น ใช้เงินจำนวนมากหรือเลเวอเรจสูง คุณจะรู้สึกกดดัน เพราะการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของราคาอาจทำให้คุณขาดทุนหรือกำไรมาก

แต่ถ้าคุณลดขนาดการเทรดลง เช่น ใช้เงินหรือเลเวอเรจน้อยลง คุณจะควบคุมอารมณ์ได้ง่ายขึ้น เพราะแรงกดดันลดลง และมีเวลาคิดวิเคราะห์มากขึ้น


3. การดูกราฟตลอดทั้งวันมีผลเสียอย่างไร?

การจ้องกราฟนานเกินไปอาจทำให้คุณเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ รวมถึงสร้างความกังวลเกินเหตุ

ยิ่งคุณดูกราฟบ่อยเท่าไหร่ คุณอาจรู้สึกอยาก "เทรดตามอารมณ์" เช่น เห็นราคาขึ้นก็รีบซื้อ เห็นราคาลงก็รีบขาย โดยไม่อิงกับแผนที่วางไว้


e-book : วินัย:ผลพลอยได้ของ Edge... ในรูปแบบ ebook


4. แล้วควรทำอย่างไร?

ตั้งเวลาในการดูกราฟให้ชัดเจน เช่น ดูเฉพาะช่วงที่กราฟมีโอกาสส่งสัญญาณการเข้า/ออก เช่น ทุกชั่วโมง หรือแค่ช่วงปิดตลาด

ใช้แผนการเทรดที่คุณกำหนดไว้ เช่น รอสัญญาณที่ชัดเจนจากเครื่องมือ เช่น MACD, RSI หรือกราฟแท่งเทียน แล้วค่อยตัดสินใจ ไม่ใช่ดูกราฟแล้วเทรดตามอารมณ์


5. ประโยชน์ของการทำตามนี้:

- ช่วยลดความเครียดและการตัดสินใจผิดพลาด

- ทำให้คุณมีเวลาโฟกัสกับเรื่องอื่นในชีวิต เช่น การศึกษาเพิ่มเติม การพักผ่อน หรือวางแผนเทรด

- ส่งเสริมการเทรดที่มีวินัยและยั่งยืนในระยะยาว

eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด"

มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340

สรุปง่าย ๆ: ลดขนาดการเทรดเพื่อไม่ให้กดดันตัวเอง และอย่าจ้องกราฟทั้งวัน เลือกดูเฉพาะช่วงที่จำเป็นตามแผนการเทรดของคุณ แล้วจิตใจคุณจะนิ่งขึ้นและการตัดสินใจดีขึ้น!

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

สรุปหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่"

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) แนวทางการซื้อหุ้นระหว่างขาขึ้น

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

ทำไมคุณเทรดมานาน…แต่ผลลัพธ์ยังไม่ต่างจากวันแรก?