ระบบเทรดระดับเทพ ก็พาพอร์ตพังได้ ถ้าไม่เข้าใจ "Position Sizing"

Image
อีบุ๊ก เคล็ดลึก Position Size ปั้นพอร์ตเล็กให้เติบใหญ่ อย่างมั่นคง มีจำหน่ายที่   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM1OTI2OTt9 “แม้คุณจะมีระบบเทรดที่ดีที่สุดในโลก ก็ยังสามารถทำพอร์ตพังได้ หากบริหารขนาดการเทรด (Position Sizing) ไม่เหมาะสม ในทางกลับกัน ถึงแม้ระบบเทรดจะธรรมดา แต่หากจัดการ Position Sizing ได้ดี คุณก็สามารถสร้างความมั่งคั่งได้เช่นกัน ดังนั้น... คุณต้องเรียนรู้เรื่อง Position Sizing ให้ลึกซึ้ง” — Dr. Van K. Tharp . ลองจินตนาการว่าคุณเป็นทหารในสนามรบ คุณมีปืนที่ดีที่สุดในโลก—แม่นยำ ยิงไกล ทรงพลัง นี่คือ “Holy Grail” หรือ “สุดยอดระบบเทรด” ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันถึง แต่ถ้าคุณวิ่งเข้าไปกลางสนามศัตรู โดยไม่วางแผน ไม่รู้จำนวนกระสุน ไม่รู้ว่าจะยิงเมื่อไหร่ หรือยิงยังไง ต่อให้ปืนดีแค่ไหน… คุณก็พลาดง่ายๆ และอาจ “โดนยิงกลับ” จนแพ้ . การเทรดก็เช่นกันครับ ระบบเทรดที่ดีแค่ไหนก็ตาม หากคุณ บริหารขนาดการเปิดออเดอร์ไม่ถูกต้อง (Position Sizing ผิดพลาด) มันก็สามารถ “ทำให้พอร์ตพัง” ได้อย่างง่ายดา...

ความได้เปรียบทางการเทรดไม่ได้อยู่ที่ Perfect Setup แต่อยู่ที่เทคนิค Exit


อีบุ๊ก เทคนิค Exit พิชิตผลการเทรด

มีจำหน่ายแล้วที่แอพ Meb https://t.co/6hfYXffLeK

โปรโมชั่น Early Bird : ลดราคา 20% จากปก 30 กย - 2 ตค 


ความได้เปรียบทางการเทรดไม่ได้อยู่ที่ Perfect Setup แต่อยู่ที่เทคนิค Exit

Peter Robbins – "ความได้เปรียบของนักเทรดมักไม่ได้อยู่ที่ ความสามารถในการหาจังหวะการเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ แต่ขึ้นอยู่กับทักษะในการจัดการการเทรดตั้งแต่การเข้าเทรดจนถึงการออกจากการเทรด"


คำพูดนี้เน้นว่าความสำเร็จของนักเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการหาจังหวะการเข้าเทรดที่ "สมบูรณ์แบบ" เพียงอย่างเดียว หลายคนอาจคิดว่าถ้าหากหาการตั้งค่าหรือสัญญาณที่ดีที่สุดได้ การเทรดก็จะประสบความสำเร็จ แต่นั่นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของกระบวนการทั้งหมด


1. การจัดการตั้งแต่การเข้าเทรดจนถึงการออกจากการเทรด (Trade Management):  

การบริหารการเทรด (Trade Management) คือทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเทรด มันรวมถึงการวางแผนและการจัดการทั้งในด้านการตั้งจุดเข้าตลาด การจัดการความเสี่ยง การติดตามความเคลื่อนไหวของตลาด และการตัดสินใจว่าจะออกจากตลาดเมื่อไหร่ ความสามารถในการจัดการนี้เป็นสิ่งที่ทำให้นักเทรดประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ได้เปิดสถานะแล้ว


2. ไม่จำเป็นต้องหาการเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ:  

การหาจุดเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะตลาดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การพยายามมุ่งหาจุดที่สมบูรณ์แบบอาจทำให้คุณเสียเวลาและพลาดโอกาสไป การเทรดที่ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องรอให้ทุกปัจจัยเหมาะสมที่สุด แต่คือการเข้าใจและปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพตลาดที่เป็นอยู่


3. การจัดการความเสี่ยง:  

หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการจัดการการเทรดคือการจัดการความเสี่ยง นักเทรดที่เก่งจะรู้ว่าควรเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนในการเทรดแต่ละครั้ง และจะใช้เครื่องมืออย่างเช่น "จุดตัดขาดทุน" (Stop Loss) เพื่อป้องกันการสูญเสียทุนเกินความจำเป็น การปกป้องทุนถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะหากคุณสามารถจำกัดการขาดทุนและปกป้องกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณก็มีโอกาสทำกำไรได้ในระยะยาว


4. การติดตามและปรับปรุงกลยุทธ์:  

การจัดการการเทรดที่ดีหมายถึงการติดตามสถานการณ์ตลาดหลังจากที่คุณเปิดสถานะแล้ว นักเทรดที่เก่งจะรู้ว่าควรจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อไหร่ อาจเป็นการเลื่อนจุดหยุดขาดทุนเพื่อปกป้องกำไร หรือการเพิ่มปริมาณการเทรดเมื่อสถานการณ์เป็นไปตามที่คาดไว้


5. การตัดสินใจออกจากตลาด: 

การตัดสินใจออกจากตลาดเป็นอีกส่วนที่สำคัญมาก การออกจากการเทรดไม่ว่าจะเป็นตอนทำกำไรหรือตัดขาดทุน จะส่งผลต่อผลลัพธ์โดยรวม หากออกช้าไป อาจทำให้สูญเสียกำไรที่สะสมไว้ หรือปล่อยให้การขาดทุนมากขึ้น นักเทรดที่เก่งจะรู้ว่าเมื่อไหร่ควรออกเพื่อรักษากำไรและลดการสูญเสีย


สรุป:  

ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการหาจุดเข้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ แต่มาจากการจัดการที่ชาญฉลาด ตั้งแต่การวางแผนการเทรด การจัดการความเสี่ยง การติดตามตลาด และการตัดสินใจในการออกจากตลาด การมีทักษะในด้านการจัดการทั้งหมดนี้คือสิ่งที่สร้างความได้เปรียบให้กับนักเทรดในระยะยาว


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

สรุปหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่"

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) แนวทางการซื้อหุ้นระหว่างขาขึ้น

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

ทำไมคุณเทรดมานาน…แต่ผลลัพธ์ยังไม่ต่างจากวันแรก?