ระบบเทรดระดับเทพ ก็พาพอร์ตพังได้ ถ้าไม่เข้าใจ "Position Sizing"

Image
อีบุ๊ก เคล็ดลึก Position Size ปั้นพอร์ตเล็กให้เติบใหญ่ อย่างมั่นคง มีจำหน่ายที่   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM1OTI2OTt9 “แม้คุณจะมีระบบเทรดที่ดีที่สุดในโลก ก็ยังสามารถทำพอร์ตพังได้ หากบริหารขนาดการเทรด (Position Sizing) ไม่เหมาะสม ในทางกลับกัน ถึงแม้ระบบเทรดจะธรรมดา แต่หากจัดการ Position Sizing ได้ดี คุณก็สามารถสร้างความมั่งคั่งได้เช่นกัน ดังนั้น... คุณต้องเรียนรู้เรื่อง Position Sizing ให้ลึกซึ้ง” — Dr. Van K. Tharp . ลองจินตนาการว่าคุณเป็นทหารในสนามรบ คุณมีปืนที่ดีที่สุดในโลก—แม่นยำ ยิงไกล ทรงพลัง นี่คือ “Holy Grail” หรือ “สุดยอดระบบเทรด” ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันถึง แต่ถ้าคุณวิ่งเข้าไปกลางสนามศัตรู โดยไม่วางแผน ไม่รู้จำนวนกระสุน ไม่รู้ว่าจะยิงเมื่อไหร่ หรือยิงยังไง ต่อให้ปืนดีแค่ไหน… คุณก็พลาดง่ายๆ และอาจ “โดนยิงกลับ” จนแพ้ . การเทรดก็เช่นกันครับ ระบบเทรดที่ดีแค่ไหนก็ตาม หากคุณ บริหารขนาดการเปิดออเดอร์ไม่ถูกต้อง (Position Sizing ผิดพลาด) มันก็สามารถ “ทำให้พอร์ตพัง” ได้อย่างง่ายดา...

หากคุณต้องการลาออกจากงานประจำเพื่อเทรดเต็มเวลา นี่คือคำแนะนำจากคุณปู่ Peter Brandt : Full time trader วัยเก๋า

หากคุณต้องการลาออกจากงานประจำเพื่อเทรดเต็มเวลา

นี่คือคำแนะนำจากคุณปู่ Peter Brandt : Full time trader วัยเก๋า
1) เงินทุนทั้งก้อนควรมาจากกำไรที่คุณเทรดได้เท่านั้น (เพราะมันเป็น
ตัวการันตีว่าคุณมีพื้นฐานการทำเงินที่สม่ำเสมอมาแล้ว)
2) อย่าได้คาดหวังกำไรต่อปีเกินกว่า 50%
3) อย่าได้เสี่ยงเกินกว่า 2% ของพอร์ต ต่อการเทรดแต่ละครั้ง
4) คุณต้องมีเงินสดสำรองใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพากำไรจากการเทรด
นาน 18 เดือน (คุณจะได้ไม่กดดันตัวเองให้ต้องเทรดโดยไม่จำเป็น)
5) คาดหมายไว้ก่อนเลยว่า ปีแรก คุณจะเป็นผู้แพ้ ทำเงินไม่ได้เลย

Wanting to ditch day job to trade full time? My advice
1. Entire account capitalization should be from trading profits
2. Don't expect >50% annual RORs
3. Don' risk >2% of capital per trade
4. Have 18 months of living expenses saved separately
5. Expect Yr #1 to be a loser.
@Peter Brandt - Unknown Market Wizards

(การเทรดไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทางการเงินของคุณ แต่มันจะขยายให้คุณเสียเงินมากขึ้นต่างหาก)
ความหมายที่ปู่ไม่ได้บอกตรง ๆ ผมอยากเสริมให้เข้าใจมากขึ้น
1) คุณต้องอยู่รอดให้ได้ก่อน รอดได้ถึงมีโอกาสรวย
2) Psychology จิตใจคุณต้องไม่ถูกกดดันจากความคาดหวังผลลัพธ์
3) คุณจะเทรดได้ดีขึ้น เมื่อทำตามกระบวนการ ด้วยใจเป็นกลาง
4) คุณต้องไม่ปล่อยให้ "เงิน" เป็นนายควบคุมการเทรดของคุณ
เพราะถ้าคุณเทรดเพราะต้องการเงิน Psychology คุณจะไม่เป็นกลาง
5) นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Psychology จึงสำคัญมากที่สุด รองลงมา
คือ การบริหารเงินทุน สุดท้ายเป็นกลยุทธ์การเทรด
6) ถ้า psychology คุณรีบเร่ง ต้องชนะเท่านั้น แพ้ไม่ได้ คุณก็จะใช้กลยุทธ์ไปรับใช้อารมณ์แย่ นั้น เมื่อคุณหลงเทรดตามอารมณ์ เอาแต่ใจ แก้แค้น ก็ส่งผลให้พอร์ตพัง แล้วคุณก็จะต้องกลับไปของานคนอื่นทำ/เป็นลูกจ้างประจำที่คุณเกลียดอีกครั้งจนได้


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

สรุปหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่"

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) แนวทางการซื้อหุ้นระหว่างขาขึ้น

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

ทำไมคุณเทรดมานาน…แต่ผลลัพธ์ยังไม่ต่างจากวันแรก?